xs
xsm
sm
md
lg

“พุทธิพงษ์” ดันเอ็นที ควงพันธมิตรแลกคลื่น 700 MHz 2600 MHz กับเอกชน รุก 5G

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“พุทธิพงษ์” มอบโจทย์ท้าทายเอ็นที ต้องเป็น 1 ใน 3 โอเปอเรเตอร์ไทยภายในปี 2564 รุกตลาด 5G เน้นหาพันธมิตรแลกคลื่น 700 MHz กับ 2600 MHz ของเอกชน พร้อมตั้ง "น.อ.สมศักดิ์" นั่งรักษาการ กจญ.เอ็นทีคนแรก

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า วันนี้ (7 ม.ค.) บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือเอ็นที ได้จดทะเบียนบริษัทเรียบร้อยแล้ว โดยคณะกรรมการบริษัทเอ็นที ได้เลือก น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ กรรมการบริษัท เป็นรักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็นที โดยมี หม่อมหลวงชโยทิต กฤดากร เป็นประธานกรรมการเอ็นที ส่วนกรรมการที่เหลือประกอบด้วย นายอำนวย ปรีมนวงศ์ พ.อ.สรรพชัย หุวะนันทน์ และนายจำเริญ โพธิยอด

สำหรับสิ่งแรกที่จะเห็นหลังการควบรวม คือ ในเดือน มี.ค.2564 ระบบเครือข่ายและบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ต้องอยู่ภายใต้แบรนด์เดียวกัน แพกเกจเดียวกัน ซึ่งจะทำให้รู้ต้นทุนและมีเครือข่ายที่ครอบคลุม รวมถึงความชัดเจนของสีและโลโก้เอ็นที ด้วย ดังนั้น เป้าหมายของเอ็นที ภายในปี 2564 เอ็นทีจะเป็น 1 ใน 3 รายหลักผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (โอเปอเรเตอร์) ทั้งในแง่ของรายได้และคลื่นที่มีจำนวน 6 ย่านมีปริมาณ 600 MHz

ที่สำคัญคือ ศักยภาพในการให้บริการ 5G ซึ่งเอ็นทีมีทั้งคลื่น 700 MHz และ 26 GHz ที่ประมูลมาจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยเอ็นทีอยู่ระหว่างการหาพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อลดการลงทุนซ้ำซ้อนและเพิ่มศักยภาพในการให้บริการ 5G แต่การหาพันธมิตรจำเป็นต้องมีการแลกเปลี่ยนคลื่นกันระหว่างคลื่น 700 MHz กับคลื่น 2600 MHz ของเอกชนบางราย แม้ว่า กสท โทรคมนาคม มีแผนในการใช้เงินลงทุนคลื่น 700 MHz อยู่แล้ว แต่ต้องใช้เงินจำนวนมาก ดังนั้น สิ่งที่ดีที่สุดและประหยัดคือการหาพันธมิตร ซึ่ง กสท โทรคมนาคม กำลังหาอยู่ และคาดว่าจะมีการแถลงข่าวเร็วๆ นี้

ส่วนประเด็นเรื่องการทุจริตโครงการจัดซื้อจัดจ้างนั้น ตนได้วางกรรมการบริษัทเพื่อทำหน้าที่เป็นประธานในการตรวจสอบคือ นายอำนวย เพราะมีประสบการณ์ทำงานในกระทรวงการคลัง และกรมธนารักษ์ จึงมีความเชี่ยวชาญในการตรวจสอบโครงการต่างๆ ส่วนเรื่องการคาดโทษผู้กระทำความผิดนั้นต้องขอให้เป็นอำนาจของกรรมการบริษัท ซึ่งตนเชื่อว่าพนักงานทุกคนรักองค์กร และต้องช่วยกันดูแล

“แผนการควบรวมของเอ็นที เราจะแจ้งให้ทราบเป็นระยะตามแผนงาน 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี การตั้งเป้าเป็นโอเปอเรเตอร์เบอร์ ต้นๆ นั้น เป็นเป้าหมายที่ต้องตั้งไว้ แต่จะทำได้หรือไม่เป็นโจทย์ใหญ่ที่เอ็นทีต้องทำ” นายพุทธิพงษ์ กล่าว

นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า การควบรวมครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการทำธุรกรรมกับคู่ค้า หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และลูกค้า เนื่องจากเอ็นทีจะรับโอนกิจการ สิทธิ หนี้ ความรับผิด และสินทรัพย์ของ กสท โทรคมนาคม และทีโอที มาทั้งหมด โดยเอ็นทีพร้อมที่จะดำเนินงานของ กสท โทรคมนาคม และทีโอทีอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการให้บริการลูกค้าเดิมของทั้ง 2 บริษัท โดยทั้ง 2 หน่วยงานได้ร่วมกันพิจารณาแนวทางการให้บริการในด้านต่างๆ ร่วมกันเพื่อจะอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าได้มากยิ่งขึ้นตั้งแต่วันแรกของการควบรวม


ด้าน น.อ.สมศักดิ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้การทำงานของทั้ง 2 หน่วยธุรกิจ ได้มอบหมายให้ นายมรกต เธียรมนตรี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน ดูแลหน่วยธุรกิจของทีโอที และนายวิโรจน์ โตเจริญวาณิช รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานสื่อสารไร้สาย ดูแลหน่วยธุรกิจของ กสท โทรคมนาคม นอกจากนี้ จะมีการรวมรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ของเอ็นที ประมาณ 19 คน มาจัดสรรเพื่อแบ่งหน้าที่การทำงานร่วมกันต่อไป

สำหรับศูนย์บริการลูกค้าของเอ็นที ได้มีการเชื่อมโยงระบบของ กสท โทรคมนาคม และทีโอที เดิมเพื่อให้สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งฝึกอบรมพนักงานให้เรียนรู้ ส่งต่อ และติดตามงานระหว่างกันได้ นอกจากนี้ ยังมีแคมเปญพิเศษโดยมีการแจกซิมโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้แก่ลูกค้าอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์เคลื่อนที่เดิม นอกจากนี้ ยังมีโปรโมชันสำหรับลูกค้าใหม่ที่สมัครใช้บริการอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเอ็นที ตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค.2564

ในวันที่จดทะเบียนและเริ่มดำเนินกิจการ เอ็นที มีศูนย์บริการทั่วประเทศกว่า 500 แห่ง ซึ่งก็คือสำนักงานบริการลูกค้า แคทช็อป ศูนย์บริการลูกค้าของ กสท โทรคมนาคม และทีโอที ทั้งหมด ในเบื้องต้นลูกค้าเดิมของ กสท โทรคมนาคม และทีโอทีสามารถติดต่อใช้บริการต่างๆ ได้จากศูนย์บริการลูกค้าของเอ็นที ทุกแห่ง ซึ่งจะมีการระบบในการเชื่อมโยงและส่งต่องานระหว่างกัน นอกจากนี้ ได้จัดทำศูนย์บริการต้นแบบจำนวน 12 แห่ง ที่จะสามารถให้บริการได้แบบเบ็ดเสร็จด้วยการวางระบบและจัดเจ้าหน้าที่ของทั้ง 2 องค์กรให้ปฏิบัติงานร่วมกัน ทั้งนี้ ลูกค้ายังคงสามารถใช้ช่องทางการชำระค่าใช้บริการต่างๆ ที่มีอยู่เดิมได้ทั้งหมด

สำหรับสำนักงานใหญ่ของเอ็นที ตั้งอยู่ที่เลขที่ 99 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210-0298 โดยผู้ใช้บริการติดต่อสอบถามรายละเอียดและสมัครใช้บริการต่างๆ ของเอ็นที ได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าเอ็นทีทั่วประเทศ เอ็นที คอนแทคเซ็นเตอร์ หมายเลขโทรศัพท์ 1888 ตลอด 24 ชั่วโมง และเว็บไซต์ www.ntplc.co.th


กำลังโหลดความคิดเห็น