xs
xsm
sm
md
lg

"Windows 7 หยุดซัปพอร์ต" หนุน Surface โตแรงปีหน้า

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ไมโครซอฟท์ ประกาศวางจำหน่าย Surface Pro 7 และ Surface Laptop 3 อย่างเป็นทางการในประเทศไทย

ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ลุยทำตลาดคอมพิวเตอร์พกพารุ่นใหม่ Surface Laptop 3 และ Surface Pro 7 มั่นใจปีหน้าตลาด Surface (เซอร์เฟส) ในไทยเติบโตต่อเนื่องเป็นเลข 2 หลักเช่นเดียวกับตลาดอื่นทั่วโลก ยอมรับการหยุดสนับสนุน Windows 7 ตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม 2020 เป็นต้นไปจะเป็นปัจจัยเสริมให้ Surface ขายดี ปัดไม่เอ่ยถึงการลงทุนเพิ่มศูนย์บริการในไทยแต่ย้ำว่าจะเน้นลงทุนวิจัยและพัฒนาเป็นหลัก แย้มต้นปีหน้าพร้อมส่ง Pro x บุกตลาด LTE แดนสยาม


แจคกี้ มิแรนด้า ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจเซอร์เฟสและอุปกรณ์เสมือนจริง บริษัท ไมโครซอฟท์ กล่าวระหว่างงานประกาศเริ่มจำหน่าย Surface Laptop 3 และ Surface Pro 7 ในประเทศไทยเมื่อวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา ถึงโอกาสของคอมพิวเตอร์พกพาและแท็บเล็ตตระกูล Surface ในปีหน้าว่าตลาดไทยจะเติบโตขึ้นอย่างน้อยเป็นเลข 2 หลัก ไม่ต่างจากตลาดอื่นทั่วโลกที่ Surface เติบโตขึ้นทุกปีเป็นเลข 2 หลักเช่นกัน


“ไทยเป็นตลาดที่สำคัญของ Microsoft สถิติในเดือนเมษายนถึงพฤษภาคมที่ผ่านมาพบว่า 75% ของบริษัทใหญ่ที่อยู่ในดัชนี Fortune 500 ทั่วโลกมีการใช้งาน Surface วันนี้ธุรกิจ Surface มีการเติบโตมากกว่า 24 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ตอกย้ำว่า Surface จะเป็นธุรกิจหลักหรือ core business ของบริษัท”






สำหรับ Surface Laptop 3 และ Surface Pro 7 เป็นสินค้ากลุ่ม Surface รุ่นล่าสุดที่ Microsoft เริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทย หลังจากเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าผ่านร้านค้าปลีกไอที และช่องทางออนไลน์ในราคาเริ่มต้น 22,990 บาท ปัจจุบัน Microsoft เปิดตัวผลิตภัณฑ์แล้ว 6 รุ่นในตระกูล Surface ได้แก่ ซีรีส์ Pro ซึ่งมีจุดเด่นที่หน้าจอฝาหลังพับได้, ซีรีส์ Laptop ซึ่งเป็นรูปร่างคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กปกติ, ซีรีส์ Go ที่เน้นการพกพาง่าย, ซีรีส์ Book ซึ่งเน้นถอดหน้าจอออกได้, ซีรีส์ Studio ที่ไม่เข้าตลาดไทย และซีรีส์ Hub 2S กระดานอินเทอร์แอคทีฟซึ่งจะเริ่มทำตลาดในปีหน้า


กลุ่มเป้าหมาย 5 องค์กร


ชนิกานต์ โปรณานันท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงกลุ่มเป้าหมายของ Surface ว่าจากที่ Microsoft เคยวางให้ Surface เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับทุกคน แต่ 2 กลุ่มที่บริษัทพบว่าชื่นชอบใน Surface มากกว่ากลุ่มอื่น คือคนทำงานที่เดินทางตลอดเวลา เพื่อทำงานนอกสถานที่และทำงานจากที่ใดก็ได้ คนกลุ่มนี้ต้องการอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์การประชุมได้ทุกที่และต่อเนื่อง กลุ่มที่ 2 คือกลุ่มที่ต้องการความโดดเด่นไม่ธรรมดา อาจเป็นนักศึกษาหรือคนทำงาน ซึ่งเป็นกลุ่มที่เติบโตมาพร้อมเทคโนโลยีและมองว่าอุปกรณ์เป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ต้องการอุปกรณ์ที่สามารถเขียน วาดรูป และฟังเสียงพูดได้แบบลื่นไหล


