"แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท" ผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์ไอทีรายใหญ่ของไทยพร้อมลงทุนไม่หวั่นโควิด-19 ยืนยันกลับมาเป็นส่วนหนึ่งในการจัดบูทจำหน่ายสินค้างานคอมมาร์ตที่ไบเทคบางนา วันที่ 20-23 ส.ค.63 นี้ เตรียมแผนไตรมาส 3-4 ลงทุนเพิ่มอีก 5 สาขา บางสาขาเน้นปรับขนาดร้านใหญ่กว่าเดิม เพื่อรองรับการบริการลูกค้าที่เพิ่มขึ้น
นายจักรกฤช วัชระศักดิ์ศิลป์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานผลิตภัณฑ์ การขายและการตลาด บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด กล่าวถึงภาพรวมสถานการณ์ตลาดไอทีไทยครึ่งหลังปี 2563 ว่า สถานการณ์ตลาดไอทีครึ่งปีหลังยังประเมินยาก เพราะในช่วงที่ล็อกดาวน์ ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าต่างๆ ยังปิดอยู่นั้นช่องทางการซื้อสินค้าออนไลน์มีการเติบโตอยู่แล้ว ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีการผ่อนคลายและปลดล็อกดาวน์ไปแล้ว แต่ส่วนของตลาดออนไลน์จะปรับลดลงหรือไม่นั้นอาจจะยังตอบไม่ได้ในทันที ทั้งนี้ อาจจะต้องรอดูอีกสัก 2-3 เดือนหลังจากนี้น่าจะพอเห็นภาพชัดขึ้น
"หากมองถึงเศรษฐกิจประเทศในภาพรวมขณะนี้มุมมองส่วนตัวมองว่าไม่ดี เนื่องจากผลพวงจากการที่ธุรกิจมีการหยุดชะงัก และบางธุรกิจมีการปิดกิจการลง ซึ่งส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ นอกจากนี้การกลับมาใช้จ่ายแบบปกติอาจต้องใช้เวลา เพราะช่วงเวลาหนึ่งผู้บริโภคมีความกังวลในการจับจ่ายสินค้าที่ไม่จำเป็น"
ภาพรวมตลาดไอทีขณะนี้ยังมีการเติบโตอยู่และไม่ถึงกับลดลง จักรกฤช ชี้ว่าเป็นเพราะการใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ไอที ถูกมองเป็นเครื่องมือช่วยในการทำงานโดยเฉพาะในรูปแบบ Work for Home และยังรวมถึงใช้เป็นอุปกรณ์ในการการเรียนออนไลน์ของเด็กเยาวชนอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ โน้ตบุ๊กและพรินเตอร์ เป็นต้น แอดไวซ์จึงมองว่าช่องทางตลาดออนไลน์ในช่วงที่ผ่านมามีการเติบโตเพิ่มขึ้น ตามดีมานด์ของการใช้งานสินค้าไอทีเพื่อการใช้ประโยชน์ในการทำงานและการเรียนตามที่กล่าวข้างต้น รวมทั้ง แอดไวซ์ มีหน้าร้านในห้างสรรพสินค้าไม่มาก ส่วนนี้อาจจะเป็นปัจจัยบวกและเสริมที่ทำให้เราไม่ได้กระทบในช่วงที่ห้างสรรพสินค้าปิดให้บริการ
ในช่วงโควิด-19 แอดไวซ์ได้ต่อยอดหลังจากผลักดันช่องทางการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ ตั้งแต่เมื่อ 6 ปีที่ผ่านมาในรูปแบบ B2B อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นช่องทางการสื่อสารกับดีลเลอร์รายย่อย และมีการพัฒนาโปรแกรม B2C อย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าปลีกที่มีพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนไป
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะไม่มีวิกฤตไวรัสโควิด-19 แอดไวซ์ได้วางยุทธศาสตร์และเป้าหมายในปี 2020 ที่จะโฟกัสธุรกิจออนไลน์อยู่แล้ว จะเห็นได้ว่าจุดเริ่มต้นออนไลน์ของแอดไวซ์ในช่วง 2 ปีแรกที่ผ่านมาจะออนอยู่ในเว็บไซต์ของแอดไวซ์เป็นหลักไม่ได้ไปทำใน อี-มาร์เก็ตเพลสที่ใด
