เน็คซ์ แคปปิตอล ปิดเทรดวันแรกที่ 3.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.86 บาท คิดเป็น 39.09% มูลค่าซื้อขาย 1,046.29 ล้านบาท โบรกฯ ให้ราคาเป้าหมาย 2.70 บาท ผู้บริหารนำเงินไปใช้คืนเงินกู้และเป็นทุนหมุนเวียน
หุ้น NCAP หรือบริษัท เน็คซ์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) เข้าซื้อขายเป็นวันแรกโดยเปิดตลาดราคาหุ้นอยู่ที่ 3.20 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 45.45% จากราคาขาย IPO ที่ 2.20 บาท/หุ้น ระหว่างวันราคาหุ้นปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 3.82 บาท ต่ำสุดที่ 2.92 บาท และเมื่อตลาดปิด พบว่า ราคาหุ้นอยู่ที่ 3.06 บาท เพิ่มขึ้น 0.86 บาท คิดเป็น 39.09% มูลค่าซื้อขาย 1,046.29 ล้านบาท
บล.ฟินันเซีย ไซรัส เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้น บริษัท เน็คซ์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ NCAP ประเมินหุ้น NCAP ให้ราคาเป้าหมาย 2.70 บาท คาดกำไรปี 2563-2564 เพิ่มขึ้น 28% และ 35% จากปีก่อนตามลำดับ
สำหรับ NCAP เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์และมีส่วนแบ่งตลาดแกร่งในภาคใต้ แม้ธุรกิจจะมีผู้ประกอบการมากรายและยอดขายรถจักรยานยนต์ที่ไม่โต แต่การขยายตัวของ E-Commerce โดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นโอกาสในการเติบโต รวมถึงมีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็น บมจ.คอมเซเว่น (COM7) และ บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) (SYNEX)
โดย NCAP มีทุนชำระแล้ว 450 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 600 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) 300 ล้านหุ้น โดยเสนอขายต่อบุคคลตามดุลพินิจของผู้จัดจำหน่าย 225 ล้านหุ้น ผู้มีอุปการคุณของบริษัท กรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน และบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับบริษัทรวม 75 ล้านหุ้น ในวันที่ 30 ตุลาคม และวันที่ 2-3 พ.ย.2563 ในราคาหุ้นละ 2.20 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 660 ล้านบาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯ ประเมินมูลค่าที่เหมาะสมเบื้องต้นของ NCAP เทียบกับบริษัทที่ประกอบธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อจักรยานยนต์ที่ใกล้เคียงกัน เช่น TK โดยการเข้ามาระดทุนผ่านการเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ของ NCAP จะช่วยลด Cost of Fund ของบริษัทให้ต่ำลงส่งผลให้ NIM เพิ่มขึ้น และด้วยการที่เน้นสินเชื่อรถจักรยานยนต์ใหม่เป็นหลัก ทำให้มี NPL น้อยกว่ากลุ่มมือสอง
อย่างไรก็ตาม ด้วยสินเชื่อของ NCAP ส่วนใหญ่ราว 1 ใน 3 มาจากบริเวณภาคใต้ที่เน้นรายได้จากภาคการท่องเที่ยวและเกษตร (ยางพารา) เป็นหลัก ทำให้มีความเสี่ยงที่ NPL จะเพิ่มขึ้นได้ในอนาคต สำหรับมูลค่าที่เหมาะสมอิง PER ที่ 13 เท่า และ PBV ที่ 1.5 เท่าของกลุ่มจะทำให้มีมูลค่าที่เหมาะสม 2.42-2.76 บาท
นายสมชัย ลิมป์พัฒนสิน กรรมการผู้จัดการ NCAP กล่าวว่า บริษัทมีแผนจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหลักทรัพย์ในครั้ง
นี้ชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องในการประกอบธุรกิจและความสามารถในการแข่งขัน เพื่อให้ NCAP ก้าวเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ และเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน สร้างผลตอบแทนระยะยาวให้แก่ผู้ถือหุ้น รวมทั้งเป็นกลไกสำคัญในการสร้างความมั่นคงให้แก่เศรษฐกิจของประเทศ