xs
xsm
sm
md
lg

ESRI โฟกัส Location Intelligence หนุนค้าปลีก สมาร์ทซิตี ก่อสร้างขนาดใหญ่-อสังหาฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


น.ส.ธนพร ฐิติสวัสดิ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด
อีเอสอาร์ไอ (ESRI) มั่นใจตลาด Location Intelligence ทั่วโลกขยายตัวก้าวกระโดด เดินหน้ากำหนดทิศทางธุรกิจปี 2564 โดยโฟกัสที่การพัฒนาโซลูชันเรือธงผ่านเทคโนโลยี GIS ด้วยซอฟต์แวร์ ArcGIS หนุนลูกค้า 3 ภาคส่วนหลัก วางเป้าหมายใหญ่ที่ธุรกิจค้าปลีก สมาร์ทซิตี และโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ ทั้งด้านสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม มุ่งเสริมโอกาสทางธุรกิจให้ลูกค้า พลิกวิกฤตสร้างโอกาสเพื่อขยายตลาดไปยังต่างประเทศภายในปีนี้

น.ส.ธนพร ฐิติสวัสดิ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า Market Analysis Report ได้รายงานตลาดของ Location Intelligence ทั่วโลกในปี 2562 มีมูลค่า 10,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ คาดจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้น (CAGR) ถึง 15.2% ในช่วงปี 2563-2570

"รายงานผลวิเคราะห์ยังกล่าวถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นของการนำ Location Intelligence ไปประยุกต์ใช้ในหน่วยงานธุรกิจต่างๆ เช่น การบูรณาการข้อมูลโลเกชันกับข้อมูลทางธุรกิจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตัดสินใจในเชิงกลยุทธ์ และการวางแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ ( Business Continuity Management) รวมทั้งยังสามารถนำข้อมูล Location Intelligence ไปใช้ในการคาดการณ์ภัยพิบัติล่วงหน้า (Situation management) เพื่อลดความเสียหาย ซึ่งปัจจุบันถูกนำมาใช้ในการบริหารจัดการและมอนิเตอร์สถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ เช่น ภัยพิบัติ มลพิษ หรือสถานการณ์การระบาดของโรคในปัจจุบัน เป็นต้น"


บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้นำด้าน Location Intelligence การวิเคราะห์ภูมิสารสนเทศในมุมมองใหม่ที่เชี่ยวชาญในการพัฒนาซอฟต์แวร์ ArcGIS ในประเทศไทยมากว่า 30 ปี นอกจากอัตราการเติบโตเฉลี่ย 15.2% ต่อปี รายงานของ Forbes ยังพบว่า 53% ของผู้ประกอบการมอง Location Intelligence เป็นตัวแปรสำคัญในการกำหนดกลยุทธ์ ควบคู่กับการใช้ Big Data ช่วยให้องค์กรประสบความสำเร็จ เห็นมุมมองทางธุรกิจได้ชัดเจน และสามารถรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ได้ทันท่วงที นับเป็นกุญแจการพัฒนาธุรกิจในยุคที่ปัจจัยแวดล้อมผันผวนและเปลี่ยนรวดเร็ว

การเติบโตนี้ทำให้อีเอสอาร์ไอ (ESRI) กำหนดทิศทางธุรกิจปี 2564 โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาโซลูชันเรือธง ผ่านเทคโนโลยี GIS ด้วยซอฟแวร์ ArcGIS หนุนลูกค้า 3 ภาคส่วนหลัก ได้แก่ ค้าปลีก สมาร์ทซิตี และโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ ทั้งด้านสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม มุ่งเสริมโอกาสทางธุรกิจให้แก่ลูกค้า พลิกวิกฤตสร้างโอกาส เพื่อบรรลุเป้าหมายสูงสุดทางธุรกิจ พร้อมขยายตลาดไปยังต่างประเทศภายในปีนี้


นอกจากนี้ การเข้ามามีบทบาทของเทคโนโลยี IOT ในหลายภาคธุรกิจ ยังผลักดันให้เกิดความต้องการการใช้งาน Location Intelligence ร่วมกับการวิเคราะห์อุปกรณ์ IOT ในรูปแบบของการวิเคราะห์ประมวลผลเชิงลึก (Geospatial Analytic) เช่น ที่ตั้งอุปกรณ์ IOT ใกล้-ไกลพื้นที่เสี่ยงหรือไม่ ทำการคาดการณ์อายุการใช้งานและวางแผนการซ่อมบำรุง ป้องกันการเสียหาย เพื่อส่งผลที่ดีที่สุดต่อการดำเนินธุรกิจภาพรวม

และในปัจจุบัน การขยายตัวของเมือง (Urbanization) ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลถึงความต้องการระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานและความต้องการในโครงสร้างก่อสร้างขนาดใหญ่อย่างกว้างขวาง ปฏิเสธไม่ได้ว่าข้อมูล Location Intelligence เข้าไปมีบทบาทคู่ขนานกับการนำข้อมูลทางธุรกิจและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องเพื่อวางแผนการก่อสร้าง หรือคาดการณ์แนวโน้มการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับการกระจายตัวของประชาชนที่เกิดขึ้น ดังนั้น ปัจจัยที่กล่าวไปข้างต้นนี้เป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมตลาด Location Intelligence ที่ขยายตัวขึ้นอย่างมาก สอดคล้องกับรายงานของ Forbes พบ 53% ของผู้ประกอบการมอง Location Intelligence เป็นตัวแปรสำคัญในการกำหนดกลยุทธ์