“องค์กรที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของ Surface คือกลุ่มสถาบันการเงิน และการประกันภัย รวมถึงธุรกิจด้านสุขภาพ การค้าปลีก และภาคอุตสาหกรรม”

(ที่สองจากซ้าย) คุณชนิกานต์ โปรณานันท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย (ที่สองจากขวา) คุณแจคกี้ มิแรนด้า General Manager for Surface & Mixed Reality Device (ซ้ายสุด) คุณสุมล อนันตธนะสาร ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์ Surface ไมโครซอฟท์ เอเชีย แปซิฟิค และ (ขวาสุด) คุณวิสสุต เมธีสุวกุล CMO Lead ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย

นางสาวสุมล อนันตธนะสาร​ ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์ Surface ไมโครซอฟท์ เอเชีย แปซิฟิก​ กล่าวเสริม ยืนยันว่า Surface ไม่ได้เหมาะกับแค่กลุ่มคอนซูมเมอร์ แต่วันนี้ Surface สามารถตอบโจทย์พนักงานทุกระดับทุกตำแหน่งในองค์กร เช่นรุ่น Go ที่เหมาะกับพนักงานหน้าร้าน ในร้านอาหาร ร้านกาแฟ โกดัง รวมถึงในสนามบินที่ต้องการการติดต่อและสื่อสารอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องรอเดินทางกลับมาที่ออฟฟิศ


“จุดขายของ Surface ในมุมองค์กร ประกอบด้วยหลายส่วน ทั้งน้ำหนักที่เบาพกพาง่ายใส่กระเป๋าผู้หญิงได้ใช้งานได้หลายรูปแบบ, การสื่อสารที่รองรับทั้งภายในและภายนอกองค์กร, กล้องหน้าหลังคมชัดระดับ HD และการรองรับระบบชาร์จเร็วสามารถชาร์จเต็ม 80 เปอร์เซ็นต์ใน 1 ชั่วโมง ขณะเดียวกันก็มีระบบปฏิบัติการ Windows 10 Pro ที่สแกนใบหน้าเพื่อเข้ารหัสเครื่องได้เร็วไม่ยุ่งยาก”


เล่นเกมดีขึ้น


อีกจุดที่เป็นพัฒนาการสำคัญของ Surface คือ Surface Laptop 3 ที่ถือเป็นครั้งแรกที่ Microsoft ใช้ชิป AMD ในรุ่นที่วางจำหน่ายหน้าร้านค้าปลีก ทำให้รองรับการเล่นเกมที่ดีขึ้น จุดนี้ Microsoft มองว่าเป็นการร่วมมือเพื่อเติมเต็มสายผลิตภัณฑ์ ให้สามารถตอบการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการปรับยุทธศาสตร์เพื่อตอบความต้องการในตลาดพีซีเกมมิ่งที่ร้อนแรง


“การร่วมมือกับ AMD เกิดขึ้นเพื่อให้ Surface ตอบโจทย์การทำงานที่หลากหลาย ซึ่งเป็นการร่วมมือลักษณะเดียวกันกับที่ Microsoft มีกับ Qualcomm”


นอกจากนี้ ทั้ง Laptop 3 และ Pro 7 นั้นถูกเปิดตัวต่อชาวโลกครั้งแรกเมื่อตุลาคมที่ผ่านมา การทิ้งช่วงห่างไม่ถึง 3 เดือนแล้ววางจำหน่ายในไทยนั้นถือเป็นระยะเวลาที่สั้นลงเมื่อเทียบกับ Surface รุ่นอื่น ภาวะนี้สะท้อนว่า Surface ในตลาดไทยจะถูกผลักดันให้โดดเด่นขึ้น บนปัจจัยเสริมเรื่องเวลาที่รับกับช่วงที่ธุรกิจต้องเปลี่ยนเครื่อง และทำดิจิทัลทรานสฟอร์เมชันเพื่อปรับธุรกิจให้เข้ากับยุคดิจิทัลพอดี


