อาร์ทีบีฯ ประเมินตลาดอุปกรณ์เสริมและไลฟ์สไตล์แก็ดเจ็ทปี 2564 ยังโตต่อเนื่อง รับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตและวิถีการทำงานที่เปลี่ยนไป รวมถึงการมาของเทคโนโลยี 5G เดินหน้าลุยขยายตลาดหูฟัง True Wireless ที่ยังมาแรงต่อเนื่อง ส่ง Jabra Elite 85t บุกตลาดส่งท้ายปี พร้อมกระตุ้นช่องทางอีคอมเมิร์ซ ดันรายได้รวมปี 2563 โตขึ้น 5%
นายบรรพต วัฒนสมบัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด เปิดเผยว่า แม้ปีนี้จะเป็นปีที่ต้องเผชิญต่อความท้าทาย แต่รายได้อาร์ทีบีฯไม่ลดลง ถึงแม้จะมีอุปสรรคทั้งเรื่องของการที่ห้างสรรพสินค้าปิดและเรื่องการซัปพลายของจากต่างประเทศถูกจำกัดจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งการที่ยอดขายยังรักษาระดับได้เป็นผลมาจากพอร์ตโฟลิโอของบริษัทที่มีความหลากหลาย รวมถึงเป็นสินค้าที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคและองค์กรยุคใหม่อย่างแท้จริง โดยสอดรับกับเทรนด์การทำงานที่บ้านในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงการส่งนวัตกรรมหูฟังรุ่นใหม่ๆ จากแบรนด์ระดับโลกเข้ามาทำตลาด และกลยุทธ์การขยายช่องทางไปสู่อีคอมเมิร์ซมากขึ้น ทำให้ผลประกอบการในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา มีรายได้รวมประมาณ 480 ล้านบาท และน่าจะจบปีได้ด้วยรายได้ที่ใกล้เคียงกับปี 2562
ในช่วงไตรมาส 4 อาร์ทีบีฯ ยังมุ่งขยายช่องทางอีคอมเมิร์ซเพิ่มมากขึ้น ควบคู่ไปกับการส่งนวัตกรรมหูฟังและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่สอดรับกับวิถีชีวิต New Normal จากแบรนด์ระดับโลกเข้ามาเสริมพอร์ตเพิ่มขึ้น เช่น กลุ่มสินค้าทางด้าน IoT, Home Connected Device, Medical Technology เพราะจากการทำตลาดในช่วงที่ผ่านมา พบว่า แม้ภาพรวมเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ความต้องการอุปกรณ์เสริมและไลฟ์สไตล์แก็ดเจ็ทในบางประเภทได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะตอบโจทย์การทำงานและการใช้ชีวิตได้หลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะกลุ่มเกมมิ่งและหูฟัง True Wireless จึงส่งผลให้ตลาดหูฟังยังขยายตัวต่อเนื่อง คาดว่าจะส่งผลให้รายได้รวมปี 2563 โตขึ้น 5%
สำหรับสินค้าส่งท้ายปี อาร์บีทีฯ ได้ส่ง Jabra Elite 85t เข้ามาทำตลาด ซึ่งเป็นหูฟัง True Wireless ที่จะมอบประสบการณ์ฟังเพลงที่ดียิ่งขึ้นไปอีกขั้น ด้วยระบบตัดเสียงรบกวนอัจฉริยะแบบ Advance ANC ขนาดเล็กกะทัดรัด ที่พัฒนาขึ้นใหม่ล่าสุด ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดเสียงดีที่สุด ซึ่งระดับการเปิดรับและตัดเสียงรบกวนมีถึง 11 ระดับ ประมวลผลจากไมโครโฟนทั้งหมด 6 ตัวที่พัฒนาขึ้นใหม่ ที่จะช่วยตัดเสียงรบกวนทั้งภายในและภายนอก Feedforward และระบบภายใน Feedbackward ทำให้เสียงคมชัดทุกสถานการณ์ รวมถึงมีฟังก์ชัน HearThrough ที่จะช่วยควบคุมการรับฟังเสียงจากภายนอกได้อย่างชัดเจนและสะดวกยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องถอดหูฟังให้เสียเวลา ทำให้ปลอดภัยเมื่ออยู่บนท้องถนน และรับรู้โลกภายนอกแม้ขณะใส่หูฟัง
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมการออกแบบที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ขนาดกะทัดรัด พร้อมจุกหูฟังแบบซิลิโคนใหม่รูปทรงวงรี ทำให้สวมใส่สบายพอดีและกระชับกับใบหู พร้อมกับลำโพงขนาด 12 มม.ที่ให้เสียงและเบสแน่น แต่ไม่อึดอัดเมื่อฟังเป็นเวลานาน เพราะมีช่องระบายอากาศออกมาด้านนอก นอกจากนั้น ยังรองรับการป้องกันน้ำตามมาตรฐาน IPX4 พร้อมรองรับการใช้งานร่วมกับ App Jabra Sound+ สำหรับการปรับระดับตัดเสียงรบกวน
รวมถึงปลดล็อกการตั้งค่าต่างๆ อย่างง่ายดาย ขณะที่แบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 5.5 ชั่วโมงเมื่อเปิดระบบ ANC โดยสามารถชาร์จเพิ่มจากเคสได้อีกรวมเป็น 25 ชั่วโมง และหากปิดระบบตัดเสียงรบกวนจะสามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้นเป็น 31 ชม.ที่สำคัญตัวเคสยังรองรับการชาร์จไร้สายตามมาตรฐาน Qi อีกด้วย พร้อมวางจำหน่ายในราคา 7,990 บาท