กระทรวงดีอีเอส ยืนยันไม่ได้สั่งปิดแอป Telegram แต่ให้ผู้ให้บริการเฝ้าระวัง และตรวจสอบ หากพบว่ามีความผิดให้ระงับการเผยแพร่ หรือลบข้อมูลออกจากระบบคอมพิวเตอร์ทันที
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กระทรวงดีอีเอส) กล่าวถึงกรณีคำสั่งหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ที่ 31/2563 เรื่องระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ออกจากกระบบคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะฝ่าฝืนข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 ประกอบมาตรา 11 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 รวมถึง IP Address แอปพลิเคชันเทเลแกรม (Telegram) ด้วย
ทั้งนี้ กระทรวงดิจิทัล และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคแห่งชาติ (กสทช.) จึงขอความร่วมมือให้ดำเนินการแจ้งให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต และผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือทุกรายระงับการใช้แอปพลิเคชันเทเลแกรม (Telegram) ที่มีลักษณะผิดกฎหมาย หากพบว่ามีความผิดเพื่อให้ระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นออกจากระบบคอมพิวเตอร์ทันที
ที่ผ่านมา ทางตำรวจได้ใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีอำนาจสั่งมาให้กระทรวงดิจิทัล และ กสทช.ควบคุมเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย ที่มีการยุยง ปั่นป่วน โดยหากพบว่ามีความผิด ให้แจ้งและลบเนื้อหานั้น และรวบรวมเพื่อดำเนินคดี ซึ่งแอปพลิเคชันเทเลแกรม ถือเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มหนึ่งที่มีการนำเสนอทางสื่อโซเชียลมีเดีย ตนจึงได้สั่งการให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ค่ายมือถือตรวจสอบหากพบการกระทำความผิดกฎหมายก็ให้ดำเนินคดีทันที
