กลุ่มทรู เปิดแผนเปลี่ยนแปลงประเทศด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัล โดยเฉพาะ True 5G มาช่วยพลิกโฉมให้กลายเป็นประเทศอัจฉริยะและความยั่งยืน ชูความโดดเด่นเรื่องความครบเครื่องของกลุ่มทรูที่มีทั้งย่านคลื่นความถี่มากที่สุด ระบบนิเวศดิจิทัลที่ครอบคลุม และพันธมิตรแข็งแกร่งระดับโลกที่จะพาทั้งภาคธุรกิจและผู้ใช้งานทั่วไปเข้าสู่โลก 5G ไปพร้อมกัน
โดยแผนการเปลี่ยนผ่านสู่ประเทศอัจฉริยะของกลุ่มทรูเกิดขึ้นหลังจากในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อคนทั้งโลกซึ่งส่งผลให้มูลค่าธุรกิจทั่วโลกลดลง 20-30% โดยมีนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ในสหรัฐฯ วิกฤตนี้เป็นวิกฤตใหญ่ในรอบ 120 ปี เทียบเท่าสงครามโลกครั้งที่ 2
ในขณะที่ประเทศไทย ก็ได้รับผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจจากเรื่องนี้เช่นเดียวกัน แต่ในอีกมุมก็เป็นการแสดงให้เห็นว่าคนไทยทั้งประเทศสามารถเรียนรู้และเปลี่ยนแปลงเข้าสู่วิถีชีวิตใหม่ได้อย่างรวดเร็วที่แสดงให้เห็นถึงความสามัคคีของคนไทยที่จะก้าวผ่านไปด้วยกัน
อาณัติ เมฆไพบูลย์วัฒนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ระบุว่า วิกฤตคราวนี้เป็นเหมือนกับ Game Changer ทำให้ดิจิทัล ทรานฟอร์เมชัน เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว สิ่งที่เคยทำอยู่เดิมทั้งการทำงานในสำนักงาน การเดินทางไปเจรจากับคู่ค้าในต่างประเทศ การเรียนที่บ้านผ่านออนไลน์ การประชุมเสมือนจริง
“กลายเป็นว่าเมื่อมีวิกฤตทำให้เกิดโอกาสในการร่วมกันสร้างการเปลี่ยนแปลง สร้างความแตกต่างของการร่วมมือ ขับเคลื่อนประเทศนี้ให้เป็นอัจฉริยะ เพื่อเติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อที่จะให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง”
ขณะเดียวกัน ยังได้หยิบยกรายงานจากอีริคสันเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้งานสมาร์ทโฟนที่พบว่าปริมาณการใช้งานดาต้าเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ทั้งการทำงานนอกสถานที่ การใช้งานดิจิทัลเปย์เมนต์ จนถึงการศึกษาทางไกลผ่านช่องทางออนไลน์ที่ได้รับความนิยมขึ้น
“เมื่อผู้บริโภคมีความจำเป็นต้องเข้าสู่ดิจิทัลผ่านแอป หรือช่องทางออนไลน์อื่นๆ ก็ต้องถือว่าเป็นความโชคดีอย่างมากของคนไทยที่มีการเปิดประมูลคลื่นความถี่ 5G ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา และโอเปอเรเตอร์ก็พร้อมลงทุนให้บริการ ซึ่งกลายเป็นว่าได้เข้ามาร่วมช่วยแก้ไขวิกฤตที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ไปในตัว”
