“ซีเนียร์ คอม” ขึ้นแท่นพันธมิตรโลคอลรายแรกของ “นูทานิคซ์” ในไทย ประกาศจุดยืนเร่งกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลให้ภาคอุตสาหกรรมการเงินด้วยการพัฒนาแอปพลิเคชัน H-Meter 2020 ให้ธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถมีฟังก์ชันการทำงานที่จำเป็นอย่างครบวงจร ตั้งเป้าปีหน้าโกย 500 ล้านบาทรับยุคโซลูชันคลาวด์ในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถกลุ่มนอนแบงก์ไทยบูมสุดขีด การันตีโซลูชันลดเวลาในการประมวลผลเอกสารเพื่อตัดยอดสินเชื่อในแต่ละวันเหลือเพียง 20 นาทีจากเดิมที่ต้องใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง มีลูกค้าที่นำแอปพลิเคชันนี้ไปใช้แล้วคือ ศรีสวัสดิ์ และที ลิสซิ่ง
นายสมเกียรติ อึงอารี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเนียร์ คอม จำกัด กล่าวว่าซีเนียร์ คอมให้ความสำคัญต่อเซกเมนต์อุตสาหกรรมการเงินต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา หลังจากก่อนหน้านี้บริษัทเน้นพัฒนาซอฟต์แวร์ในอุตสาหกรรมยานยนต์ เพราะบริษัทมองเห็นโอกาสในอุตสาหกรรมการเงินของประเทศไทยที่กำลังเผชิญความท้าทายทั้งด้านพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้โซลูชันคลาวด์มีความจำเป็นมากสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมนี้
สมเกียรติ มองว่า ปัจจัยที่จะทำให้โซลูชันคลาวด์ในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถไทยเติบโต คือความต้องการในตลาดที่เพิ่มขึ้น ภาวะสังคมหลังโควิด-19 ยิ่งบีบให้ผู้คนต้องการกู้เงิน กลายเป็นดีมานด์ในตลาดสินเชื่อที่นำไปสู่การแข่งขันที่สูงจากผู้ให้บริการรายอื่น นอกจากนี้ ยังมีการประกาศใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ TFRS9 มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9 หรือ International Financial Reporting Standard 9 ที่เริ่มใช้ในไทยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ล้วนเป็นแรงกระทุ้งที่ทำให้องค์กรต้องเร่งหาวิธีเปลี่ยนจากระบบเก่าที่หาโปรแกรมเมอร์มาปรับเปลี่ยนไม่ได้แล้ว เพื่อให้มีระบบที่สามารถทำงานได้ดีและรองรับความต้องการของลูกค้าที่เติบโตขึ้นได้ทันโดยไม่เสียประโยชน์จากการไม่อาจรับมือกับดาต้าที่เพิ่มขึ้นมหาศาล
“TFRS9 เร่งให้ตลาดเติบโตเพราะความเสี่ยง เนื่องจากการเปลี่ยนมาตรฐานบัญชีอาจทำให้การบันทึกบัญชีสำรองหนี้สูญของผู้ให้บริการการเงินต้องการระบบวิเคราะห์ความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เบื้องต้น พบว่าผู้ให้บริการส่วนใหญ่ยังปรับใช้มาตรฐานใหม่ด้วยการปรับปรุงบัญชีด้วยมือพนักงาน ซึ่งแม้บางองค์กรจะยังไม่กังวลเพราะมองว่างบการเงินไม่ได้รับผลกระทบ แต่เชื่อว่าหลังจากหลายบริษัทแสดงงบการเงินช่วงเมษายนถึงพฤษภาคมปีหน้า หลายบริษัทจะเข้าใจถึงความสำคัญของการเปลี่ยนผ่านสู่คลาวด์ในที่สุด”
ในภาพรวม สมเกียรติ มองว่าบริการสินเชื่อเช่าซื้อรถซึ่งให้บริการจํานําทะเบียนรถในประเทศไทยจะมีสัดส่วนใหญ่ที่กลุ่มรถมอเตอร์ไซค์ เบื้องต้น เชื่อว่าจะมีผู้กู้จำนวนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบัญชี โดยปัจจุบัน ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยในปีนี้จะอยู่ที่ 2 ล้านคัน ขณะที่ตลาดรถยนต์อยู่ที่ 5-6 แสนคันต่อปี
ลีสซิ่งนอนแบงก์ฮอตแรง
