xs
xsm
sm
md
lg

ZTE เน้นพัฒนาเครือข่าย 5G แบบ SA เน้นกลุ่มอุตสาหกรรม

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แซดทีอี (ZTE) ร่วมกับ GSMA จัดงานถ่ายทอดสดออนไลน์ 5G SA Summit 202 เน้นปัจจัยการสร้างเครือข่าย 5G SA เผยโครงสร้างพื้นฐาน 5G ศักยภาพเยี่ยม ด้านนวัตกรรมพร้อมรองรับธุรกิจยกระดับธุรกิจเชิงพาณิชย์ B2C และ B2B สู่ 5G SA

จาง เจี้ยนเผิง รองประธานอาวุโสของแซดทีอี เปิดเผยว่า การพัฒนา 5G แบบ SA หรือ Stand Alone ในการติดตั้งโครงข่ายเพื่อให้บริการเฉพาะ 5G ด้วยการผสมผสานคลื่นความถี่ต่างๆ จะเป็นการสร้างโอกาสมหาศาลให้กับผู้ให้บริการในการพัฒนาธุรกิจ B2C และ B2B แบบบูรณาการในยุคใหม่

เนื่องจากทุกธุรกิจเผชิญความท้าทายหลายประการ ในฐานะที่เป็นผู้สนับสนุนและส่งเสริมการใช้งาน 5G SA ทั้งนี้ ZTE ซึ่งเชี่ยวชาญด้านโซลูชัน End-to-End SA ที่ครอบคลุมทุกการใช้งาน ได้ดำเนินการปรับใช้และตรวจสอบระบบดังกล่าวร่วมกับหุ้นส่วนธุรกิจหลายราย

ฮันส์ เนฟฟ์ รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี แซดทีอี กล่าวว่า การแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับ 5G SA เกิดขึ้นภายใต้ความเชื่อว่าระบบนิเวศ 5G SA จะส่งเสริมการติดตั้งและใช้งานในวงกว้าง

“แซดทีอีคาดว่าจะช่วยให้ผู้บริการเครือข่ายทั่วโลกค้นพบศักยภาพ 5G อย่างเต็มรูปแบบโดยการใช้งานผลิตภัณฑ์ 5G SA ที่ทันสมัย และประสบการณ์ในการสร้างเครือข่ายที่ครอบคลุม ซึ่งในปี 2563 5G SA พร้อมแล้วสำหรับการใช้งานทุกรูปแบบในเชิงพาณิชย์ทั้งในแง่ของมาตรฐานที่สมบูรณ์แบบ ชิปเซ็ต เครื่องปลายทาง และเครือข่าย ผู้ให้บริการรายใหญ่ทั่วโลกได้ตระหนักถึงศักยภาพและโอกาสอันสดใสของ 5G SA”

เว่ย ลีปิง ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาอำนวยการด้านเทคโนโลยีของไชน่า เทเลคอม กล่าวเพิ่มเติมว่า ความคืบหน้าล่าสุดของระบบนิเวศ 5G SA ไชน่า เทเลคอมเป็นผู้นำในการทดสอบความสามารถในการทำงานร่วมกันและการตรวจสอบการทำงานของระบบแบบครบวงจรของ SA ด้วยการใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากคลาวด์-เน็ตเวิร์ก จนถึงเครื่องลูกข่าย

“ไชน่า เทเลคอม ได้เร่งผลักดันการใช้งานในอุตสาหกรรมแนวดิ่ง ซึ่งเป็นการโปรโมท 5G SA เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแนวดิ่ง โดยไชน่า เทเลคอมมุ่งมั่นในการนำ 5G SA ไปใช้ในอุตสาหกรรมที่เน้นเรื่องคุณภาพสูง โดยมุ่งเป้าที่อุตสาหกรรม การขนส่ง สื่อ การดูแลสุขภาพ และการศึกษา”

หวง หยู่หง รองประธานสถาบันวิจัย ไชน่าโมบายล์ กล่าวเสริมว่า จากเป้าหมายในการพัฒนา SA ได้สร้างเครือข่ายบีทูบีและบีทูซีแยกจากกันเพื่อการบรรจบกันของ 4G และ 5G ซึ่งไชน่า โมบายล์มีเป้าหมายพัฒนาเครือข่าย 5G SA ที่ล้ำสมัยและขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยการประสานคลื่นความถี่ 700 MHz, 2.6 GHz และ 4.9 GHz เพื่อเพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่อในภาคอุตสาหกรรม”


กำลังโหลดความคิดเห็น