กสทช. ประกาศรายชื่อผู้ให้บริการเครือข่ายที่ชนะการประมูลคลื่นความถี่ 5G ทั้ง 3 คลื่น ประกอบไปด้วยคลื่น 700 MHz 2600 MHz และ 26 GHz มูลค่ารวม 100,521,177,777 บาท ขั้นตอนต่อไปทางสำนักงานกสทช. จะเรียกประชุมรับรองผลการประมูลในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563
ทั้งนี้ ราคาประมูลคลื่นที่เพิ่มขึ้นจากช่วงเสร็จสิ้นการประมูลมาเป็น 100,521 ล้านบาท เกิดจากการเสนอราคาเพิ่มเติมเพื่อเลือกช่วงคลื่นความถี่ทำให้มีราคาประมูลคลื่นความถี่มีการปรับเพิ่มขึ้นจาก 100,193 ล้านบาท
โดยคลื่นความถี่ 700 MHz ใบอนุญาตละ 5 MHz จำนวน 3 ชุด ผู้ที่ได้รับใบอนุญาต คือ
กสท ได้ใบอนุญาต 2 ชุด เป็นจำนวนรวม 10 MHz มีราคาสุดท้าย 34,306 ล้านบาท
เอไอเอส ได้ใบอนุญาต 1 ชุด เป็นจำนวนรวม 5 MHz มีราคาสุดท้าย 17,154 ล้านบาท
ส่วนคลื่นความถี่ 2600 MHz ใบอนุญาตละ 10 MHz จำนวน 19 ชุด ผู้ที่ได้รับใบอนุญาต คือ
เอไอเอส ได้ใบอนุญาต 10 ชุด เป็นจำนวนรวม 100 MHz มีราคาสุดท้าย 19,561 ล้านบาท
ทรูมูฟ เอช ได้ใบอนุญาต 9 ชุด เป็นจำนวนรวม 90 MHz มีราคาสุดท้าย 17,872 ล้านบาท
ขณะที่คลื่นความถี่ 26 GHz ใบอนุญาตละ 100 MHz จำนวน 26 ชุด ผู้ที่ได้รับใบอนุญาต คือ
เอไอเอส ได้ใบอนุญาต 12 ชุด เป็นจำนวนรวม 1200 MHz มีราคาสุดท้าย 5,345 ล้านบาท
ทรูมูฟ เอช ได้ใบอนุญาต 8 ชุด เป็นจำนวนรวม 800 MHz มีราคาสุดท้าย 3,576 ล้านบาท
ทีโอที ได้ใบอนุญาต 4 ชุด เป็นจำนวนรวม 400 MHz มีราคาสุดท้าย 1,795 ล้านบาท
ดีแทค ได้ใบอนุญาต 2 ชุด เป็นจำนวนรวม 200 MHz มีราคาสุดท้าย 910 ล้านบาท
ทำให้รวมแล้ว เอไอเอส ได้คลื่นความถี่มาให้บริการ 5G จากการประมูลครั้งนี้ทั้งหมด 1310 MHz แบ่งเป็นคลื่น 700 MHz 2x5 MHz 2600 MHz จำนวน 100 MHz และ 26 GHz 1200 MHz เมื่อรวมกับคลื่นความถี่เดิมที่ถือครองอยู่เป็น 1450 MHz
ทรูมูฟ เอช ได้คลื่นความถี่ตามมาในการให้บริการ 5G ที่ 890 MHz แบ่งเป็นคลื่น 2600 MHz จำนวน 90 MHz และ 26 GHz 800 MHz
กสท ได้คลื่นความถี่มาให้บริการ 5G ทั้งหมด 2x10 MHz จากคลื่น 700 MHz
ทีโอที ได้คลื่นความถี่มาให้บริการ 5G ทั้งหมด 400 MHz จากคลื่น 26 GHz xx MHz
ส่วน ดีแทค ได้คลื่นความถี่มาให้บริการ 5G ทั้งหมด 200 MHz จากคลื่น 26 GHz
