LINE Shopping ปรับแพลตฟอร์มเน้นตอบโจทย์โซเชียลคอมเมิร์ซ หลังเห็นแนวโน้มร้านค้าปิดการขายได้เร็ว และง่ายที่สุด โดยเฉพาะร้านค้าที่เปิดใน MyShop กว่า 50,000 ราย ประเดิมด้วยการไลฟ์สดขายของ “LINE SHOPPING x TUES LIVE”
นายเลอทัด ศุภดิลก หัวหน้าฝ่ายธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ LINE ประเทศไทย กล่าวถึงทิศทางใหม่ของ LINE Shopping หลังจากนี้จะเน้นเรื่องโซเชียลคอมเมิร์ซมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเห็นเทรนด์ว่าสินค้าในโซเชียลมีอัตราการซื้อขายมากที่สุด
“ในตลาดอีคอมเมิร์ซประเทศไทย พบว่า กว่า 62% ของผู้บริโภคมีการเลือกซื้อสินค้าผ่านโซเชียลคอมเมิร์ซ โดยปัจจุบัน LINE Shopping มีจำนวนผู้ใช้งานเป็นประจำกว่า 3 ล้านราย และในช่วงที่ผ่านมา ยอดขายสินค้าเพิ่มขึ้น 44% คิดเป็นมูลค่ารวมเพิ่มขึ้นถึง 95% และจำนวนผู้เข้าชมสินค้าเพิ่มขึ้นถึง 191%”
โดยสิ่งที่ทำให้ LINE Shopping แตกต่างจากแพลตฟอร์มอื่นๆ คือ การมีอีโคซิสเตมของ LINE มาช่วยเสริมจากระบบการซื้อขายทั่วไป ทั้งการแชตสอบถาม เครื่องมือปิดการขาย ระบบแค็ตตาล็อกสินค้า จนถึงการซื้อสินค้า และชำระเงินด้วย Rabbit LINE Pay และในอนาคตมีแผนที่ขยายบริการจัดส่งสินค้าร่วมกับ LINE MAN ด้วย
การปรับตัวของ LINE Shopping ในครั้งนี้ จะนำกลยุทธ์มาตอบโจทย์ 3 แกนหลักของโซเชียลคอมเมิร์ซ ประกอบไปด้วย 1.Entertainment ที่เน้นความสนุก 2.Engagement ให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมกับผู้ขาย และ 3.Commerce ที่มีระบบซื้อขายที่ง่าย และรวดเร็ว
ในด้านของความบันเทิง จะเสริมไลฟ์คอนเทนต์เพื่อให้สามารถเข้าถึงผู้ใช้งานได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น จึงได้เข้าไปร่วมมือกับ “ป้าตือ” สมบัษร ถิระสาโรช จัดทำรายการ “LINE SHOPPING x TUES LIVE” ผสมผสานรายการทอล์กเข้ากับไลฟ์ขายของบน LINE Shopping ครอบคลุมสินค้าแฟชั่น เครื่องสำอาง อาหาร อุปกรณ์ท่องเที่ยวทุกวันอังคาร เวลา 20.00-22.00 น.
ขณะที่ในส่วนของ Engagement ที่กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยให้ปิดการขายได้ คือการนำเครื่องมือแชตมาช่วยตอบคำถามของลูกค้า ในขณะที่เรื่องของ Commerce LINE จะมีเครื่องมืออย่าง MyShop ที่ปัจจุบันเปิดให้ร้านค้าใช้งานผ่านเว็บไซต์ แต่ภายในสิ้นปีนี้จะมีเป็นแอปพลิเคชันให้ใช้งานบนสมาร์ทโฟน
“แนวทางของ LINE Shopping ในเวลานี้ คือการทำแพลตฟอร์มให้ครบสมบูรณ์ก่อน ทำให้ยังไม่มีการตั้งเป้าหมายระยะสั้น แต่ในช่วง 3 ปีข้างหน้าคาดหวังว่าจะสามารถเป็นเบอร์ 1 ในตลาดโซเชียลคอมเมิร์ซได้อย่างชัดเจน”