“พุทธิพงษ์” ร่วม กสทช. และผู้ให้บริการมือถือ 5 ราย เตรียมส่ง SMS ให้ชาวต่างชาติในไทย และแรงงานต่างด้าวกว่า 2.8 ล้านเลขหมายฟรี ตามภาษาท้องถิ่นของแต่ละประเทศ พร้อมเสนอ ศบค. ชวนประชาชนชนโหลดแอป 'หมอชนะ' ใช้คู่กับแอป 'ไทยชนะ' มั่นใจรองรับการใช้งานได้ 10 ล้านเลขหมาย มอบหมาย กสท โทรคมนาคม ดูแลระบบหลังบ้าน
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า กระทรวงดีอีเอสได้หารือร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และผู้บริหารบริษัทผู้ให้บริการมือถือทั้ง 5 เครือข่าย ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) เอไอเอส บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ดีแทค บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เพื่อร่วมกันส่งเอสเอ็มเอสการแจ้งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ผ่านบริการเอสเอ็มเอส ให้แก่ชาวต่างชาติที่พำนักในประเทศไทย และแรงงานต่างด้าว โดยเบื้องต้นจะมีข้อความภาษาอังกฤษ และภาษาพม่า เพื่อให้เจ้าของภาษาเกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง
สำหรับเลขหมายของแรงงานต่างด้าวและต่างชาติที่พำนักในไทยมีจำนวน 2.804 ล้านเลขหมาย แบ่งเป็น ดีแทค จำนวน 1 ล้านเลขหมาย เอไอเอส จำนวน 9.9 แสนเลขหมาย ทรู จำนวน 8 แสนเลขหมาย กสท โทรคมนาคม จำนวน 10,000 เลขหมาย และทีโอที จำนวน 4,000 เลขหมาย ซึ่งผู้ให้บริการจะส่งข้อความภายในวันนี้ (23 ธ.ค.) จำนวน 1 ครั้งก่อน เพื่อดูผลการตอบรับว่าเป็นอย่างไรบ้าง จากนั้นค่อยประเมินอีกครั้งหนึ่งว่าจะมีการส่งเพิ่มเติมหรือไม่ โดยข้อความระบุว่า “ขอความร่วมมือท่าน หมั่นล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย หากมีไข้ ไอ หายใจลำบาก หรือมีข้อสงสัย โทร.1422 ตลอด 24 ชม.”
อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือครั้งนี้ เป็นการขอความร่วมมือจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กับผู้ให้บริการซึ่งผู้ให้บริการทั้ง 5 รายก็พร้อมให้ความร่วมมือโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เนื่องจากเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยรอบใหม่ โดยเฉพาะในแรงงานต่างชาติ ทุกฝ่ายตระหนักดีว่าการแจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ในภาษาท้องถิ่นนั้นจะช่วยสร้างความเข้าใจและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด นอกจากนี้ในกลุ่มแรงงานด้วยกันแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในกลุ่ม 2 ล้านเลขหมายดังกล่าว ก็เชื่อว่าจะมีการสื่อสารกันภายในกลุ่ม หรือบอกต่อกันได้ไม่ยาก
นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (24 ธ.ค.) ตนจะเสนอต่อที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เพื่อให้ประชาชนหันมาโหลดแอปพลิเคชันหมอชนะ ใช้งานควบคู่กับแอปพลิเคชันไทยชนะได้ เนื่องจากแอปพลิเคชันหมอชนะนั้นสามารถระบุถึงพื้นที่เสี่ยงและบอกสถานะของผู้ใช้งานได้ว่าพื้นที่ที่ไปนั้นเสี่ยงหรือไม่ หากผู้ใช้งานเคยไปในพื้นที่เสี่ยง ในหน้าแอปพลิเคชันจะแสดงคิวอาร์โค้ดสีแดง หากไม่เสี่ยงคิวอาร์โค้ดสีเขียว ทำให้สามารถรับรู้สถานะได้รวดเร็ว และสะดวกกว่า โดยกระทรวงดีอีเอส ได้มอบหมายให้ กสท โทรคมนาคม ดูแลระบบหลังบ้าน ส่วนผู้มีอำนาจในการดึงข้อมูลคือกรมควบคุมโรค
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือกับชาวต่างชาติที่พำนักในไทย รวมถึงแรงงานต่างด้าว อย่าเพิ่งเคลื่อนย้ายออกนอกพื้นที่ในช่วงนี้ ส่วนกรณีที่แรงงานบางกลุ่มมีข้อกังวล ขอให้ความมั่นใจว่า เจ้าหน้าที่ยังไม่มีการดำเนินคดีกับแรงงานต่างด้าวแต่อย่างใด หากผู้ใดพบว่าตัวเองมีอาการป่วย แนะนำให้รีบไปพบแพทย์ หรือโทร.สายด่วน 1422 กรมควบคุมโรค ทั้งนี้ ระบบของกระทรวงสาธารณสุขมีความพร้อมในการช่วยดูแลรักษา ให้ยาเมื่อป่วย และจัดหาอาหาร/น้ำให้ระหว่างการกักตัวตลอด 14 วัน