กรรมการผู้จัดการ เอชพี อิงค์ (ประเทศไทย) คนใหม่ “ลิม ชุน เต็ก” ยืนยันพร้อมลงทุนสานต่อหลายโครงการที่เอชพีประเทศไทยเริ่มไว้ต่อเนื่อง ระบุโฟกัสการตอบโจทย์ลูกค้าเต็มที่โดยผสมผสานทุกสินค้าและบริการเข้าด้วยกัน ล่าสุดเตรียมทัพคอมพิวเตอร์พีซี 2 รุ่นใหม่เน้นความเบา-บาง-แบตอึดเพื่อเขย่าตลาดปี 63 ด้วยราคาหลัก 4 หมื่นบาทขึ้นไป คู่กับเครื่องพิมพ์เลเซอร์ตัวแรกของโลกทึ่ผู้ใช้ SME สามารถเติมหมึกผงแท้ได้ด้วยตัวเองเพื่อลดต้นทุน
นายลิม ชุน เต็ก กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอชพี อิงค์ ประเทศไทย กล่าวในงานเปิดตัวคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ “เอชพี อิลีท ดรากอนฟลาย” (HP Elite Dragonfly) และเครื่องพิมพ์ “เอชพี เนเวอร์สต็อป เลเซอร์” (HP Neverstop Laser) ว่า HP ไม่มีนโยบายเน้นทำตลาดพีซีหรือเครื่องพิมพ์อย่างใดอย่างหนึ่ง แต่จะโฟกัสที่การตอบโจทย์ลูกค้าโดยรวมให้ได้มากที่สุด ทำให้เอชพีในปี 63 จะเน้นการผสมผสานทั้งสินค้าและบริการทุกด้านเข้าด้วยกันเพื่อตอบความต้องการของผู้ใช้โดยรวม
“การลงทุนของ HP ในประเทศไทยช่วงปีนี้ยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากไทยเป็นตลาดที่สำคัญสำหรับ HP ในภูมิภาค การลงทุนทั้งหมดจะยังอยู่ในรูปการไดร์ฟทุกโครงการที่มีมาตลอด บน keyword เรื่องการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นขององค์กร และการตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่จะเป็นคนทำงานมากขึ้นในปี 2020”
ลิม ชุน เต็ก นั้นเพิ่งเข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอชพี อิงค์ ประเทศไทยเมื่อพฤศจิกายน 62 แทน “ปวิณ วรพฤกษ์” ที่คร่ำหวอดกับเอชพีประเทศไทยมานาน รายละเอียดการสานงานหรือรับไม้ต่อนั้นยังไม่มีการเปิดเผย เช่นเดียวกับบ้านหลังใหม่ของปวิณที่ยังไม่มีการเปิดตัวเช่นกัน
เบื้องต้น ลิม ชุน เต็กเผยวิสัยทัศน์กับสื่อมวลชนไทยว่าผู้ใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและเครื่องพิมพ์ในตลาดองค์กรช่วง 5 ปีที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงสูงมาก โดยเฉพาะบทบาทของคลาวด์คอมพิวติ้งที่มีอิทธิพลกับรูปแบบการทำงานนอกสำนักงาน ขณะเดียวกันความคาดหวังจากผู้ใช้ก็มีความหลากหลายและสูงมากขึ้น ทั้งหมดนี้ทำให้ HP เปลี่ยนกลยุทธ์ในการพัฒนาสินค้าเพื่อเร่งผลักดันดิจิตอลทรานฟอร์เมชั่นในตลาดองค์กรให้เกิดได้รอบด้าน
กลยุทธ์ใหม่ของ HP สามารถเห็นได้ชัดจากสินค้าใหม่สำหรับทำตลาดในปี 63 ได้แก่ HP Elite Dragonfly คอนเวอร์ติเบิลพีซีขนาดเล็กบางเบาไม่ถึง 1 กิโล สมรรถนะทนทาน ให้ความอิสระ คล่องตัว ทำงานจากสถานที่ใดก็ได้ ห้องประชุม ห้องเรียน สนามบิน หรือในระหว่างการเดินทางทุกที่ ยังมี HP Neverstop Laser Printer เครื่องพิมพ์เลเซอร์ตัวแรกที่สามารถเติมหมึกผงได้ด้วยตัวเองในเวลา 15 วินาที ออกแบบมาสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและโฮมออฟฟิศ สามารถสั่งพิมพ์ สแกน และทำสำเนาได้จากทุกที่ด้วย HP Smart App
HP ยอมคลอด “เลเซอร์ตลับหมึก” พิมพ์ทุนต่ำ
Neverstop Laser Printer เป็นเครื่องพิมพ์เลเซอร์ตลับหมึกตัวแรกของโลกซึ่ง HP การันตีว่าสามารถให้งานพิมพ์ที่มีต้นทุนราคาต่ำกว่าเครื่องพิมพ์เลเซอร์ระดับความเร็วการพิมพ์ 20 แผ่นต่อนาทีทุกรุ่นในตลาดขณะนี้ สนนราคาเครื่องละ 7,990 ถึง 9,990 บาท เฉลี่ยแล้วราคาต้นทุนต่อแผ่นอยู่ที่ราว 0.24-0.27 บาทต่อแผ่น ประหยัดกว่าต้นทุน 1-1.5 บาทในรุ่นทั่วไป