ภาพความร่วมมือระหว่างโอเปอเรเตอร์ และหน่วยงานสุขภาพ โดยเฉพาะโรงพยาบาลต่างๆ ที่มีการนำ 5G ไปใช้งานทางด้านสุขภาพ ตอกย้ำให้เห็นถึงความจำเป็นในการใช้งาน 5G ซึ่งช่วยให้โรงพยาบาลมีเครื่องมือในการช่วยคัดกรอง และสื่อสารกับผู้ป่วยผ่านหุ่นยนต์ที่เข้ามาช่วยบริการผ่าน 5G และมีแผนที่จะขยายความร่วมมือทางด้านสาธารณสุขต่อไป
***True 5G ครบเครื่องที่สุด
ขณะเดียวกัน เนื่องจากการให้บริการ 5G นั้นต้องอาศัยหลากหลายปัจจัยที่เข้ามาช่วยเสริมสร้างให้เกิดขึ้นเป็นอีโคซิสเตมส์ในการให้บริการ ดังนั้น เครือข่ายที่มีความครบเครื่องมากที่สุดจะได้เปรียบในการแข่งขันในยุคนี้ ซึ่งปัจจุบันกลุ่มทรูถือเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายที่ครบรายหนึ่งในประเทศ
โดยในแง่ความครบเครื่องของกลุ่มทรูจะครอบคลุม 3 ส่วนหลักๆ ด้วยกันคือ 1.การถือครองย่านคลื่นความถี่มากที่สุดในประเทศไทย ที่มีทั้ง ย่านความถี่ต่ำ ไม่ว่าจะเป็นคลื่น 700 MHz 850 MHz และ 900 MHz ในขณะที่ผู้ให้บริการรายอื่นถือครองเพียง 700 MHz และ 900 MHz เท่านั้น ทำให้กลุ่มทรูนำประโยชน์ของคลื่นความถี่ต่ำที่ให้ความครอบคลุมพื้นที่ได้ง่ายกว่ามาเป็นจุดเด่นของเครือข่ายได้
ตามมาด้วย คลื่นความถี่ย่านกลาง อย่างคลื่น 1800 MHz 2100 MHz และ 2600 MHz ที่ปัจจุบันถือเป็นคลื่นหลักที่นำมาให้บริการ 4G และมีการนำคลื่น 2600 MHz บางส่วนมาให้บริการ 5G เพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของผู้บริโภคทั่วไป
สำหรับ คลื่นความถี่ย่านสูง 26 GHz จะเน้นนำไปตอบโจทย์ธุรกิจที่ต้องการความเร็วสูง ความหน่วงต่ำ ในพื้นที่เฉพาะอย่างกลุ่มอุตสาหกรรมที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในแง่ของการควบคุมคุณภาพ ต้นทุน และเวลา
ทั้งนี้ ปัจจุบัน True 5G ใช้งานได้ครอบคลุม 77 จังหวัด โดยจะเน้นไปที่สถานที่สำคัญ ทั้งห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล โรงงานอุตสาหกรรม แหล่งท่องเที่ยว ศูนย์บริการทรู จุดบริการขนส่งสาธารณะและในสถานศึกษา ซึ่งถือเป็นพื้นที่ยุทศาสตร์ที่จะได้ประโยชน์จากเครือข่ายอัจฉริยะ True 5G
2.ครบทุกดิจิทัลไลฟ์สไตล์ เมื่อมีเครือข่ายให้บริการแล้วอีกปัจจัยหนึ่งที่มาช่วยเสริมประสบการณ์ในการใช้ชีวิตดิจิทัลของผู้บริโภคคือ การมีบริการที่หลากหลาย ซึ่งที่ผ่านมา กลุ่มทรู ถือเป็นผู้ให้บริการที่ให้บริการครอบคลุมทั้งด้านบริการและดิจิทัลคอนเทนต์ผ่าน True ID และบริการในกลุ่มทรู ดิจิทัลอย่าง TrueMoney
สุดท้ายคือ 3.ครบทุกกลุ่มพันธมิตรไทยและระดับโลกที่จะเข้ามาร่วมพัฒนาบริการเพื่อใช้งานบน True 5G ด้วยโซลูชันและเทคโนโลยีอัจฉริยะ ทั้ง AI, Robotics, Deep Data Analytics และ Smart IoT ทำให้มั่นใจได้ว่า True 5G พร้อมแล้วที่จะพลิกโฉมไทยสู่ประเทศอัจฉริยะที่ยั่งยืน
