วีเอ็มแวร์ (VMware) เปิดตัวแพลตฟอร์ม VMware Cloud ช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีมัลติคลาวด์ และนำเสนอโมเดิร์นแอปพลิเคชันภายในเวลาอันรวดเร็ว มั่นใจพาองค์กรก้าวทันความเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ หลังจากวีเอ็มแวร์ครองใจองค์กรกว่า 300,000 แห่งที่ใช้งานเวิร์กโหลดกว่า 85 ล้านชุดบนแพลตฟอร์มของวีเอ็มแวร์ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา รวมถึงนักพัฒนากว่า 5 ล้านคนที่สร้างแอปโดยอาศัยเทคโนโลยีของวีเอ็มแวร์
นายรากู รากูราม ประธานเจ้าหน้าที่ด้านปฏิบัติการ ฝ่ายผลิตภัณฑ์และบริการคลาวด์ของวีเอ็มแวร์ กล่าวว่า ธุรกิจทั่วโลกอยู่ในช่วงจุดเปลี่ยนที่สำคัญสำหรับการพัฒนาระบบคลาวด์และโมเดิร์นแอปพลิเคชัน ในปัจจุบันสถาปัตยกรรมมีลักษณะเป็นมัลติคลาวด์แบบกระจายเพิ่มมากขึ้น ขณะที่จำนวนของโมเดิร์นแอปพลิเคชันกำลังจะแซงหน้าแอปแบบเดิมในไม่ช้า ด้วยเหตุนี้ความท้าทายที่ผู้บริหารฝ่ายสารสนเทศ (CIO) ต้องเผชิญก็คือ การนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยไม่ก่อให้เกิดความยุ่งยากซับซ้อนและเพิ่มความเสี่ยง VMware Cloud เป็นโซลูชันคลาวด์เพียงหนึ่งเดียวในปัจจุบันที่ลูกค้าสามารถใช้งานได้ในดาต้าเซ็นเตอร์และบนระบบคลาวด์ทุกประเภท อันช่วยเพิ่มความสะดวกรวดเร็วและความปลอดภัยในการเปลี่ยนย้ายไปสู่โมเดิร์นแอปพลิเคชัน
"ด้วยบริการ VMware Cloud Universal ลูกค้าเพียงทำการซื้อครั้งเดียวก็สามารถติดตั้งใช้งานแอปได้ในทุกสภาพแวดล้อม และสามารถโยกย้ายได้อย่างง่ายดายเมื่อความต้องการทางธุรกิจหรือความต้องการใช้งานเปลี่ยนไป”
VMware Cloud เป็นแพลตฟอร์มมัลติคลาวด์แบบกระจาย (Distributed) อันจะช่วยให้การทำ application modernization ขององค์กรสามารถทำได้เร็วขึ้น โดยครอบคลุมทั้งในส่วนของดาต้าเซ็นเตอร์ ส่วน Edge ของเครือข่าย และระบบคลาวด์ใดๆ ก็ตาม VMware Cloud เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของนักพัฒนา โดยช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างและติดตั้งใช้งานแอปพลิเคชันบนระบบคลาวด์ทุกประเภท ซึ่งสร้างข้อได้เปรียบให้แก่ทั้งนักพัฒนาและฝ่ายไอทีไม่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเหมือนแต่ก่อน แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้ฝ่ายไอทีสามารถปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและการดำเนินงานให้ทันสมัย โดยมีความเสี่ยงน้อยกว่าและประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า พร้อมทั้งเปิดตัวแพลตฟอร์ม VMware Cloud กับบริการใหม่ๆ ที่จะมอบประสบการณ์แบบครบวงจรให้แก่ลูกค้า
บริการใหม่ที่ว่านี้ได้แก่ VMware Cloud Universal บริการสมัครใช้งานที่ยืดหยุ่น เพิ่มความสะดวกในการซื้อและใช้บริการโครงสร้างพื้นฐานและการจัดการระบบมัลติคลาวด์ของวีเอ็มแวร์ และ VMware Cloud Console ระบบการทำงานแบบ single monitoring ที่สะดวกต่อการตรวจสอบและจัดการโครงสร้างพื้นฐาน VMware Cloud อย่างครบวงจร ไม่ว่าจะติดตั้งอยู่ที่ใดก็ตาม รวมถึง VMware App Navigator บริการใหม่สำหรับการประเมินและจัดลำดับความสำคัญของการปรับเปลี่ยนแอป โดยครอบคลุมทุกแง่มุมของแอปพลิเคชัน ขึ้นอยู่กับความสำคัญของแต่ละแอป