สมเกียรติ มองว่า บริการการเงินกลุ่มนอนแบงก์จะเป็นเซกเมนต์ธุรกิจที่เติบโตเร็วเพราะมีส่วนที่ยังไม่ถูกกำกับดูแลอย่างเต็มที่ ผลจากการทรานสฟอร์เมชันสู่คลาวด์ของอุตสาหกรรมเชื่อว่าจะทำให้ระยะเวลาการปล่อยสินเชื่อทำได้เร็วขึ้น เนื่องจากการคำนวณคะแนนความน่าเชื่อถือของลูกค้า และการประเมินความเสี่ยงจะสามารถทำได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพกว่าเดิม
เพื่อช่วยจัดการความท้าทายของผู้ให้บริการสินเชื่อ ซีเนียร์ คอมได้พัฒนาแอปพลิเคชัน ‘H-Meter 2020’ บนโครงสร้างพื้นฐานไอทีแบบไฮเปอร์คอนเวิร์จ (Hyperconverged Infrastructure: HCI) ของนูทานิคซ์ ซึ่งบริหารจัดการด้วยซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการอะโครโพลิสของนูทานิคซ์ (Acropolis Operating System : AOS) ที่ช่วยให้กระจายการทำงานได้อย่างรวดเร็ว เพื่อมุ่งมั่นปลดล็อกศักยภาพให้กับลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมการเงินให้สามารถเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลได้เร็วขึ้น
H-Meter 2020 ได้รับการพัฒนาเพื่อลูกค้ากลุ่มธุรกิจเช่าซื้อและสินเชื่อส่วนบุคคล แอปพลิเคชันนี้มีฟังก์ชันหลักที่ครอบคลุมการทำงานตั้งแต่ต้นจนจบและทำงานอย่างสอดคล้องกัน มีแดชบอร์ดที่รวบรวมข้อมูลและผลสรุปสำคัญไว้ให้ผู้บริหารและผู้ใช้งานนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นระบบบิ๊กดาต้าที่สามารถติดตั้งกับเซอร์เวอร์เบสแบบเดิมของแบรนด์อื่นได้ แต่สมเกียรติไม่แนะนำเพราะจะทำให้ระบบไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งจากการทดสอบพบว่าระบบสามารถลดเวลาในการประมวลผลเอกสารเพื่อตัดยอดในแต่ละวันเหลือเพียง 20 นาที จากเดิมที่ต้องใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง ขณะนี้มีลูกค้าที่นำแอปพลิเคชันนี้ไปใช้แล้ว คือ ศรีสวัสดิ์ และที ลิสซิ่ง
นายทวิพงศ์ อโนทัยสินทวี ผู้จัดการประจำประเทศไทย นูทานิคซ์ มั่นใจว่าการแจ้งเกิดของ H-Meter 2020 และการมีพันธมิตรไทยรายแรกเป็นซีเนียร์ คอม นั้นทำให้บริษัทมีข้อได้เปรียบเรื่องการทำตลาดเซกเมนต์นอนแบงก์ เนื่องจากซีเนียร์ คอมเป็นบริษัทโลคัลที่สามารถรองรับความต้องการของธุรกิจไทยได้ยืดหยุ่นกว่าพันธมิตรระดับโลก ตัวอย่างเช่น การมีโมเดลการจ่ายเงินแบบตามทรานแซกชัน ซึ่งธุรกิจสามารถเจรจากับซีเนียร์ คอมได้
ผู้บริหารนูทานิคซ์ยอมรับว่าปัจจุบัน ระบบของนูทานิคซ์ถูกใช้ในธนาคารส่วนใหญ่ทั่วโลก ขณะที่รายได้ส่วนใหญ่ของธุรกิจนูทานิคซ์ในไทยล้วนมาจากกลุ่มธนาคาร ดังนั้นความร่วมมือกับซีเนียร์คอมจะทำให้นูทานิคซ์สามารถขยายตลาดไปยังกลุ่มนอนแบงก์ได้แบบต้นจนจบ สร้างประสบการณ์ที่ดีกว่าให้ลูกค้าในระยะยาว
สำหรับความคาดหวังปีหน้า สมเกียรติ มองว่าจากผู้ให้บริการการเงินกลุ่มนอนแบงก์รายใหญ่ในไทยจำนวนราว 100 ราย เชื่อว่าจะมีราว 10 รายที่ตัดสินใจเป็นลูกค้าของซีเนียร์คอมและนูทานิคส์ในปีหน้า ซึ่งหากคำนวณจากมูลค่าการพัฒนาโซลูชันคลาวด์เฉลี่ย 50 ล้านบาทต่อราย จะพบว่าบริษัทมีโอกาสทำรายได้จากตลาดนี้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท
ด้านนูทานิคซ์ระบุว่า เป้าหมายปี 64 ในเซกเมนต์นี้คือการขยายไปนอกตลาดไทย โดยบริษัทจะตามพันธมิตรไปบุกตลาดเช่าซื้อที่ลาว ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของไทยที่มีแนวโน้มตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถเติบโตในลักษณะเดียวกัน เบื้องต้น ยังไม่มีแผนเปิดตลาดในประเทศอื่นเพิ่มเติม