xs
xsm
sm
md
lg

กทปส.นำเงินกองทุน 1,180 ล้านบาท พัฒนา 'เฮลท์เทค' ใน 322 สถานพยาบาลทั่วประเทศ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กทปส. เพิ่มทุนวิจัย 1.18 พันล้านบาท แก่ 322 สถานพยาบาลทั่วไทย หนุนการให้บริการสาธารณสุขเท่าเทียมภายใต้โครงการ “ส่งเสริมและสนับสนุนสถานพยาบาลของรัฐ และโรงพยาบาลภาคสนามของรัฐ ต่อสู้สถานการณ์ COVID-19” นำไปติดตั้งห้องความดันลบด้วยระบบ IoT พร้อม CT Scan คัดกรองด้วย AI / 5G

นายนิพนธ์ จงวิชิต ผู้อำนวยการ กองทุนวิจัยและพัฒนา กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) กล่าวว่า หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยคลี่คลายสถานการณ์หรือวิกฤตสุขภาพ “โควิด-19” ได้อย่างรวดเร็ว นอกเหนือจากมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมและการรักษาความสะอาด คือ “เฮลท์เทค” (Health Tech) นวัตกรรมทางการแพทย์ที่มีบทบาทสำคัญในการตรวจรักษา ที่มาพร้อมความทันสมัย พร้อมรองรับการรักษาผู้ป่วยจำนวนมาก ตลอดจนประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงการรักษาได้อย่างเท่าเทียม

ดังนั้น ในช่วงวิกฤตดังกล่าว กทปส. ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จึงเดินหน้าดำเนินโครงการ “ส่งเสริมและสนับสนุนสถานพยาบาลของรัฐ และโรงพยาบาลภาคสนามของรัฐ ต่อสู้สถานการณ์ COVID-19” ภายใต้งบประมาณ 1.18 พันล้านบาท ครอบคลุมสถานพยาบาลทั่วไทยรวม 322 แห่ง

สำหรับสถานพยาบาลที่ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัย ประกอบด้วย สถานพยาบาลของรัฐ และโรงพยาบาลภาคสนามของรัฐ ใน 13 เขตสุขภาพ ตามกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข ได้พัฒนานวัตกรรม “เฮลท์เทคสู้โควิด-19” เพื่อรองรับผู้ป่วยหรือเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ตลอดจนสามารถนำไปปรับใช้ในสถานการณ์อื่นๆ ได้ในระยะยาว

ห้องความดันลบ
โดยนวัตกรรมที่น่าสนใจ ประกอบไปด้วย 1.ห้องความดันลบด้วยระบบ IoT ห้องที่ช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อระหว่างการตรวจวินิจฉัย ที่ได้รับการปรับปรุงจากห้องผู้ป่วยเดิม นำเซ็นเซอร์ตรวจวัดสำคัญ ได้แก่ เซนเซอร์อุณหภูมิ เซนเซอร์ความชื้นสัมพัทธ์ของอากาศ และเซนเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์ของอากาศ (CO2) พร้อมแสดงผลผ่าน Freeboard NETPIE

2.ระบบ CT Scan คัดกรองผู้ป่วยด้วย AI/5G การวินัจฉัยโรคด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ที่มาพร้อมเทคโนโลยี AI และ 5G ช่วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญวินิจฉัยโรคได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำใน 10 วินาที อีกทั้งยังรายงานผลการตรวจอัตโนมัติใน 30 วินาที

ทั้งนี้ นับว่ารวดเร็วกว่าวิธีการปกติถึง 6 เท่า ซึ่งนับเป็นนวัตกรรมที่ช่วยแบ่งเบาภาระงานของแพทย์ และยังช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงการตรวจรักษาที่เร็วยิ่งขึ้น โดยในอนาคตอันใกล้ เตรียมนำร่องใช้จริง ณ สถานพยาบาลทั่วประเทศ เพื่อคัดกรองและวินิจฉัยอาการผู้ป่วยเป็นลำดับต่อไป


3.ระบบ Teleconference ให้คำปรึกษาโรงพยาบาลเครือข่าย แม้หน่วยงานสาธารณสุข/อนามัยชุมชน จะกระจายครอบคลุมทุกเขตสุขภาพแล้ว แต่ในแง่ของการได้รับการรักษาพยาบาลในภาคประชาชนยังมีข้อจำกัด อันเนื่องมาจากความพร้อมของบุคลากรทางการแพทย์ หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน

ดังนั้น การมีระบบ Teleconference ระบบประชุมทางไกล สำหรับให้คำปรึกษาโรงพยาบาลในเครือข่ายที่ได้รับทุนจาก กสทช. 20 แห่งทั่วประเทศ เข้ามาเป็นสื่อกลางในการสื่อสารระหว่างบุคลากรทางการแพทย์ ณ สาธารณสุข/อนามัยชุมชน กับโรงพยาบาล จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการรักษาได้อย่างรวดเร็ว ลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปโรงพยาบาลเขตเมือง

อย่างไรก็ดี กทปส. มุ่งผลักดันการพัฒนา “นวัตกรรมหรืองานวิจัย” ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทรัพยากรด้านการสื่อสาร เช่น เครือข่ายอัจฉริยะ 5G เทคโนโลยีเอไอ (AI) ไอโอที (IoT) และอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างประโยชน์แก่สาธารณชนในหลากมิติ สู่การลดความเหลื่อมล้ำ ในการเข้าถึงระบบ/บริการสาธารณะของประเทศเต็มประสิทธิภาพ


กำลังโหลดความคิดเห็น