สำหรับ VMware Cloud เป็นแพลตฟอร์มสำหรับทั้งระบบที่ติดตั้งภายในองค์กรและระบบคลาวด์ โดยมีการรักษาความปลอดภัยและการดำเนินการอย่างครบวงจร รองรับทั้งแอปพลิเคชันแบบเก่าและโมเดิร์นแอปพลิเคชัน เชื่อมต่อกับบริการคลาวด์แบบเนทีฟทั้งหมด และตอบสนองความต้องการของนักพัฒนาและบุคลากรฝ่ายไอทีได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ด้วยแพลตฟอร์ม VMware Cloud ลูกค้าจะได้รับความสะดวกจากรูปแบบการใช้งานคลาวด์หนึ่งเดียวซึ่งรองรับความต้องการด้านมัลติคลาวด์ได้อย่างพร้อมสรรพ และสามารถโยกย้ายระบบได้อย่างยืดหยุ่น จึงช่วยลดความเสี่ยงและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากการใช้ระบบคลาวด์เพียงระบบเดียว ลูกค้าที่ใช้ VMware Cloud จะได้รับประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมในหลายๆ ด้าน เช่น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของนักพัฒนาได้ด้วย VMware Tanzu Application Service ถึง 80% เพิ่มการใช้งานซอฟต์แวร์ในระบบจริงได้ถึง 82% ลดค่าใช้จ่ายต้นทุนการดำเนินงานได้ 59% และเพิ่มความรวดเร็วในการโยกย้ายระบบคลาวด์ได้ราว 46%
VMware Cloud ช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับใช้แอปบน VMware Cloud Foundation ที่รันอยู่บนระบบของ Amazon Web Services (AWS), Azure, Google Cloud, IBM Cloud และ Oracle Cloud หรือบน VMware Cloud ที่รันอยู่บนระบบของ Dell EMC รวมไปถึงพาร์ตเนอร์ VMware Cloud Verified อีกหลายร้อยราย นอกจากนี้ ยังมี VMware Marketplace ซึ่งช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงโซลูชันที่ผ่านการรับรองหลายพันโซลูชันจากนักพัฒนาโอเพ่นซอร์สและบริษัทอื่นๆ และลูกค้าที่ใช้บริการ VMware Cloud จะสามารถปรับใช้และจัดการระบบคลาวด์สาธารณะแบบเนทีฟ และช่วยให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงบริการคลาวด์แบบเนทีฟทั้งหมด
บริการใหม่ VMware Cloud Universal ยังมีจุดขายว่าลูกค้าจะได้รับความยืดหยุ่นและความสะดวกในการโยกย้ายเพิ่มมากขึ้นสำหรับการปรับใช้ระบบคลาวด์ตามจังหวะเวลาที่เหมาะสม และจะได้รับประโยชน์จากระบบปฏิบัติการแบบ Single operating ครอบคลุมทุกระบบคลาวด์ บริการ VMware Cloud Universal เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการใช้สถาปัตยกรรมไฮบริดคลาวด์ โดยมีกรอบเวลาการโยกย้ายระบบคลาวด์ที่แตกต่างหลากหลายหรือครอบคลุมระยะเวลาที่นานกว่า หรือมีความต้องการด้าน Cloud Bursting เพื่อรองรับทราฟฟิกที่สูงขึ้นอย่างกะทันหัน หรือต้องการโมเดล OPEX สำหรับโครงสร้างพื้นฐานที่ติดตั้งภายในองค์กร
ด้วยบริการ VMware Cloud Universal ลูกค้าจะสามารถซื้อเครดิตสำหรับโครงสร้างพื้นฐานมัลติคลาวด์และระบบการจัดการของวีเอ็มแวร์ และใช้เครดิตดังกล่าวกับระบบ VMware Cloud Foundation ที่ติดตั้งในองค์กร VMware Cloud บน AWS หรือ VMware Cloud on Dell EMC ประโยชน์ที่จะได้รับจาก VMware Cloud Universal มีทั้งความยืดหยุ่นและทางเลือกที่หลากหลาย เพราะซื้อครั้งเดียวและสามารถปรับใช้บริการที่เกี่ยวข้องได้ทุกเมื่อตลอดระยะเวลาของสัญญา
ยังมีการแปลงเครดิต ที่ลูกค้าสามารถแปลงเครดิตที่ไม่ได้ใช้สำหรับ Cloud Foundation ที่ติดตั้งในองค์กร และนำไปใช้กับ VMware Cloud on AWS หรือ VMware Cloud on Dell EMC ได้ทุกเมื่อตลอดระยะเวลาของสัญญา การแปลงเครดิตดังกล่าวสามารถทำได้โดยใช้ไลเซนส์ใหม่ของ VMware Cloud Foundation Subscription และประโยชน์ของการเร่งการทำงานระบบคลาวด์ (CAB) ซึ่งช่วยให้ลูกค้าเปลี่ยนไปใช้มัลติคลาวด์ได้อย่างยืดหยุ่นโดยใช้ไลเซนส์ถาวร VMware ของเดิมที่เคยลงทุนไว้ โดยเลือกใช้เครดิต VMware Cloud Universal
