กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สั่ง กสทช.แบนแอปพลิเคชันเทเลแกรม หลังกลุ่มเยาวชนปลดแอกนำไปใช้เป็นช่องทางติดต่อสื่อสารในการชุมนุม ยอดผู้ติดตามมากถึง 1.6 แสนราย ด้านฝ่ายผู้ชุมนุมโต้ปิดไปก็เท่านั้น กำลังจะมีช่องทางสำรอง
วันนี้ (19 ต.ค.) มีรายงานว่า นายภุขพงศ์ โนดไธสง รองปลัดกระทรวง ปฏิบัติราชการแทนปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้ทำหนังสือถึงนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ระบุว่า ด้วยหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ได้มีคำสั่งที่ 11/2563 เรื่องระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ออกจากระบบคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 ประกอบมาตรา 11 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ให้สำนักงาน กสทช. และกระทรวงดีอีเอส ดำเนินการเพื่อให้ระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นออกจากระบบคอมพิวเตอร์ ตามคำสั่งหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ที่ 11/2563
ในการนี้ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามคำสั่งดังกล่าว กระทรวงดีอีเอสขอความร่วมมือให้เลขาธิการ กสทช.ดำเนินการแจ้งให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือทุกรายระงับการใช้แอปพลิเคชันเทเลแกรม (Telegram) โดยมีรายละเอียด IP Address แอปพลิเคชันเทเลแกรม จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการเรื่องดังกล่าวจะขอบคุณยิ่ง
อนึ่ง สำหรับแอปพลิเคชัน Telegram ก่อตั้งโดยชาวรัสเซีย ใช้สำหรับส่งข้อความระหว่างกัน มีความปลอดภัยกว่าไลน์ (LINE) และวอตส์แอป (WhatsApp) เนื่องจากการส่งและเข้ารหัสแบบฉบับของตัวเอง มีกุญแจเข้ารหัสหลายระดับ สามารถตั้งค่าความเป็นส่วนตัวได้หลากหลาย รวมทั้งมีจุดยืนสนับสนุนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น โดยผู้พัฒนาระบุว่าจะไม่เข้าไปมีส่วนร่วมกับการเซ็นเซอร์ที่มีเหตุผลทางการเมืองอยู่เบื้องหลัง ทำให้ที่ผ่านมาถูกนำไปใช้ในการชุมนุมทางการเมืองในฮ่องกง และประเทศเบลารุส โดยกลุ่มเยาวชนปลดแอก (FREE YOUTH) ของนายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี ได้นำไปใช้เป็นช่องทางติดต่อสื่อสารสำรองของผู้ชุมนุม
ล่าสุด เฟซบุ๊กเพจ “เยาวชนปลดแอก- Free YOUTH” โพสต์ข้อความระบุว่า “เห็นจะปิด Telegram เลยติ นี่ปี 2563 ค่ะคุณพี่ ปิดไปก็เท่านั้น คุณไม่มีทางจะหยุดการเรียกร้องในครั้งนี้ได้ ขอย้ำอีกครั้ง ทางเดียวที่คุณจะหยุดการเรียกร้องนี้ได้คือการรับข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อจากประชาชนผู้รักในประชาธิปไตยเท่านั้น” และระบุว่า แค่ 1 วันสมาชิก Telegram จากเยาวชนปลดแอกพุ่งสูงถึง 160,000 ราย และถึงแม้จะสั่งปิด Telegram กำลังจะมีช่องทางสำรองอีกต่อไป โปรดติดตาม