เอไอเอส รวมเทคโนโลยี 5G ให้ลองส่งท้ายปีที่ สามย่านมิตรทาวน์

เอไอเอส มัดรวมรูปแบบการทดลอง ทดสอบ 5G ทั่วประเทศ มาจัดแสดงรวมกันที่ สามย่านมิตรทาวน์ หลังเดินสายนำนวัตกรรม 5G ทดสอบครอบคลุมทั่วประเทศเป็นรายแรก เชื่อหลังจากนี้จะเห็นพันธมิตร และรูปแบบการนำ 5G ไปใช้งานที่หลากหลายตลอดช่วงปี 63

นายวสิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้าฝ่ายงานปฏิบัติการและสนับสนุนด้านเทคนิคทั่วประเทศ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า หลังจากนี้จะได้เห็นการทำงานระหว่างเอไอเอส กับพันธมิตรหลากหลายอุตสาหกรรม ที่ต้องการเปิดตัวให้เห็นว่ามีการพัฒนาโซลูชันเกี่ยวกับ 5G

“5G จะเข้ามาช่วยทำให้สังคมไทย และภาคอุตสาหกรรมสามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ และถือเป็นความท้าทายของผู้ให้บริการเครือข่ายที่ต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่องในการนำเทคโนโลยีมาให้บริการ บน 3 ส่วนหลักๆ คือเรื่องของความเร็ว ขีดความสามารถในการเชื่อมต่อ และการตอบสนองที่รวดเร็ว”

ก่อนหน้านี้ เอไอเอส ได้เดินสาย นำนวัตกรรม 5G ไปจัดแสดงตามสถานที่ ที่กสทช. เปิดให้ทดลอง ทดสอบให้บริการ 5G ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็น 5G Vdo Call จากภาคต่างๆ 5G Remote Control Vehicle ในการควบคุมรถระยะไกลผ่านเครือข่าย 5G

ตามด้วย 5G Connected Drones ที่ใช้ควบคุมอากาศยานไร้คนขับ (Drone) ทางไกล รวมถึง 5G The Robotics ที่นำหุ่นยนต์มาใช้งานภายในซูเปอร์มาเก็ต และหุ่นยนต์ที่สามารถพูดคุย ตอบคำถามแก่ลูกค้าที่เข้ามาใช้งานผ่านเครือข่าย 5G

ล่าสุด เอไอเอส ได้นำนวัตกรรม AIS 5G จากทุกภาค มารวมกันจัดแสดงตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2562 – 3 มกราคม 2563 ณ สามย่านมิตรทาวน์ บริเวณลานกิจกรรม Semi outdoor ชั้น G เพื่อเปิดให้ผู้ที่สนใจเข้าชมได้ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และให้คำแนะนำตลอดระยะเวลาที่จัดแสดง

“จากการที่เอไอเอส เริ่มนำเทคโนโลยี 5G มาใช้งานกับอุตสาหกรรมต่างๆ ทำให้เห็นผลตอบรับจากพันธมิตร และโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ให้ความสนใจในการร่วมกันพัฒนาโซลูชันไปใช้งาน ทำให้ปัจจุบันเอไอเอส ทำงานร่วมกับพันธมิตรที่หลากหลายอุตสาหกรรม เพื่อให้เกิดความพร้อมมากที่สุดในวันที่พร้อมให้บริการ 5G”

สำหรับพันธมิตรรายล่าสุดที่เข้ามาร่วมกับ AIS 5G คือ DoubleMe บริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยี โฮโลแกรม (Hologram) จากเกาหลีใต้ ที่สามารถถ่ายทอดภาพ 3มิติ ได้แบบ 360 องศา ให้มีความเสมือนจริง และเรียลไทม์ โดยสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการประชุมธุรกิจ, การศึกษาทางไกล, การแพทย์, การเกษตร และงานด้านแฟชั่นและบันเทิง

จนถึงการนำไปใช้พัฒนาเกม, แอนิเมชัน 3 มิติ, AR (Augmented Reality), VR (Virtual Reality) และ MR (Mixed Reality) ที่ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องอยู่ในพื้นที่เดียวกัน แต่สามารถทำงาน และพัฒนางานร่วมกันได้อย่างรวดเร็วและเห็นภาพยิ่งขึ้น