***ภาคธุรกิจ-คอนซูเมอร์ต้องไปพร้อมกัน
พิรุณ ไพรีพ่ายฤทธิ์ หัวหน้าคณะทำงานและกรรมการยุทธศาสตร์ 5G ทรู คอร์ปอเรชั่น ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า แนวทางในการทำงานของกลุ่มทรูในช่วงแรกนี้จะเน้นไปที่การสร้างระบบนิเวศเป็นลำดับแรก โดยที่ผ่านมาได้เข้าไปสนับสนุนการพัฒนาใน 4 อุตสาหกรรมที่จะเดินหน้าพัฒนาต่อไป
โดย 4 ภาคธุรกิจที่เริ่มนำ True 5G เข้าไปร่วมศึกษาและพัฒนาแล้วประกอบไปด้วยกลุ่มสาธารณสุข กลุ่มค้าปลีก ภาคการศึกษา และภาคอุตสาหกรรม ซึ่งส่วนใหญ่ยังอยู่ในระหว่างการศึกษาแนวทางในการนำไปใช้งานเพื่อทำความเข้าใจ 5G ก่อนที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะหันมาใช้งาน
ในอีกมุมหนึ่งกลุ่มทรูมองว่า ต้องให้ความรู้ในการเข้าถึงเทคโนโลยียุคใหม่นี้แก่ฝั่งคอนซูเมอร์ด้วยเช่นเดียวกัน เพราะในการใช้งาน 5G เทคโนโลยีหลักๆ ที่จะมาขับเคลื่อนให้เกิดการใช้งานอย่างแพร่หลายในแต่ละภาคธุรกิจจะสอดคล้องไปกับประสบการณ์ใช้งานของ ลูกค้าทั่วไปด้วย
“ถ้ารอให้ภาคอุตสาหกรรมพัฒนา 5G โดยไม่ได้ขับเคลื่อนฝั่งคอนซูเมอร์ด้วย จะส่งผลให้การพัฒนาไม่รวดเร็วเท่าที่ควร ดังนั้น การสร้างอีโคซิสเตมส์ของ 5G ต้องเกิดขึ้นพร้อมกันทั้งภาคธุรกิจและคอนซูเมอร์ เพื่อนำประสบการณ์ 5G ให้เข้าถึงคนไทยทุกคนและขับเคลื่อนไปพร้อมกัน”
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้คอนซูเมอร์เข้าถึง 5G คือ ระดับราคาของดีไวซ์ที่เข้าถึงได้ซึ่งในช่วงปลายปีนี้จะเริ่มได้เห็นสมาร์ทโฟน 5G ราคาถูกเข้าสู่ตลาด แต่จะไม่รวดเร็วเหมือนในช่วงจาก 2G มา 3G เนื่องจากในเวลานั้นประเทศไทยล้าหลังกว่าต่างประเทศไม่ต่ำกว่า 10 ปี ทำให้ดีไวซ์ที่รองรับมีปริมาณมากกว่ากันหลายเท่า
“ปัจจุบันเริ่มมีผู้บริโภคที่เข้ามาใช้งานเครือข่าย True 5G แล้วประมาณ 3-4 หมื่นราย และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวภายในปลายปีนี้ โดยเฉพาะหลังจากที่ iPhone 12 ซึ่งรองรับ 5G วางจำหน่ายในประเทศไทย”
อย่างไรก็ตาม พิรุณ มองว่า ในยุคของ 5G นั้น การสร้างประสบการณ์ในการใช้งานจะไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะดีไวซ์ที่เป็นสมาร์ทโฟนเหมือนยุคของ 3G 4G ที่ผ่านมา แต่จะมีอุป
กรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่หลากหลาย โดยเฉพาะ IoT เข้ามาเกี่ยวเนื่องด้วย และทำให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นประเทศอัจฉริยะได้
ผู้บริหารทรู ทิ้งท้ายว่า สิ่งที่โอเปอเรเตอร์กระตุ้นให้เกิดการใช้งาน 5G คือ เปิดช่องให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงเครือข่าย 5G ให้ได้ง่ายที่สุด ซึ่งตอนนี้กลุ่มทรู ได้ลดความยุ่งยากในการใช้งานให้ลูกค้า เพียงแค่ใส่ซิมทรู เข้าไปในเครื่องที่รองรับการเชื่อมต่อ 5G ก็จะสามารถใช้งานได้ทันที
