เทรนด์ไมโคร สรุปสถานการณ์ไซเบอร์ ซิเคียวริตี พร้อมความสำเร็จหลักในปี 2564 พร้อมมุ่งสู่ปี 2565 ตอบโจทย์กระแสการมุ่งสู่คลาวด์ และ As-a-Service ขององค์กรธุรกิจ เพื่อการทำงานแบบ WFH และ Hybrid Model ที่ปลอดภัย ชู Vision One Service One และ Global Threats Intelligence เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีมากยิ่งขึ้นให้แก่องค์กร
น ส.ปิยธิดา ตันตระกูล ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เทรนด์ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมหลักของภัยคุกคามในประเทศไทย ในปี 2564 ยังคงเป็นเรื่องของแรนซัมแวร์ แต่แนวโน้มมีความสามารถในการรับมือได้ดีขึ้น และมีความเสียหายน้อยลงเนื่องจากการตรวจพบและการตอบสนองต่อการโจมตี (detect & response) ทำได้ไวขึ้น โดยกลุ่มที่เป็น Top 3 ของการโจมตียังคงเป็นภาคธนาคาร องค์กรในระดับเอนเทอร์ไพรซ์ และธุรกิจคอมเมอร์เชียล ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ล่วงหน้าที่เทรนด์ไมโครทำนายไว้
จากการคาดการณ์ของการ์ทเนอร์ ทิศทางของตลาดไซเบอร์ซิเคียวริตีมีการเติบโตมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของคลาวด์ ซิเคียวริตี เนื่องจากการมาถึงของโควิด-19 ทำให้การทำงานจากบ้าน หรือ WFH เพิ่มสูงขึ้น ทำให้องค์กรมีการปรับไปสู่การใช้งานคลาวด์มากยิ่งขึ้น องค์กรธุรกิจในภาคส่วนต่างๆ มีความสนใจในการที่จะใช้บริการในลักษณะของ As-a-Service เพิ่มขึ้น ทำให้ตลาดไซเบอร์ซิเคียวริตีของไทย โดยเฉพาะคลาวด์ ซิเคียวริตีมีการเติบโตขึ้นจากที่คาดการณ์ไว้
ในส่วนของรูปแบบของการโจมตีและภัยคุกคามในปี 2564 หลักๆ มีอยู่ 3 เรื่องสำคัญคือ 1.เมื่อตลาดเริ่มไปสู่คลาวด์เพิ่มมากขึ้น ภัยคุกคามต่างๆ ก็ตามมาในทิศทางเดียวกัน ดังนั้น คลาวด์ ซิเคียวริตีจึงมีความต้องการมากขึ้น 2.นอกจากนี้การเปลี่ยนไปสู่ SaaS model ทำให้เกิดการโจมตี หรือแรนซัมแวร์ในลักษณะ Ransomware-as-Service เพิ่มสูงขึ้น และ 3.ท้ายสุดคือการโจมตีที่ไม่เคยพบมาก่อน เช่น log4j จะเป็นสิ่งที่เห็นมากยิ่งขึ้นในปีหน้า
ดังนั้น เราต้องสามารถเห็นภาพรวมด้านการรักษาความปลอดภัยทั้งหมดของลูกค้า ในปี 2565 ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิม ทั้งในมุมของการป้องกัน การมองเห็นภาพรวมมากขึ้นคือสิ่งจำเป็น ส่วนภัยคุกคามอย่างแรนซัมแวร์จะมีการทำเรื่องของการปกป้องแบบหลายระดับเพิ่มมากขึ้น รวมถึงมีระบบสำรองข้อมูลที่ดีและใหม่อยู่เสมอทั้งในแง่ของเครื่องมือและอัปเดตให้พร้อมรับมือเสมอ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เป็นความสำเร็จที่สำคัญของเทรนด์ไมโครในปีนี้ คือ การที่เราเปลี่ยนรูปแบบไปสู่การเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น สร้างความตระหนักรู้กับองค์กรและหน่วยงานสำคัญด้านการรักษาความปลอดภัยบนไซเบอร์เพิ่มขึ้น เราปรับวิกฤตเป็นโอกาส ทำให้เห็นได้ชัดว่าตลาดมีความต้องการทางด้านซิเคียวริตีเพิ่มขึ้นในปีนี้ องค์กรขนาดใหญ่และภาคการเงินยังลงทุนด้านการรักษาความปลอดภัย ที่สำคัญภาคอุตสาหกรรมการผลิตและค้าปลีกเองมีการปรับเข้าสู่คลาวด์เร็วขึ้น ทำให้เราต้องขยับตัวให้เร็วตามเพื่อให้ตอบสนองลูกค้าให้เร็วกว่าเดิม
สำหรับแนวการดำเนินงานในช่วงปี 2565-2566 นั้น เรื่องดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน ยังคงเป็นแรงส่งสำคัญที่องค์กรต่างๆ ยังคงเร่งดำเนินการเพื่อให้สามารถทำงานได้ทั้งในรูปแบบของ WFH ตลอดจนการทำงานแบบ Hybrid Model ได้อย่างปลอดภัย ในปี 2565 เทรนด์ไมโครตั้งเป้าหมายในการเป็น Cybersecurity Platform ในการช่วยลูกค้าในแง่ของการตอบสนองต่อสถานการณ์ไม่พึงประสงค์และไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น เพื่อให้องค์กรสามารถควบคุมสถานการณ์และมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นให้รวดเร็วทันการณ์และลดความเสียหายให้มากที่สุด และยังสามารถเตือนภัยล่วงหน้า (Early Warning) โดยมีเครื่องมือต่างๆ เข้ามาช่วยป้องกันเชิงรุกเพิ่มมากขึ้นในทิศทางที่จะช่วยให้องค์กรสามารถตั้งรับกับการปฏิรูปแบบฉับพลันได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
โดยการนำของ Trend Micro Vision One Platform แพลตฟอร์มระบบความปลอดภัยไซเบอร์ ที่มีโซลูชัน Service One สำหรับจัดการขยายการตรวจจับและการตอบสนองต่อภัยคุกคาม Extended Detection and Response (XDR) และ Incident Response ที่เป็นทั้งเครื่องมือจัดการและสอดส่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีมากยิ่งขึ้นให้องค์กร รวมไปถึง Global Threats Intelligence กุญแจหลักในการสร้างความพร้อมในการรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์ให้ลูกค้าอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