บราเดอร์พร้อมส่งเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทระบบแท็งก์ 6 รุ่นใหม่ตอบโจทย์ทุกกลุ่ม หลังพบโควิด-19 ดันเวิร์กฟอร์มโฮมโตชูจุดเด่นภาพสีเสมือนจริง พิมพ์แผ่นแรกไวเพียง 6 วินาที ด้วยต้นทุนต่อแผ่นการพิมพ์ขาวดำเพียง 3 สตางค์ ตั้งเป้าครองส่วนแบ่งตลาด 30%
นายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ตลาดเครื่องพิมพ์ในประเทศไทยเกิดความต้องการใช้งานกลุ่มใหม่เพิ่มขึ้น เนื่องจากการปรับสู่การทำงานแบบไม่จำกัดสถานที่ หรือ remote working และเวิร์ก ฟอร์ม โฮม ซึ่งถือเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการขยายตัวของตลาดอย่างต่อเนื่องตลอดปีที่ผ่านมา ซึ่งในปีที่ผ่านมา บราเดอร์ มีส่วนแบ่งทางการตลาดของกลุ่มเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทประมาณ 20% เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีอยู่ 19%
ดังนั้น บราเดอร์เชื่อว่าในปี 2564 ตลาดเครื่องพิมพ์โดยรวมจะยังคงมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องจากหลายปัจจัย เช่น การเติมเต็มตลาดด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์หลังจากที่เกิดการชะลอตัวในการป้อนสินค้าสู่ตลาดจากข้อจำกัดด้านการผลิตนอกจากนี้ การปรับคอนเซ็ปต์การใช้งานจาก Centralize สู่ Decentralize ยิ่งเพิ่มโอกาสให้เครื่องพิมพ์เข้าไปแทนทีเครื่องถ่ายเอกสารได้เช่นกัน
บราเดอร์ จึงได้นำกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทระบบแท็งก์ 6 รุ่นที่ได้รับการพัฒนาศักยภาพในทุกๆ ด้าน เข้ามาเปิดตลาดในเมืองไทยให้ตอบสนองต่อลูกค้าในทุกกลุ่ม ตั้งแต่กลุ่มผู้ใช้งานจากที่บ้านหรือต้องการฟังก์ชันการใช้งานที่ไม่ซับซ้อน กลุ่มผู้ใช้งานในธุรกิจขนาดเล็กและกลางที่ต้องการใช้งานฟังก์ชันมากขึ้น เพื่อรองรับงานพิมพ์ให้เหมาะสมกับธุรกิจ และกลุ่มที่ต้องการเครื่องพิมพ์ที่ครบครันด้วยการทำงานแบบมัลติฟังก์ชัน เช่น ออฟฟิศขนาดใหญ่ ที่สามารถรองรับระบบ wireless เพื่อเพิ่มทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดแก่ลูกค้า
นอกจากนี้ ยังได้วางกลยุทธ์ในการสื่อสารให้ลูกค้าได้ทราบถึงประโยชน์ที่จะได้รับเมื่อเลือกใช้เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทของบราเดอร์ผ่านทางออนไลน์และออฟไลน์ โดยการเปิดตัวในครั้งนี้ บราเดอร์ได้พัฒนาคอนเทนต์เฉพาะเพื่อเจาะถึงลูกค้าทั้งกลุ่ม SME กลุ่มพนักงานออฟฟิศ และกลุ่มคนรุ่นใหม่ซึ่งแต่ละกลุ่มมีความต้องการและความสนใจที่หลากหลาย โดยร่วมกับ ‘พี่เอ็ด 7วิ” มาสร้างสรรค์เนื้อหาที่สุดบรรเจิดรีวิวเครื่องพิมพ์ซีรีส์ใหม่ทั้ง 6 รุ่น เพื่อนำเสนอประโยชน์ที่คุ้มค่าที่มาพร้อมนวัตกรรมเทคโนโลยีรุ่นล่าสุดเพื่อสร้างการรับรู้ให้แก่ลูกค้าของบราเดอร์ในครั้งนี้ด้วย
นายณเอก สงศิริ รักษาการผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและการตลาด บราเดอร์ กล่าวว่า บราเดอร์ คาดว่าการรุกตลาดอยากหนักในปีนี้จะสามารถดันส่วนแบ่งการตลาดในส่วนกลุ่มเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทให้เพิ่มขึ้นเป็น 30% ด้วยการมุ่งเน้นการทำธุรกิจในแบบยั่งยืน ยึดถือประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับเป็นอันดับแรก จึงเป็นที่มาของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีความทนทาน ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด เสริมด้วยการมีทีมบริการหลังการขายที่แข็งแกร่งมีมาตรฐานเพื่อสร้างให้ลูกค้ามั่นใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา สำหรับบราเดอร์ อิงค์เจ็ทระบบแท็งก์ 6 รุ่นใหม่ ให้รายละเอียดสีเสมือนจริงด้วย wide color gamut พิมพ์เร็วยิ่งขึ้น แผ่นแรกไวเพียง 6 วินาทีต้นทุนต่อแผ่นการพิมพ์ขาวดำเพียง 3 สตางค์
น.ส.ทิพยา ไตรเสถียรกุล ผู้จัดการอาวุโส กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์ บราเดอร์ กล่าวว่า ปัจจุบันรูปแบบการทำงานแบบไม่จำกัดสถานที่ กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังมีการปฏิบัติตามมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมภายในสำนักงานมากขึ้น การใช้เครื่องพิมพ์ที่สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกจึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อย่างมาก
“เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทระบบแท็งก์ใหม่ล่าสุดของบราเดอร์นำเสนอโซลูชันการทำงานที่เปี่ยมประสิทธิภาพในราคาที่สามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายมากยิ่งขึ้น สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกทั้งที่บ้านและภายในสำนักงาน ให้คุณภาพการพิมพ์ที่ยอดเยี่ยมขณะที่ยังคงต้นทุนการพิมพ์ที่ต่ำอีกทั้งยังมีฟังก์ชันการทำงานแบบไร้สายและเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น”
ทั้งนี้ เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทระบบแท็งก์ซีรีส์ใหม่ของบราเดอร์ ประกอบด้วย 6 รุ่น ชูจุดเด่นด้วยต้นทุนต่อแผ่นการพิมพ์ขาวดำเพียง 3 สตางค์ โดยหมึกขวดสีดำพิมพ์ได้สูงสุดถึง 7,500 แผ่น ส่วนหมึกสีพิมพ์ได้สูงสุดถึง 5,000 แผ่น ด้วยระบบพิมพ์ 2 หน้าอัตโนมัติ ช่วยลดการสิ้นเปลืองกระดาษมากถึง 50%
โดยบราเดอร์ได้จัดโปรโมชันพิเศษ เมื่อซื้อเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันอิงค์แท็งก์รุ่นที่ร่วมรายการ (DCP-T220, DCP-T420W, DCP-T520W, DCP-T720DW, DCP-T820DW, MFC-T920DW) จำนวน 1 เครื่อง รับฟรี! กระดาษโฟโต้ Innobella Premium Plus Glossy Photo Paper ขนาด 4”x6” จำนวน 1 แพก มูลค่า 119 บาท ตั้งแต่ 22 มี.ค.-30 เม.ย.2564