"การใช้ Location Intelligence หรือข้อมูลแผนที่เชิงลึก ควบคู่กับการใช้บิ๊กดาต้า เป็นปัจจัยสำคัญที่ใช้ในการกำหนดกลยุทธ์ขององค์กร ช่วยให้องค์กรประสบความสำเร็จ เห็นมุมมองทางธุรกิจได้ชัดเจน เป็นกุญแจการเดินเกมกลยุทธ์ทางธุรกิจในยุคที่ปัจจัยแวดล้อมทางธุรกิจผันผวนและพลิกเปลี่ยนรวดเร็ว นอกจากนี้ GIS หรือโลเกชันยังสามารถนำไปใช้ในการทำงาน Day-to-Day Operation รวมทั้งภารกิจที่สำคัญ (Mission Critical) เช่น เหตุการณ์ที่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยภาครัฐบาลได้นำ GIS ไปใช้ในการบริหารจัดการและมอนิเตอร์สถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ต่างๆ เป็นต้น" น.ส.ธนพร กล่าว

น.ส.ธนพร กล่าวเพิ่มเติมว่า ทิศทางธุรกิจของอีเอสอาร์ไอในปี 2564 นี้ มุ่งพัฒนาโซลูชันเรือธง ผ่านเทคโนโลยี GIS ด้วยซอฟต์แวร์ ArcGIS เพื่อหนุน 3 กลุ่มอุตสาหกรรมหลัก คือ ธุรกิจค้าปลีก เมืองอัจฉริยะ (Smart City) และโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ ทั้งด้านสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม เพื่อเป้าหมายในการแก้ pain point แต่ละอุตสาหกรรม


ในส่วนธุรกิจค้าปลีก (Retail) สามารถแก้ปัญหาทางธุรกิจด้วยการนําข้อมูลเชิงตําแหน่งและพื้นที่มาใช้ในการวิเคราะห์ และนําเสนอมุมมองใหม่ๆ ไปสู่การตัดสินใจทางกลยุทธ์ เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มผลตอบแทนสูงสุด ด้วย 2 โซลูชัน คือ โซลูชัน Market Planning and Site Analysis วิเคราะห์ศักยภาพพื้นที่เพื่อเพิ่มโอกาสทางการขาย รวมถึงการปรับ-รวม-ย้ายสาขา ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการหาข้อมูลและการสํารวจ และโซลูชัน Trade Area and Zone Planning วิเคราะห์พื้นที่ให้บริการจากตำแหน่งสาขา เพื่อกำหนดขอบเขตให้บริการ พื้นที่ครอบคลุม หรือพื้นที่ทับซ้อน และรูปแบบการให้บริการ ทำให้ธุรกิจสามารถลดต้นทุนค่าขนส่ง และจัดสรรสินค้าได้ตรงกลุ่มผู้บริโภคในพื้นที่เพื่อยอดขายที่เพิ่มขึ้น


ขณะที่สมาร์ทซิตี จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเมืองสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งจําเป็นต้องมีข้อมูลเชิงตําแหน่ง (Location-based) เป็นข้อมูลพื้นฐานในการวางผัง ออกแบบ และวางแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ด้วยการนําเทคโนโลยี GIS เข้ามาประยุกต์ใช้เพื่อบูรณาการฐานข้อมูลอย่างเป็นระบบ นําไปสู่การพัฒนาโซลูชันให้สอดคล้องกับความเป็นเมืองอัจฉริยะด้านต่างๆ รวมทั้งระบบบริหารจัดการ และติดตามสถานการณ์ต่างๆ ที่ต้องการเห็นข้อมูลแบบเรียลไทม์ ทันต่อเหตุการณ์ เช่น งานการจัดการภัยพิบัติต่างๆ และงานติดตามสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และระบบติดตามสถานการณ์นํ้าท่วมในพื้นที่ เป็นต้น


สำหรับโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ ทั้งด้านสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม (AEC) สามารถใช้โซลูชันที่นำเอาความสามารถของการทำงานเชิงพื้นที่มาประยุกต์ใช้สำหรับงานด้านสถาปัตยกรรม วิศวกรรมและการก่อสร้าง ช่วยลดความซ้ำซ้อนและอำนวยความสะดวกในการทำงาน เริ่มตั้งแต่การออกแบบ วางผัง และการจำลองอาคารในรูปแบบ 3 มิติ รวมถึงระบบวิศวกรรมการซ่อมบำรุง นอกจากนี้ ArcGIS ยังเพิ่มความสามารถด้านแผนที่ สำหรับผู้ใช้งาน AutoCAD และการบูรณาการชั้นข้อมูล GIS เพื่อช่วยในการประเมินผลกระทบทางด้านสภาพแวดล้อมได้อีกด้วย

"นอกจากการให้บริการดังกล่าวให้ลูกค้าในประเทศซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักแล้ว อีเอสอาร์ไอ ในฐานะตัวแทนบริษัทชั้นนำจากอีเอสอาร์ไอ ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยผลิตภัณฑ์ภูมิสารสนเทศที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ยังมีเป้าหมายในการขยายบริการ Location Intelligence ไปยังตลาดต่างประเทศลาวและกัมพูชาภายในปี 2564 นี้อีกด้วย โดยมั่นใจว่าด้วยพลังของบิ๊กดาต้าซึ่งเป็นพื้นฐานของการวิเคราะห์ Location Intelligence จะเป็นเครื่องมือที่จะเป็นตัวช่วยสำคัญในการขับเคลื่อนทุกธุรกิจของลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรมให้ก้าวต่อได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ และพาธุรกิจก้าวล้ำนำหน้ากว่าผู้เล่นรายอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน" น.ส.ธนพร กล่าวทิ้งท้าย


กำลังโหลดความคิดเห็น