เกษตรกรยุคใหม่ควรเป็นแบบไหน? อินเทอร์เน็ตจะกลายเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร? ตามมาดูกัน
ทุกวันนี้ อินเทอร์เน็ตได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของใครหลายๆ คนไปแล้ว อีกทั้งพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตในปัจจุบันไม่ได้ให้แค่ความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นตัวช่วยสำคัญในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะด้านการส่งเสริมอาชีพ ส่งเสริมธุรกิจได้แทบทุกขั้นตอน ไม่เว้นแม้กระทั่งงานด้านการเกษตร
เกษตรกรยุคใหม่ เพิ่มรายได้ทางตรงแบบไม่ผ่านตัวกลาง
ในปัจจุบัน สิ่งแรกที่เกษตรยุคใหม่ควรเริ่มคือการศึกษาหาช่องทางเพิ่มรายได้ในแบบที่ไม่ต้องผ่านตัวกลาง ไม่ต้องพึ่งพาพ่อค้าคนกลาง เพื่อให้ได้กำไรอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ซึ่งการหาลูกค้าแบบไม่ผ่านตัวกลางนั้น “อินเทอร์เน็ต” ถือเป็นช่องทางสำคัญที่สุด คุณสามารถซื้อขาย พูดคุยกับคนที่มีความสนใจในผลผลิตของคุณได้แบบข้ามจังหวัดข้ามซีกโลก โดยผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ ผ่านอินเทอร์เน็ต
การค้าขายออนไลน์ ขายของได้ง่ายๆ เพียงรู้ช่องทางในการหาแหล่งลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
การขายของได้กลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับเราทุกคนไปแล้ว ซึ่งใครๆ ก็เป็นแม่ค้าออนไลน์ ได้ และในปัจจุบันมีแม่ค้าออนไลน์หน้าใหม่เกิดขึ้นมามากมาย มีตั้งแต่เด็กนักเรียนมัธยมไปจนถึงบุคคลทั่วไปที่อยากมีรายได้เสริมหลังเลิกงาน และบางคนก็ได้ยึดการขายของออนไลน์เป็นอาชีพหลัก สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากเริ่มต้นขายของออนไลน์ แต่ยังไม่รู้วิธีการเข้าหาแหล่งซื้อขายที่อยู่บนโลกออนไลน์เช่น
ถือว่าเป็นแพลตฟอร์มเดียวที่ดึงดูดคนทุกวัยมาเปิดบัญชีใช้งาน และเป็นแหล่งซื้อขายบนโลกออนไลน์แรกที่ทุกคนนึกถึง ซึ่งวิธีการหาลูกค้าใน Facebook ก็สามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้
1.เริ่มต้นจากการเปิดเพจเป็นร้านของตนเองก่อน โดยตั้งชื่อร้านให้ตอบโจทย์กับกลุ่มลูกค้า เช่น หากเราอยากขายเสื้อผ้าวินเทจและเจาะจงไปที่กลุ่มคนที่ชอบแต่งตัววินเทจ จะต้องตั้งชื่อที่มีคำหลัก หรือ Keyword ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย อย่างเช่น วินเทจ หรือ Vintage เพื่อให้ร้านของเราติดอยู่ในการค้นหาคำจากลูกค้า
2.ดารตั้งกลุ่มขึ้นมาเองหรือเข้าไปที่กลุ่มซื้อขายที่มีลูกค้าเป้าหมายของเราอยู่ คืออีกวิธีที่แม่ค้าออนไลน์ทุกคนใช้เข้าหาลูกค้า ซึ่งเราสามารถขายของในกลุ่มเฟซบุ๊กได้ 2 วิธีคือ
- การโพสต์สินค้าลงในกลุ่มเฟซบุ๊กต่างๆ ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการขายเพิ่มมากขึ้น เพราะกลุ่มเหล่านั้นจะรวมคนที่มีความสนใจหรือความชอบที่เหมือนๆ กัน ไว้ด้วยกัน ยิ่งถ้าเพจเฟซบุ๊กของเรายังมีผู้ติดตามจำนวนน้อยก็โพสต์สินค้าของเราเพื่อชักชวนให้ลูกค้าให้มากดไลก์เพจ หรือติดตามเพจของเราได้ด้วย
- ไลฟ์สด (Live) เพื่อขายของให้แก่คนที่ชื่นชอบสินค้าของเรา โดยจะต้องเลือกช่วงเวลาการไลฟ์ให้เหมาะสมกับกลุ่มคนที่เราต้องการขาย ถ้าเราแชร์ไลฟ์สดของเราได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย โอกาสที่เราจะขายของได้ก็มีสูงเช่นกัน