ระบบสามารถรองรับ Kubernetes แบบติดตั้งในตัว สามารถจัดการและใช้งานมัลติคลาวด์ มีการออกแบบเป็นพิเศษเพื่อช่วยให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายอย่างรวดเร็วและได้รับประโยชน์อย่างต่อเนื่อง VMware Cloud Console ทำหน้าที่รองรับบริการใหม่นี้ โดยช่วยให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบและควบคุมโครงสร้างพื้นฐาน VMware Cloud ทั้งหมดได้อย่างครบถ้วน ครอบคลุมทั้งระบบที่ติดตั้งในองค์กร ระบบคลาวด์ และสภาพแวดล้อมแบบ Edge โดย Cloud Console เป็นพอร์ทัลแบบครบวงจรที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดสรร จัดการ และปรับแต่งทรัพยากร VMware Cloud ทั้งหมดได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ บนพอร์ทัล Cloud Console ลูกค้าจะสามารถแลกเครดิต กำหนดค่าการใช้บริการ VMware Cloud Universal ที่เกี่ยวข้อง และติดต่อฝ่ายบริการซัปพอร์ตของวีเอ็มแวร์
บริการใหม่ VMware App Navigator ช่วยให้องค์กรจัดลำดับความสำคัญของโครงการปรับปรุงแอปให้ทันสมัย App Navigator สร้างความคล่องตัวในการวิเคราะห์ผลของแอปพลิเคชัน บริการนี้ได้นำประโยชน์จาก automated tooling และการทำงานแบบ hands-on มาใช้เพื่อลดความเสี่ยงและเร่งความเร็วในการทำ app migration และ modernization นอกจากนี้ในระหว่างการใช้งานลูกค้ายังสามารถทำงานร่วมกับผู้ปฏิบัติงานของ VMware เพื่อสร้าง app portfolio ให้เป็นรูปเป็นร่าง กำหนดกลยุทธ์ในการทำ modernization และทำงานบนสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันสำหรับแอปต่างๆ ตามเป้าหมายทางธุรกิจและไอที และวาง roadmap เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามประสงค์ ทั้งหมดนี้จะช่วยให้ลูกค้าตอบโจทย์ความต้องการทางธุรกิจได้รวดเร็วขึ้น ไม่ว่าใครก็สามารถใช้บริการ App Navigator ได้ เพราะบริการนี้มาพร้อมเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ช่วยในการแก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง อันช่วยลดความความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้
แมท การ์แมน รองประธานฝ่ายขายและการตลาดของ AWS กล่าวว่า AWS เป็นพาร์ตเนอร์ด้านบริการพับลิคคลาวด์ที่ดีเยี่ยมของวีเอ็มแวร์สำหรับเวิร์กโหลดที่ใช้ vSphere และ VMware Cloud on AWS เป็นบริการที่แนะนำจาก AWS สำหรับเวิร์กโหลดบน vSphere บริษัททั้งสองได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั่วโลกในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ลูกค้าพึงพอใจกับการปรับใช้สภาพแวดล้อมไฮบริดบนแพลตฟอร์มวีเอ็มแวร์ที่ใช้งานได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ครอบคลุมทั้งระบบดาต้าเซ็นเตอร์ภายในองค์กรและ VMware Cloud on AWS
"ด้วยการประกาศนี้ลูกค้าสามารถใช้ VMware Universal Credits เดียวกันกับการปรับใช้ VMware Cloud on AWS และระบบวีเอ็มแวร์ที่ติดตั้งในองค์กร”
อาร์เธอร์ ลูอิส ประธานฝ่ายบริหารจัดการโซลูชันและพอร์ตฟอลิโอของเดลล์ เทคโนโลยี โกลบอล อินฟราสตรัคเจอร์ โซลูชัน กรุ๊ป กล่าวว่า ความมุ่งมั่นของเดลล์ เทคโนโลยีและวีเอ็มแวร์ภายใต้ความร่วมมือคือการขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที VMware Cloud on Dell EMC เป็นแพลตฟอร์มคลาวด์ที่มีการจัดการอย่างสมบูรณ์ ปลอดภัย และปรับขนาดได้ซึ่งช่วยสร้างโครงสร้างพื้นฐานภายในองค์กรสำหรับส่งมอบเป็นบริการ สำหรับลูกค้าที่ต้องการจัดการโครงสร้างพื้นฐานไพรเวตคลาวด์
"เราขอเสนอกลุ่มโซลูชันที่ผสานรวม VMware Cloud Foundation ขณะที่ VMware Cloud Universal ช่วยทำให้ตัวเลือกง่ายขึ้นและช่วยให้ลูกค้าสามารถลงทุนในโซลูชันไฮบริดคลาวด์และมัลติคลาวด์โดยยังคงความยืดหยุ่นในการปรับใช้ได้ด้วย”