“อีกปัจจัยเสริมสำคัญที่ Microsoft เชื่อว่าจะผลักดันให้ตลาด Surfaces โตกระฉูด คือระบบปฏิบัติการ Windows 7 จะสิ้นสุดการ support ในช่วงเดือนมกราคมนี้ เชื่อว่าจะเป็นจังหวะดีที่ผลักดันให้เกิดการปรับเปลี่ยนเครื่องและแพลตฟอร์มการทำงานขององค์กรไปสู่การทำ Digital Transformation ที่ปลอดภัย”


ทั้งหมดนี้ผู้บริหารมองว่า Surfaces ไม่ได้มีราคาแพงเกินไป เนื่องจากบริษัทเน้นวางนโยบายการตั้งราคาให้สามารถแข่งขันได้ ซึ่งเชื่อว่าลูกค้าจะยอมจ่ายหากเห็นประโยชน์จากการใช้งาน โดยเฉพาะจุดเด่นของ Surface ที่ทุกรุ่นสามารถลง Application ขององค์กรได้ครอบคลุมกว่า เมื่อเทียบกับคู่แข่ง



สำหรับจุดยืนการกำหนดเซกเมนต์ในตลาด ผู้บริหาร Microsoft มองว่าการเป็นอุปกรณ์ทูอินวันทำให้ Surface สามารถบุกได้ทั้งตลาดแท็บเล็ตและแล็ปท็อป โดย Microsoft ไม่ได้หวังแย่งชิงส่วนแบ่งจาก 2 ตลาดนี้ แต่วางเป้าหมายเพื่อเข้าถึงพฤติกรรมและรูปแบบการทำงานของผู้ใช้ ทั้งส่วนพนักงานหน้าร้านและนักศึกษา ซึ่งหากใครชอบ tablet ก็สามารถเลือกซื้อ Surface ได้ รวมถึงหากชอบ laptop ก็ยังสามารถซื้อ Surface ได้เช่นกัน


ปัจจุบัน Surface ถือเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์ใหญ่ที่สุดของ Microsoft ซึ่งรวมอุปกรณ์เสริมสำหรับพีซีทุกชนิดเข้าไปอยู่ในแผนก สถิติล่าสุดไม่มีการระบุว่า Surface สามารถทำรายได้เป็นสัดส่วนเท่าใดของรายได้รวม


ไม่เพิ่มศูนย์บริการไทย


ในแง่การลงทุน ผู้บริหาร Microsoft ไม่เปิดเผยตัวเลขที่แน่ชัด แต่ระบุว่าการลงทุนเป็นส่วนที่สำคัญเนื่องจากราคา Surface ที่อยู่ในระดับพรีเมี่ยม ทำให้ผู้ใช้มีความคาดหวังว่าจะได้รับบริการที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นจนจบ ส่วนนี้ Microsoft มีการลงทุนทั้งส่วนระบบออนไลน์เพื่อให้ผู้ใช้สามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตัวเองในเบื้องต้น ขณะเดียวกันมีการลงทุนผ่านพันธมิตร นอกจากนี้ เม็ดเงินส่วนใหญ่จะถูกใช้ไปกับการวิจัยและพัฒนา เพื่อให้เกิดนวัตกรรม จุดนี้ผู้บริหารย้ำว่าการลงทุนเหล่านี้ไม่ได้เน้นตอบโจทย์ผู้ใช้แค่ในขณะนี้ แต่จะมองล่วงหน้าไปอีก 2 ปีข้างหน้า


สำหรับความท้าทายในปีหน้า ผู้บริหารมองว่าไม่ใช่ความท้าทายแต่เป็นโอกาสที่บริษัทจะได้ออกสินค้ามามากขึ้น ผลจากการเปิดตัว Surface ทั้ง 5 ซีรีส์ในไทยจะทำให้รอบการอัปเดทผลิตภัณฑ์สั้นลง จากเดิมที่ Surface มักออกผลิตภัณฑ์ใหม่ทุก 18 เดือนหลังจากการเปิดตัวสินค้าใหม่ในซีรีส์เดียว


นอกจาก Laptop 3 และ Pro 7 ยักษ์ใหญ่ Microsoft ยังเตรียมเปิดตัวรุ่น Pro x ซึ่งรองรับการใส่ซิมเทคโนโลยี LTE คาดว่าจะเปิดตัวภายในมกราคม 2020 เบื้องต้นยังไม่มีการประกาศราคา แต่มีการประกาศแล้วว่า Microsoft จะจำหน่ายผ่านโอเปอเรเตอร์อย่าง AIS รายเดียว.






กำลังโหลดความคิดเห็น