3 โอเปอเรเตอร์ ชี้ ยินดีช่วยประชาชนโดยปัจจุบันมีแคมเปญโควิดอยู่แล้ว แต่ไม่ได้ประชาสัมพันธ์ แย้มเพิ่มเน็ตฟรี 10GB กระทบรายได้
นายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ รองผู้อำนวยการด้านรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เสนอให้มีการปรับลดอัตราค่าบริการลง 10-30% นั้น มองว่ามากเกินไป แต่ก็เข้าใจได้ว่า กสทช. ต้องขอรับการสนับสนุนในอัตราที่มากไว้ก่อน ซึ่งลำพังเฉพาะการให้บริการอินเทอร์เน็ตเพิ่มฟรี 10 GB นอกจากผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ(โอเปอเรเตอร์) จะได้เงินสนับสนุนในอัตรา 100 บาทต่อ 1 เลขหมาย ซึ่งต่ำกว่าต้นทุนอย่างมากแล้ว จากข้อมูลล่าสุดพบว่า ลูกค้าระบบเติมเงินมีการเติมเงินลดลง 30% ส่งผลให้รายได้ของบริษัทหายไป 30% เช่นกัน ดังนั้น จึงต้องมีการพิจารณาการสนับสนุนเท่าที่บริษัทสามารถให้ได้
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาทรูฯมีการช่วยเหลือผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง อาทิ ซิมสามัญประจำบ้านที่ลูกค้าสามารถรับได้ฟรี โดย 1 บัตรประชาชนสามารถรับได้ 1 ซิม ที่เซเว่นอีเลฟเว่นทุกสาขา รวมถึงลูกค้าทรู มูฟ เอช สามารถใช้บริการไวไฟฟรีได้กว่า 400,000 จุดทั่วประเทศ และแพลตฟอร์มทรูวีรูม สำหรับนักเรียน นักศึกษา และคนทำงาน ให้สามารถใช้แพลตฟอร์มนี้ เพื่อทำงานหรือเรียนจากที่บ้านโดยไม่เสียค่าบริการ และยังมีอีกหลายบริการที่ทรูฯได้ดำเนินการสนับสนุนไปก่อนหน้านี้ จึงขอตั้งคำถามว่า หากอุตสาหกรรมโทรคมนาคมช่วยรัฐแล้ว รัฐจะช่วยอุตสาหกรรมซึ่งก็ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 นี้ บ้างหรือไม่
ขณะที่นายสุเทพ เตมานุวัตร์ หัวหน้าฝ่ายงานธุรกิจสัมพันธ์และพัฒนา บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า ที่ผ่านมาเอไอเอสมีการช่วยเหลือ สนับสนุน และดูแลผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ไม่ได้มีการรายงานให้ กสทช. รับทราบ ซึ่งเอไอเอสจะรวบรวมข้อมูลเพื่อเสนอต่อที่ประชุมให้ได้รับทราบอีกครั้ง
ทั้งนี้ ขอยืนยันว่ามีการดำเนินการช่วยเหลือผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ได้มีการทำการโฆษณาเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงไม่เคยคิดที่จะฉวยโอกาสในการประชาสัมพันธ์เพื่อหาลูกค้าเพิ่ม โดยเฉพาะบริษัทซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ยิ่งต้องระมัดระวังเรื่องนี้ และการให้บริการอินเทอร์เน็ตเพิ่มฟรี 10 GB นั้น มีผลกระทบต่อรายได้อย่างมาก แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้เนื่องจากบริษัทอยู่ใน ตลท.
ด้านแหล่งข่าวจากบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า การที่ กสทช. เสนอให้มีการปรับลดอัตราค่าบริการ โดยยกตัวอย่าง การลดค่าน้ำประปา หรือไฟฟ้า นั้น ไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ ถึงแม้จะเป็นปัจจัยขั้นพื้นฐานในการดำรงชีวิตเหมือนกัน แต่การลงทุนในน้ำประปาและไฟฟ้าเป็นการลงทุนครั้งเดียวและใช้ไปตลอดชีวิตและผูกขาดโดยรัฐ ในขณะที่ กิจการโทรคมนาคมมีการลงทุนด้านโครงข่าย และคลื่นความถี่ต่อเนื่อง และความต้องการของผู้บริโภคก็ไม่เหมือนกัน
ส่วนที่ กสทช. เสนอให้มีการขยายระยะเวลาการชำระค่าบริการ โดยเปรียบเทียบกับกรณีการชำระหนี้เงินกู้กับทางธนาคารที่มีการขยายการชำระหนี้ออกไปนั้น ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะโอเปอเรเตอร์ไม่ได้มีการเก็บหลักทรัพย์ค้ำประกันแบบธนาคาร ซึ่งหากผู้ใช้บริการไม่ชำระค่าบริการหรือเบี้ยวหนี้ โอเปอเรเตอร์จะทำอย่างไร และปัจจุบันก็ได้รับผลกระทบมากอยู่แล้ว
โดยที่ผ่านมาแต่ละโอเปอเรเตอร์มีแคมเปญที่ออกมาช่วยเหลือประชาชนอยู่แล้ว แต่จะให้ทำในรูปแบบส่วนลดนั้นไม่สามารถทำได้ ควรทำในรูปแบบอื่นมากกว่า ซึ่งดีกว่า ฉลาดกว่า และเพื่อให้เกิดความยุติธรรมกับทุกคน ส่วนการยืดการชำระเงิน โอเปอเรเตอร์ให้กับลูกค้าตัวเองมาโดยตลอด แต่ต้องมีการเช็คสถานะของลูกค้าว่า เป็นลูกค้าชั้นดีหรือไม่ ซึ่งหากเป็นลูกค้าชั้นดีซึ่งไม่เคยขาดการชำระเงินก็จะได้รับการยืดการชำระเงินอยู่แล้ว ทั้งนี้ จะรวบรวมข้อมูลส่งให้ กสทช. รับทราบอีกครั้ง