“กลุ่มสามารถ” ประกาศโฟกัส 4 โซลูชันรุกธุรกิจด้านดิจิทัลตามนโยบาย Thailand 4.0 ของภาครัฐ การันตีทุกโซลูชั่นที่นำเสนอล้วนผ่านการรับรองจากสถาบันระดับโลก มั่นใจช่วยลูกค้าตอบโจทย์ New Normal ครบวงจรทั้งภาคการศึกษา ภาคเศรษฐกิจ การเงิน ภาคสังคม รวมถึงการใช้ชีวิตประจำวัน
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจากจะกระทบเศรษฐกิจทั่วโลกแล้ว ยังเป็นตัวเร่งทำให้เกิด Digital disruption โดยผู้คนหันมาใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมากขึ้น จากการต้องอยู่บ้านและเว้นระยะห่างทางสังคมเพื่อลดโอกาสติดเชื้อ ส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคหลายๆอย่างเปลี่ยนไป เกิดเป็นวิถีชีวิตแบบใหม่หรือเรียกว่า “นิว นอร์มอล” (New Normal) ขึ้น
“สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือการที่ผู้คนหันมาทำกิจกรรมต่างๆผ่านทางออนไลน์มากขึ้น ทั้งภาคการศึกษา ภาคเศรษฐกิจ การเงิน ภาคสังคม รวมถึงการใช้ชีวิตประจำวัน”
ทั้งนี้ หลายภาคส่วนเริ่มมีการปรับตัวโดยการนำเทคโนโลยีและโซลูชั่นต่างๆเข้ามาใช้มากขึ้น กลุ่มบริษัทสามารถ ในฐานะที่ดำเนินธุรกิจด้านเทคโนโลยีครบวงจร ได้เตรียมความพร้อมและมีการปรับตัวมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการบริหารธุรกิจ การพัฒนาคน และการพัฒนาเทคโนโลยีและโซลูชั่น ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานและพฤติกรรมของผู้บริโภคในโลกยุคใหม่ โดยพุ่งเป้านำเสนอธุรกิจที่มีความต้องการสูง และมีโอกาสเติบโต ตามกลยุทธ์ของ “กลุ่มสามารถ” ที่วางไว้คือ Unlimited Solutions ที่มีทั้ง Mobile cyber security, E-payment, E-learning และ กล้อง CCTV
1 ใน 4 บริการหลักที่ บมจ.สามารถฯเน้นคือโซลูชั่นด้านการศึกษา ภาคการศึกษาจะเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ถูก Disrupt มากที่สุดจากวิกฤติของโควิด ผู้คนจะคุ้นเคยกับการเรียนการสอนออนไลน์มากขึ้น เพราะจะเรียนกับใครที่ไหนก็ได้ ทั้งนี้นอกเหนือจากเนื้อหาและหลักสูตรที่น่าสนใจแล้ว การมีระบบ e-Learning ที่มีประสิทธิภาพ ก็เป็นสิ่งสำคัญ.. บริษัท สามารถ เอ็ด เท็ค มีบริการที่หลากหลายครอบคลุมความต้องการใช้งานระบบ e-Learning แบบครบวงจร อาทิ ระบบบริหารจัดการการเรียนรู้ (Learning Management System) ทั้งในรูปแบบของ Web Application และ Mobile Application ทำให้ผู้เรียนเข้าเรียนได้อย่างต่อเนื่อง , ระบบห้องเรียนเสมือน (Virtual Classroom) ที่ผู้เรียนสามารถโต้ตอบแบบเรียลไทม์กับผู้สอนได้ทันที , ออกแบบและผลิตบทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ (e-Learning Course ware), ออกแบบและผลิตสื่อดิจิทัล (Digital Content) ทั้ง VDO, Games, Infographic, e-book เป็นต้น ภายใต้มาตรฐาน CMMI ระดับ 3 ด้านการปรับปรุงกระบวนการซอฟต์แวร์ ที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ
บริการที่ 2 คือโซลูชั่นด้านการเงิน ที่ผ่านมา หลายธุรกิจมีการใช้ระบบการชำระเงินออนไลน์ ยังอยู่ในคนบางกลุ่มหรือคนรุ่นใหม่เท่านั้น วิกฤติโควิดครั้งนี้ ทำให้ผู้คนเริ่มคุ้นเคยกับการทำธุรกรรมการเงินออนไลน์มากขึ้น ซึ่งเราก็มีโซลูชั่นที่พร้อมให้บริการในยุคสังคมไร้เงินสดหรือ Cashless Society เช่นกัน โดย บริษัท PosNet ที่มีบริการหลากหลาย ทั้งระบบและเครื่องรูดบัตรเครดิต ผ่านเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ (EDC Network) , บริการ Total Solution ด้าน Payment รวมถึงบริการระบบสลิปบัตรเครดิตอิเล็กทรอนิกส์ Posnet Receipt Platform (PRP) และเป็นบริษัทฯ แรกในธุรกิจนี้ที่ได้รับมาตรฐานด้านความปลอดภัยสารสนเทศ PCI DSS ที่จะสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าในการชำระเงิน โดยได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้พัฒนา Application ต่างๆ ให้แก่ธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง อาทิ ธนาคารกรุงเทพฯ, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงศรีฯ , American Express , ธนาคาร UOB , ธนาคารธนชาต , ธนาคารออมสิน และผู้ประกอบการธุรกิจบัตรเครดิตอื่นๆ อาทิ บริษัทบัตรกรุงไทย(KTC) รวมถึงให้บริการ Loyalty Service Program ให้แก่ บริษัท RSH Thailand ฯลฯ
บริการที่ 3 คือโซลูชั่นด้านความปลอดภัยไซเบอร์ เมื่อผู้คนทำกิจกรรมบนโลก Digital มากขึ้น ภัยคุกคามทางไซเบอร์ จึงเป็นประเด็นที่หลายฝ่ายกังวล บริษัท ซีเคียวอินโฟ จำกัด (SECUREiNFO) มีความเชี่ยวชาญในด้านระบบรักษาความปลอดภัยอิเล็กทรอนิกส์ หรือ Cyber Security แบบครบวงจร พร้อมนำเทคโนโลยี AI : Watson for Cyber Security ของ IBM มาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเป็นรายแรกในประเทศไทย ปัจจุบันได้ขยายการให้บริการไปถึงสมาร์ทโฟน โดยจับมือกับ Lookout ผู้นำด้าน Mobile Security จากสหรัฐอเมริกา นำผลิตภัณฑ์ "Lookout App Defense" ที่ได้รับความไว้วางใจจากหน่วยงานภาครัฐ รวมถึง Google ที่นำไปใช้ตรวจสอบ Applications ต่างๆ บน Playstore เพื่อป้องกันการบุกรุก ซึ่งเหมาะกับองค์กรที่มีผู้ใช้งาน Mobile Application จำนวนมาก มีการทำธุรกรรมทางการเงิน รวมถึงมีข้อมูลสำคัญ เช่น สถาบันการ
เงิน, ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ , องค์กรที่ให้บริการด้านสาธารณูปโภค, ห้างสรรพสินค้า, ซูเปอร์สโตร์ เป็นต้น
บริการที่ 4 คือโซลูชั่นด้านการระวังภัยและการวิเคราะห์ภาพที่หลากหลาย เทคโนโลยีกล้องวงจรปิดในยุค New Normal จะช่วยให้มาตรการ Social Distancing มีประสิทธิภาพ มีฟังก์ชันในการวิเคราะห์ภาพที่หลากหลายและมีประโยชน์มากขึ้น เช่น การนับจำนวนคน การตรวจสอบความหนาแน่นของคนในพื้นที่ รวมถึงการวัดอุณหภูมิ ปัจจุบัน บริษัท วิชั่น แอนด์ ซีเคียวริตี้ ซิสเต็ม ได้ออกผลิตภัณฑ์ Hikvision Thermal Camera คือ กล้องตรวจจับความร้อน หรือ กล้องเทอร์โมสแกน ใช้ตรวจวัดอุณหภูมิแบบอินฟาเรดที่แม่นยำและรวดเร็ว โดยกล้องจะตรวจจับด้วยรังสีอินฟราเรดแล้วแปลงเป็นอุณภูมิร่างกายพร้อมประมวลผลเป็นภาพสองมิติ เมื่อตรวจพบความผิดปกติของอุณหภูมิระบบจะแจ้งเตือนไปยังผู้ปฎิบัติงาน พร้อมบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน ใช้งานง่ายประสิทธิภาพสูงเหมาะสำหรับจุดคัดกรองคนจำนวนมาก เช่น แหล่งชุมนุม, อาคารสำนักงาน,โรงพยาบาล, โรงแรม, ห้างสรรพสินค้าและสนามบิน เป็นต้น
ทั้งหมดนี้สะท้อนว่ากลุ่มสามารถมีการวางแผนและเตรียมพร้อมที่จะรุกธุรกิจด้านดิจิทัลตามนโยบาย Thailand 4.0 ของภาครัฐ ซึ่งเทคโนโลยีและโซลูชั่นที่เรานำเสนอทั้งหมดได้ผ่านการรับรองจากสถาบันระดับโลก บวกกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีชื่อเสียง เพื่อให้ลูกค้าและผู้ใช้บริการมั่นใจว่าจะได้รับบริการที่มีประสิทธิภาพ