"เนื่องจากเรามีแฟรนไชส์ในต่างจังหวัดด้วย ซึ่งแอดไวซ์ต้องวางกลยุทธ์ที่จะผลักดันฐานตลาดกลุ่มนี้ให้เติบโตควบคู่กันไปด้วย แต่จากสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงและพฤติกรรมของผู้บริโภคทำให้แอดไวซ์ต้องกำหนดตำแหน่งของกลุ่มลูกค้า (Consumer base) ให้ชัดเจน จึงเป็นโจทย์สำคัญที่ทีมแอดไวซ์มีการวางยุทธศาสตร์ขึ้น โดยได้ร่วมกับมาร์เก็ตเพลส คือ Shopee, Lazada, SCG และ JD Central เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังมองว่าในช่วงวิกฤตดังกล่าวทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ผลพวงจากไม่กล้าเสี่ยงที่จะออกไปซื้อสินค้าตามห้างสรรพสินค้า หรือร้านค้าข้างนอกในช่วงระยะเวลาหลายเดือน ดังนั้น ช่องทางซื้อออนไลน์จึงเป็นช่องทางที่ดีที่สุดขณะนี้ จะเห็นได้ว่าใน “วิกฤต ยังมีโอกาส” เกิดขึ้นได้ รวมถึงยังทำให้ผู้ค้าทุกรายมุ่งเน้นในส่วนออนไลน์เพิ่มมากขึ้น โดยในส่วนของงานบริการลูกค้าของแอดไวซ์ ทั้งการแพกสินค้าและการส่งมอบ เราให้ความสำคัญในเรื่องความสะอาดเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลักด้วย"
ทั้งนี้ สถานการณ์การแพร่ไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยในขณะนี้ไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มแล้วต่อเนื่องมาเกือบ 1 เดือน มาตรการภาครัฐมีการผ่อนคลายมากขึ้น วิถีการดำเนินชีวิตของผู้คนก็ปรับเปลี่ยนไปตามเงื่อนไขเพื่อป้องกันและระวังการแพร่ระบาด แอดไวซ์ ในฐานะผู้ประกอบการคาดการณ์ว่าภาพรวมของเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศน่าจะปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่จะเร็วหรือช้านั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ภาพรวมของโรคนี้ รวมถึงสถานการณ์สินค้าและบริการต่างๆ ในแต่ละธุรกิจที่แตกต่างกันไป
สำหรับงาน “คอมมาร์ต” ครั้งที่ 54 ที่จะจัดขึ้นที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทคบางนา วันที่ 20-23 ส.ค.63 นี้ แอดไวซ์เป็นส่วนหนึ่งในการจัดบูทจำหน่ายสินค้า โดยภายในงานมีการจัดโปรโมชันพิเศษมากมายเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา แต่ช่วงนาทีทองจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็น Online เพื่อที่ลูกค้าสามารถร่วมสนุกได้พร้อมกันทั่วประเทศ
นอกจากนี้ แอดไวซ์มีแผนจัดงานใหญ่เพิ่มสำหรับนักช้อปออนไลน์กับ “Advice IT Expo 2020” 20-23 ส.ค.63 ในราคาเดียวกับงานคอมมาร์ต เปิดโอกาสให้ลูกค้าที่ไม่สะดวกเดินทางงานคอมมาร์ตด้วยการจัดโปรโมชันพิเศษบน แอดไวซ์ ออนไลน์ ที่รายการสินค้าและราคานั้นจะเทียบเท่ากับในงานคอมมาร์ต
แผนการลงทุนในครึ่งปีหลัง แอดไวซ์ระบุว่าวางแผนเปิดสาขาเพิ่มช่วงไตรมาส 3-4 จำนวน 5 สาขา โดยสาขาเปิดใหม่ล่าสุดคือแอดไวซ์ ชลบุรี บ้านสวน (จากเดิมมี 4 สาขา เพิ่มเป็น 5 สาขา) และแอดไวซ์ ระยอง ศูนย์การค้าสาย 4 (จากเดิมมี 2 สาขา เพิ่มเป็น 3 สาขา) ยังมีแผนปรับขนาดร้านให้ใหญ่กว่าเดิม เพื่อรองรับการบริการลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ทั้งหมด 6 สาขาที่หัวเมืองนอก กทม. เช่น กาญจนบุรี ศรีสะเกษ อุดรธานี เชียงใหม่ เพชรบุรี และเพชรบูรณ์ โดยปัจจุบัน Advice Power Buy มีสาขาจำนวน 10 สาขาแล้ว