เป็นโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มที่ขึ้นชื่อเรื่องการขายของอยู่แล้ว เพราะถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์คนที่ชื่นชอบถ่ายรูปและชอบดูภาพ ถ้าเรามีสินค้าอยู่แล้ว สามารถนำภาพถ่ายสินค้ามาลงขายที่ Instagram ได้อีกช่องทางหนึ่ง โดยตั้งชื่อร้านให้เหมือนกับชื่อร้านใน Facebook และถ้าอยากให้ร้านใน Instagram ดูน่าสนใจและดูพรีเมียม เราต้องมีทักษะในการถ่ายภาพสินค้าให้ออกมาดูดี เพราะกลุ่มลูกค้าใน Instagram มักจะตัดสินใจซื้อจากรูปภาพที่พวกเขาเห็น นอกจากนี้การโพสต์ขายสินค้าก็ควรใส่ # (Hashtag) เพื่อระบุความเกี่ยวข้องกับสินค้าไว้ด้วย เนื่องจากว่าคนส่วนใหญ่จะค้นหาสินค้ากันด้วย # (Hashtag)
Youtube
เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่เป็นพื้นที่สำหรับการหาลูกค้าที่ชื่นชอบการดูคอนเทนต์จากวิดีโอเป็นหลัก การอัปวิดีโอลง Youtube นอกจากจะได้ฐานลูกค้าในแพลตฟอร์มนั้นแล้ว เรายังสามารถนำลิงก์วิดีโอของ Youtubeไปโพสต์ที่แพลตฟอร์มอื่นๆ ได้เช่นกัน และทริกขายของสำหรับการหาลูกค้าใน Youtube นั้นเราต้องทำคอนเทนต์ที่ให้ประโยชน์แก่ลูกค้าเป็นหลัก เพื่อดึงพวกเขาเข้าไปติดตาม Facebook และ Instagram ด้วย
เป็นแพลตฟอร์มที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร ที่เน้นลูกค้าที่ชอบอ่านข้อความสั้นๆ และโดนใจ และทริดในการโปรโมตร้านและขายของใน Twitter คือการติด Hashtags ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าของเรา เพราะลูกค้าชอบค้นหาความสนใจจาก Hashtag หรือถ้าเราเขียน caption ก็ต้องเขียนให้สั้นและเขียนกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดการคลิก เช่น คลิกเลย! สนใจคลิกที่นี่! เป็นต้น
E-Commerceคือตลาดนัด 24 ชั่วโมงของคนยุคใหม่
ทุกวันนี้จะเห็นได้ว่าการซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์นั้นเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ E-Commerce ได้กลายเป็นตลาดนัดที่เปิดให้เลือกซื้อของตลอด 24 ชม. สะดวกตอนไหนก็ซื้อได้ตอนนั้นเลยทันที จึงเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่แม่ค้าออนไลน์ใช้เปิดร้านค้าออนไลน์ขายสินค้า เช่น LAZADA และ Shopee ที่ทำหน้าที่ขายของแทนเราได้แม้ในยามที่เรานอนหลับอยู่ก็ตาม เช่น การเก็บค่าสินค้า เป็นต้น วันนี้ถ้าเราอยากเริ่มต้นขายของออนไลน์ แพลตฟอร์มแบบ E-Commerce ถือว่าตอบโจทย์การขายของออนไลน์ได้เป็นอย่างดี https://www.tot.co.th/eservice
LineOfficial Account เป็นเซลส์ที่เก็บฐานลูกค้าให้เราได้
หลายต่อหลายครั้งที่มีลูกค้าติดต่อเข้ามาสอบถามสินค้าหรือได้ตัดสินใจซื้อแล้วผ่านทาง Facebook และInstagram แต่เราไม่สามารถทำให้เขากลับมาซื้อซ้ำได้ และไม่สามารถเก็บลูกค้าคนนั้นไว้ได้ จึงทำให้แม่ค้าทั้งหลายเหนื่อยกับการที่ต้องคอยหาลูกค้าใหม่อยู่เสมอ ปัญหานี้จะหมดไปถ้าเราเลือกใช้ Line Official Account หรือ Line OA เป็นช่องทางหลักในการติดต่อซื้อขาย และเป็นผู้ช่วยในการเก็บฐานข้อมูลลูกค้าของเราทั้งเก่าและใหม่ เพราะ Line เป็นแอปพลิเคชันสำหรับการสื่อสารที่คนไทยนิยมใช้กัน ทริกเด็ดที่จะ Line OA ของเรา คือ เวลาที่เขียน caption หรือเขียนคำโฆษณาสินค้าบนช่องทางอื่นๆ แนะนำให้ใส่ลิงก์บัญชี Line OA ของเราไปด้วย
เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไปใครๆ ก็เป็นแม่ค้าได้โดยไม่ต้องมีหน้าร้านและไม่ต้องเสียค่าเช่าที่รายเดือน เพียงมีอินเทอร์เน็ตกับอุปกรณ์ เช่น สมาร์ทโฟนที่ติดตั้งร้านค้าสำเร็จรูปอย่างโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มก็จะทำให้เราเข้าหาลูกค้าได้ง่ายขึ้นเพียงปลายนิ้วเท่านั้น