วรานิษฐ์ อธิจรัสโรจน์ ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์ กลุ่มธุรกิจการพิมพ์ อธิบายว่า Neverstop เป็นเครื่องพิมพ์เลเซอร์แทงค์รายเดียวในตลาดขณะนี้ จุดเด่นคือความคมชัดมากกว่าอิงค์แทงค์ทั่วไป สามารถรองรับงานพิมพ์ขาวดำได้ดีกว่า และมีแอปพลิเคชันรองรับการสั่งพิมพ์แบบไร้สายจากระยะไกล โดยปัจจุบัน ผู้ใช้กว่า 20% เลือกใช้หมึกพิมพ์เทียบเท่า แต่เชื่อว่าจากนี้ Neverstop Laser Printer จะทำให้ผู้ใช้ซื้อหมึกแท้มากขึ้น เพราะผู้ใช้จะไม่ต้องกังวลเรื่องต้นทุนอีกต่อไป
“ทุกวันนี้มีลูกค้าใช้หมึกเทียบเท่าราว 20% เพราะเข้าใจว่าหมึกเทียบเท่ามีราคาถูกกว่า แต่ความจริงคือหมึกเทียบเท่ามีผลเสีย 2-3 เรื่อง เช่นงานพิมพ์อาจจะเสียหาย และอาจจะมีต้นทุนซ่อน เช่น การเสียประกัน หมึกรั่วไหล และการเป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อมเพราะหมึกเทียบเท่าต้องทำลายด้วยการฝังกลบถึง 90% วันนี้ผู้ใช้ไม่ต้องใช้หมึกเทียบเท่าอีกต่อไป เพราะมีต้นทุนที่ถูกกว่าแล้ว แถมไม่ใช่เน้นราคาถูกอย่างเดียว แต่ใช้พิมพ์ได้สะดวกสบาย ผ่านแอปพลิเคชันที่มีคนโหลดมากกว่า 100 ล้านคนแล้ว”
งานนี้ HP ยอมจำหน่ายหมึกแทงก์สำหรับเติมในราคาไม่สูง จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ พบว่าหมึกเติมของ HP Neverstop Laser Printer อยู่ที่ 599 บาท สามารถพิมพ์ได้ 2,500 แผ่น และหากซื้อเป็นแพ็คคู่ราคาจะลดเหลือ 1,000 บาทซึ่งพิมพ์ได้ 5,000 แผ่น เท่ากับหมึกตลับแรกที่มากับเครื่องใหม่ซึ่งสามารถพิมพ์ได้ 5,000 แผ่น
เครื่องพิมพ์อีกรุ่นที่ HP เปิดตัวในครั้งนี้คือเอชพีสมาร์ทแทงค์ (HP Smart Tank) เป็นเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทแบบแทงค์ที่ HP เรียกว่าอิงค์แทงค์ (Ink Tank) โดยเฉพาะ เครื่องพิมพ์ดังกล่าวเป็นรุ่นต่อยอดจาก Ink Tank ที่ HP เปิดตัวมาแล้วก่อนหน้านี้ เป็นการตอกย้ำว่า HP กำลังปรับตัวตามผู้ใช้กลุ่ม SME ซึ่งเน้นซื้อหาเครื่องพิมพ์ที่ให้ต้นทุนงานพิมพ์ต่ำ
พีซี 4 หมื่นบาทไม่เน้นเกม
นอกจากเครื่องพิมพ์ HP ยังเปิดตัวคอมพิวเตอร์ 2 รุ่นคือ HP Elite Dragonfly และ HP Spectre x360 เบื้องต้น แกทริยา ภัทรากร ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์ ธุรกิจเพอร์ซันแนลซิสเต็มส์ เอชพี อิงค์ ประเทศไทย อธิบายว่า Dragonfly จะเน้นกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ใช้กลุ่มองค์กร ซึ่งใส่ใจความเบาแต่ต้องการประสิทธิภาพเต็มรูปแบบ จุดเด่นของ Dragonfly คือความเบาที่สุดในตลาดแต่แบตเตอรี่ทนใช้งานได้ 24 ชั่วโมง ขณะที่รุ่น x360 จะเน้นผู้ใช้ทั่วไปซึ่งเน้นดีไซน์ให้โดดเด่นเหมือนกับเทคนิคการเจียระไนเพชรพลอย
HP Elite Dragonfly ถูกตั้งราคาเพิ่มที่ 46,990 บาท แพงกว่า Spectre x360 ที่มีราคาเริ่มต้น 42,990 บาท ผู้บริหารย้ำว่า Dragonfly สามารถรองรับเกม 3 มิติได้แบบไม่หนักมาก ซึ่ง HP ตั้งใจหลบให้โอเมน (HP OMEN) เป็นแบรนด์หลักในการทำตลาดโน้ตบุ๊กสำหรับเล่นเกม
ผู้บริหาร HP มองว่ากลุ่มเป้าหมายของ Dragonfly และ x360 จะไม่ทับซ้อนกัน เพราะกลุ่ม Dragonfly เป็นผู้บริหารองค์กรที่เน้นการเดินทาง นิยมชม content ทำให้ต้องการเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูง มีแบตเตอรี่ใช้ต่อเนื่องได้นาน กลุ่มนี้มักไม่พกพา adapter สำหรับชาร์จแบต ทำให้ Dragonfly เน้นตอบโจทย์สินค้ากลุ่มบางเบาและแบตอึด มากกว่า Spectre x360 ที่เน้นการใช้งานทั่วไป
ปัจจุบัน HP เป็นอันดับ 1 ในตลาดทั้งสินค้าคอมพิวเตอร์พีซีและเครื่องพิมพ์ ผู้บริหารระบุว่าไม่สามารถเปิดเผยยอดขายในปีที่ผ่านมาได้ แต่ยืนยันว่ามีแนวโน้มการเติบโตที่ดีมากในประเทศไทยและทั่วโลก.
