เป็นไปตามคาด ชาวโซเชียลจำนวนมากไหลหลั่งเข้าสู่บริการของเฟซบุ๊ก (Facebook) เนื่องจากการล็อกดาวน์เพื่อสกัดกั้นการระบาดของโควิด-19 ทำให้ชาวโลกต้องอยู่กับบ้านแล้วงดทำกิจกรรมนอกบ้าน ผลคือยอดผู้ใช้เฟซบุ๊กขยายตัว สวนทางกับธุรกิจโฆษณาที่เป็นรายได้หลักของเฟซบุ๊กกลับได้รับผลกระทบเชิงลบ
ยักษ์ใหญ่โซเชียลมีเดียอย่างเฟซบุ๊กโชว์ผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2020 ซึ่งครอบคลุมช่วงเวลาการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ว่าภาวะวิกฤติที่เกิดขึ้นส่งให้เฟซบุ๊กได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับหลายบริษัท โดยเฉพาะในส่วนยอดขายโฆษณาที่ไม่เติบโตเท่าที่ควร
เฟซบุ๊กขยายความเรื่องธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ว่าบริษัทกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ทำให้คาดว่าผลการดำเนินงานของเฟซบุ๊กจะได้รับผลกระทบจากปัญหาที่อยู่นอกเหนือการควบคุม ทั้งเรื่องระยะเวลา ภาพรวมการสกัดกั้นโรค ประสิทธิภาพของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั่วโลก และความผันผวนของสกุลเงินเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ
ตัวเลขน่าสนใจในรายงานครั้งนี้คือจำนวนผู้ใช้งานรายวันหรือ Daily active user ของเฟซบุ๊กทะลุหลัก 1,730 พันล้านรายแล้ว เป็นสถิติที่เพิ่มขึ้น 11% ขณะที่ผู้ใช้งานรายเดือนมากกว่า 2,600 ล้านราย เพิ่มขึ้นอีก 10% เมื่อเทียบจากปีก่อนหน้า รายได้ของเฟซบุ๊กเบ็ดเสร็จแล้วคิดเป็น 17,740 ล้านเหรียญสหรัฐ โตขึ้นเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับ 15,100 ล้านเหรียญสหรัฐในปีที่แล้ว เฉลี่ยรายได้ต่อหุ้นคิดเป็น 1.71 เหรียญสหรัฐ
ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการระบาดของโควิด-19 ทำให้เฟสบุ๊กไม่ประกาศตัวเลขพยากรณ์ผลประกอบการไตรมาส 2 หรือทั้งปี 2020 โดยให้เหตุผลว่าบริษัทประสบกับความต้องการหรือดีมานด์ที่ลดลงอย่างมากในตลาดโฆษณา รวมถึงภาวะราคาค่าโฆษณาบนแพลตฟอร์มเฟสบุ๊กที่ลดลงต่อเนื่องในช่วง 3 สัปดาห์สุดท้ายของไตรมาสแรกของปีนี้
ตัวเลขของเฟสบุ๊กนั้นเป็นไปในทิศทางเดียวกับอัลฟาเบ็ต (Alphabet) บริษัทแม่กูเกิลที่รายงานสถานการณ์บริษัทในลักษณะเดียวกัน นั่นคือในช่วงโค้งสุดท้ายของไตรมาสแรกนั้นเป็นช่วงที่ธุรกิจโฆษณาเริ่มระส่ำระสาย คาดว่าภาวะนี้จะเกิดขึ้นกับบริษัทอินเทอร์เน็ตรายอื่นที่มีรายได้หลักเป็นค่าโฆษณา
ในกรณีของเฟสบุ๊ก นักวิเคราะห์มองว่าฐานผู้ใช้เฟสบุ๊กที่เพิ่มขึ้นนั้นไม่ยั่งยืน เพราะผู้คนกำลังทยอยกลับไปใช้ชีวิตตามปกติและอาจมีเวลาน้อยลง ซึ่งอาจจะทำให้ฐานผู้ใช้เฟซบุ๊กลดลงอยู่ในระบบก่อนการระบาดในช่วงที่โลกเริ่มปลดล็อกดาวน์
อย่างไรก็ตาม มูลค่าหุ้นเฟสบุ๊กดีดตัวขึ้นมากกว่า 6% สะท้อนว่านักลงทุนพอใจกับผลประกอบการล่าสุดที่เพิ่งประกาศออกมา