เอ็นทีที ประเทศไทย เผยทิศทางการขับเคลื่อนธุรกิจครึ่งปีหลังบุกตลาดคลาวด์เสริมทัพการให้บริการดิจิทัลโซลูชันครบวงจร พร้อมเปิดตัว Client Experience Center โชว์นวัตกรรมสร้างประสบการณ์ใหม่ให้แก่ลูกค้าและเชื่อมต่อการนำเสนอระบบการทำงานของเอ็นทีทีได้จากทั่วทุกมุมโลก
นายสุทัศน์ คงดำรงเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำประเทศไทย กัมพูชา พม่า และลาว บริษัท เอ็นทีที จำกัด กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ทำให้บริษัทต้องปรับแผนการทำงานตามที่คาดการณ์ จากเดิมที่จะเร่งลงทุนกัมพูชา พม่า และลาว ต้องชะลอไปก่อน แต่ก็เป็นโอกาสที่ดีในการเตรียมกำลังคนตามแผนที่บริษัทจะก้าวไปสู่ผู้ให้บริการด้านไอทีกับลูกค้า ซึ่งช่วงโควิด-19 ทำให้องค์กรหันมาใช้คลาวด์มากขึ้น ลดการลงทุนระบบไอทีแบบเดิม ดังนั้น จึงต้องการบุคลากรด้านไอทีเพื่อมาบริหารจัดการด้วย เอ็นทีที จึงใช้เวลาในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมาพัฒนาทักษะของพนักงานเอ็นทีที รวมถึงมีการจ้างงานเพิ่มเพื่อรองรับความต้องการของตลาด
ดังนั้น แผนธุรกิจในประเทศไทยครึ่งปีหลัง บริษัทจะเน้นการรุกตลาด 3 กลุ่ม ซึ่งเป็นกลุ่มที่คาดว่าภายใน 3 ปี สัดส่วนรายได้จะเพิ่มขึ้นเป็น 50% ภายใน 3 ปี จากเดิมที่มีอยู่ 10-20% เมื่อเทียบกับการลงทุนระบบไอทีแบบเดิม ซึ่งมีการลงทุนลดลง 15%
สำหรับกลุ่มธุรกิจ 3 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.คลาวด์ ที่จะมีการเพิ่มขนาดการให้บริการศูนย์ดาต้า เซ็นเตอร์ ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร สำหรับรองรับการเติบโตของคลาวด์ และ การเติบโตในพื้นที่อีอีซี
2.บริการด้านการบริหารจัดการระบบไอทีครบวงจร เพื่อเข้ามาช่วยบริหารจัดการงานด้านไอซีทีในองค์กรของลูกค้าเพื่อให้เหมาะต่อการดำเนินงานและช่วยลดต้นทุนทางธุรกิจ ในภาวะที่มีการลดคนและมีการหันมาใช้คลาวด์มากขึ้น และ 3.ดิจิทัล เซอร์วิส การให้บริการด้านดิจิทัลโซลูชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ เพื่อรองรับการทรานส์ฟอร์มขององค์กรอย่างเต็มรูปแบบ
"จากนี้ไปการใช้คลาวด์ในประเทศไทยจะเติบโตสูงขึ้น และคาดว่ามูลค่าตลาดรวมของคลาวด์ในประเทศไทยจะโตอย่างต่อเนื่อง โดยการให้บริการคลาวด์ยังคงเป็นเรือธงหลักของบริษัท"
นายสุทัศน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทได้รวบรวมนวัตกรรมพร้อมการให้บริการอย่างครบวงจรในทุกด้าน ครอบคลุมตั้งแต่ระบบโครงสร้างพื้นฐานไอซีที การเชื่อมต่อเครือข่ายจากทั่วโลก และ นำระบบ SD-WAN มาผสานการทำงานกับศูนย์ข้อมูลทั่วโลก และเชื่อมต่อบนระบบคลาวด์ของเอ็นทีทีในประเทศไทย จึงมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยทางข้อมูลและการเชื่อมต่อที่สะดวกและรวดเร็ว
ในด้านระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ของบริษัทสามารถช่วยให้ลูกค้าของได้รับความปลอดภัยด้วยบริการ Secure by Design โดยได้รวมระบบรักษาความปลอดภัยที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะด้านความปลอดภัยชั้นนำของอุตสาหกรรม รวมถึงได้รับข้อมูลเชิงลึกในการรักษาความปลอดภัยจากผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีอัจฉริยะของเรา จึงพร้อมนำเสนอบริการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์แบบบูรณาการและช่วยลูกค้าในการป้องกัน คาดการณ์ และตรวจจับพร้อมตอบสนองต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์เพื่อรองรับด้านการจัดการความเสี่ยงของธุรกิจ
พร้อมกันนี้ เอ็นทีที ได้เปิดตัวศูนย์ Client Experience Center สำหรับโชว์นวัตกรรม พร้อมสาธิตระบบการทำงานให้แก่ลูกค้า รวมถึงการจัดกิจกรรมอบรม สัมมนา และให้ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีและบริการต่างๆ ของเอ็นทีที ได้แก่ นวัตกรรมและโซลูชันเพื่อเพิ่มประสิทธิผลในการทำงาน เช่น บริการคลาวด์ และ Solution Insight สำหรับการวิเคราะห์การทำงานของระบบคลาวด์เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุด ระบบคอนแท็กเซ็นเตอร์บนคลาวด์
นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังความมั่นคงปลอดภัยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของเอ็นทีที (NTT Security Operation Center) บริการบริหารจัดการและการเฝ้าระวังความปลอดภัยด้านไอซีทีอัจฉริยะอีกด้วย และมีการจัดแสดงนวัตกรรมเพื่ออนาคต เช่น เทคโนโลยีสำนักงานอัจฉริยะ เทคโนโลยีดิจิทัลในการแข่งขันจักรยาน Tour de France ระบบการทำงานแบบอัตโนมัติ RPA คอมพิวเตอร์สวมใส่ได้และสั่งการด้วยเสียงอัจฉริยะ Realwear COTOHA ระบบการแปลภาษาอัจฉริยะ เป็นต้น โดยศูนย์ Client Experience Center มีพื้นที่ 393 ตารางเมตร ณ อาคารคอลัมน์ ชั้น 17