อาลีบาบา (Alibaba) กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซจีนเปิดรายงานประจำปีงบประมาณ 2020 เผยช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาทำยอดขายสินค้าทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ดันกำไรสุทธิอาลีบาบาเพิ่มขึ้น 75% จากปีก่อนบนรายรับที่เพิ่มขึ้น 35% ฐานผู้ใช้ล่าสุดพุ่งขึ้นไปแตะ 700 ล้านคนซึ่งเทียบเท่าครึ่งหนึ่งของประชากรจีนทั้งประเทศ สถิติเหล่านี้ทำให้อาลีบาบายังมีความน่าเชื่อถือเต็มร้อย แม้ผู้ก่อตั้งอย่าง “แจ๊ค หม่า” จะเทขายหุ้นจนหุ้นในมือลดลงจาก 6.2% เหลือ 4.8%
รายละเอียดการขายหุ้นของแจ็ค หม่า ผู้ร่วมก่อตั้ง Alibaba Group ถูกระบุไว้ในรายงานประจำปีของบริษัท ซึ่งระบุถึงผลการดำเนินงาน การพัฒนา และเหตุการณ์สำคัญของอาลีบาบาในช่วง 12 เดือน (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม) รายงานนี้เผยว่า แจ็ค หม่า ผู้ร่วมก่อตั้งได้ลดสัดส่วนการลงทุนในบริษัทลงในปีที่ผ่านมา เทขายหุ้นจากที่ถืออยู่ 6.2% เป็น 4.8% โดยมีหุ้นมูลค่ารวม 8.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ ราคาปัจจุบัน
การขายหุ้นเกิดขึ้นเพราะการเกษียณจากตำแหน่งในฐานะประธานกรรมการบริหารบริษัทของแจ็ค หม่า ในเดือนกันยายน ซึ่งเป็นการตอกย้ำการเปลี่ยนบทบาททางธุรกิจอย่างเป็นทางการมามุ่งเน้นที่การทำโครงการการกุศลอย่างจริงจัง
ปัจจุบัน อาลีบาบาซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Taobao และ Tmall นั้นเพิ่งฉลองครบรอบ 20 ปีในปีที่ผ่านมา รากฐานที่มั่นคงทำให้อาลีบาบาถูกมองว่ามีเส้นทางการค้าที่เชื่อมโยงกันกับเศรษฐกิจจีนในภาพใหญ่อย่างแยกกันไม่ออก ดอกผลทางธุรกิจที่แจ็ค หม่าก่อตั้งขึ้นขณะนี้กำลังเป็นโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลให้ประเทศจีน ครอบคลุมทั้งด้านการค้า การเงิน โลจิสติกส์ และบิ๊กดาต้า ที่ขับเคลื่อนโดยคลาวด์คอมพิวติ้ง
แดเนียล จาง ประธานและซีอีโอคนปัจจุบันของอาลีบาบา เรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนในจดหมายถึงผู้ถือหุ้นว่า “แม้ในโลกที่มีความไม่แน่นอนสูง เราก็ยังสามารถพบความแน่นอนได้เสมอ“ โดยย้ำให้ทุกคนไม่ต้องสงสัย และเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลจะดำเนินต่อไปอย่างไม่หยุด ซึ่งจากข้อมูลของเว็บไซต์ Alizila แหล่งเผยแพร่ข่าวอย่างเป็นทางการของอาลีบาบา ชี้ว่าปีนี้เป็นปีที่ 5 ที่แดเนียล จางเข้ารับตำแหน่ง CEO ของอาลีบาบา ซึ่งตลาดของอาลีบาบายิ่งใหญ่กว่าตอนที่เข้ารับตำแหน่งมากกว่า 5 เท่า
ความท้าทายของอาลีบาบาในวันนี้คือแรงกดดันทางการเมือง ซึ่งมีผลมากต่อการขยายตลาดในพื้นที่ต่างประเทศ ตัวอย่างเช่นรัฐบาลอินเดียที่สั่งห้ามไม่ให้แอปพลิเคชันภาษาจีน 59 รายการเปิดตลาดโรตี และมีการขู่ว่าจะลงโทษการกระทำของจีนที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักในฮ่องกงและชาวอุยกูร์
แต่ทั้งหมดก็ยังไม่อาจต้านทานความคึกคักของอาลีบาบา ซึ่งทำสถิติหุ้นพุ่งสร้างจุดสูงสุดใหม่ เนื่องจากนักลงทุนเพิกเฉยต่อข่าวเหล่านี้ และมั่นใจว่าอาลีบาบาจะได้รับประโยชน์มหาศาลในโลกหลังโควิด-19
อีกจุดคืออาลีบาบาจะยังคงสามารถสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจคลาวด์ได้ต่อไป อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณการแข่งขันในตลาดที่ร้อนแรง ซึ่งทุกฝ่ายต้องจับตามองอย่างระมัดระวัง