กว่า 1 ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 ธุรกิจค้าปลีกเป็นอีกหนึ่งภาคธุรกิจที่ต้องเผชิญกับความท้าทายเพื่อความอยู่รอด ต้องเร่งปรับตัวเพื่อไม่ให้เสียโอกาสทางธุรกิจ และขยายช่องทางการขายเพื่อรองรับลูกค้าที่หันมาซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น ทรู 5G พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการนำอัจฉริยภาพ 5G ช่วยธุรกิจค้าปลีกพลิกวิกฤตเป็นโอกาส โดยร่วมกับ Huawei ASEAN Academy และ Techsauce จัดงานสัมมนา 5G พลิกโฉมประเทศไทย “True 5G Tech Talk” ในหัวข้อ “Retail” ผ่าน True VROOM พร้อมถ่ายทอดสดที่ทรูไอดี โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมระบบจัดการร้านค้าร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองในการนำเทคโนโลยี 5G มาช่วยพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพให้ธุรกิจค้าปลีก พร้อมรับมือกับวิถีใหม่ และอัปเดตเทรนด์การค้าปลีกยุค 5G ที่น่าสนใจดังนี้
อนาคตธุรกิจค้าปลีกยุค 5G ต้องเป็นทั้งออนไลน์และออฟไลน์ โดย Mr.Reynazran Royono ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหารบริษัท Snapcart แอปพลิเคชันสำหรับเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเพื่อใช้ทำการตลาด กล่าวว่า การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนจำเป็นมากในการทำธุรกิจ สามารถทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ
• เป้าหมาย คือ สิ่งสำคัญที่สุดในการทำธุรกิจ การวิเคราะห์เป้าหมายจะทำให้รู้ว่าธุรกิจต้องการพัฒนาในด้านใด เพื่อจะได้วางแผนการลงทุนได้ถูกต้อง ไม่มีคำตอบตายตัวว่าจะต้องใช้เทคโนโลยีใดมาพัฒนาธุรกิจ
• ยกตัวอย่าง ในต่างประเทศในแบรนด์ที่ขายสินค้าตัวเดียวกันหรือกลุ่มลูกค้าใกล้เคียงกัน ว่าธุรกิจเหล่านั้นเลือกใช้เทคโนโลยีใดมาสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า
• ต้องพัฒนาเทคโนโลยีที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าและเป้าหมายของธุรกิจ จะส่งผลดีต่อตัวธุรกิจทั้งในการขายออนไลน์และหน้าร้านด้วย
• การเก็บข้อมูลลูกค้าจากแพลตฟอร์มต่างๆ ช่วยให้นักการตลาดเข้าใจลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น
• เทคโนโลยี 5G เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บข้อมูลในระบบหลังบ้านได้ดีขึ้น วิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าได้แม่นยำขึ้นและสามารถเลือกโปรโมชันที่เหมาะกับลูกค้าเฉพาะบุคคลอีกด้วย
• แนวโน้มธุรกิจค้าปลีกจะต้องผสมผสานรูปแบบการขายของทั้งออนไลน์กับออฟไลน์เข้าด้วยกัน หรือแบบ O2O คือ มีช่องทางออนไลน์ในการซื้อสินค้าและการขายของแบบมีหน้าร้าน ร้านค้าควรเก็บข้อมูลลูกค้าจากประวัติการสั่งซื้อหรือการคลิกบนแพลตฟอร์ม จะทำให้ร้านค้าสามารถรับรู้ถึงความจงรักภักดีของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ได้
5G ช่วยพัฒนาค้าปลีกในไทย โดย Mr.Axel Winter ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายดิจิทัล บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เจ้าของและผู้บริหารสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และไอคอนสยาม ให้ความคิดเห็นว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
• ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่ติดต่อกันบนช่องทางออนไลน์มากขึ้น ซึ่งเกิดจากนโยบาย Work from Home กิจกรรมต่างๆ จึงเปลี่ยนเป็นแบบออนไลน์ ทำให้ดิจิทัลแพลตฟอร์มต้องพัฒนาคุณภาพมากยิ่งขึ้น
• การลงทุนด้านเทคโนโลยีจะสามารถช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมค้าปลีกในไทยได้
• ยกตัวอย่าง สหรัฐอเมริกาที่มีการลงทุนเพื่อพัฒนาบริการ 5G ให้เข้ามาสนับสนุนการทำงานของฟีเจอร์ต่างๆ ให้มีความเสถียรและรวดเร็ว เพื่อการเก็บข้อมูลและนำไปพัฒนาระบบการจัดการให้มีประสิทธิภาพ
5G สร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า โดย Mr.Sulabh Dhanuka หัวหน้าสายงานธุรกิจองค์กรระหว่างประเทศ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ธุรกิจค้าปลีกต้องเร่งปรับตัวเพื่อความอยู่รอดเพื่อและไม่ให้เสียโอกาสทางธุรกิจ
• เทคโนโลยี 5G จะช่วยให้ธุรกิจปรับตัว เพื่อตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปได้ดีขึ้น
o ลูกค้ามีประสบการณ์ในการซื้อสินค้าผ่านทางช่องทางออนไลน์มากยิ่งขึ้น
o ร้านค้าควรมีของเต็มตลอด เพราะการตอบสนองที่รวดเร็วจะกลายเป็นพฤติกรรมใหม่ของผู้บริโภคในยุคนิว นอร์มอล
o ความต้องการเฉพาะบุคคลที่ไม่ใช่แค่การซื้อของออนไลน์เท่านั้น แต่รวมไปถึงหน้าร้านต้องเตรียมพร้อมรับมือกับลูกค้าที่ซื้อสินค้าแบบออฟไลน์ด้วยเช่นกัน
• การนำ Augmented Reality (AR), Virtual Reality (VR) หรือ IoT มาสร้างโลกเสมือนจริงและใช้กับหน้าร้านเท่าที่จะทำได้ สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างร้านค้ากับผู้บริโภคได้เป็นอย่างดีและยังสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าอีกด้วย