ETDA เล็งผุด “อีคอมเมิร์ซพาร์ค” ปลายปีนี้ หวังช่วยพัฒนาบุคลากรสนับสนุน SMEs เข้าสู่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โดยจะประกาศความชัดเจน พร้อมเตรียมเปิดเผยข้อมูลตลาดอีคอมเมิร์ซภายในงาน “Future Economy and Internet Governance : Big Change to Big Chance” ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 23- 25 ก.ค. นี้
นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ ETDA เปิดเผยถึงโครงการล่าสุดที่ทาง ETDA เข้าไปเซ็นเอ็มโอยูร่วมกับสมาคมเมืองตงกวน เพื่อโปรโมตการค้าระหว่างประเทศของประเทศจีน (China Council for The Promotion of Internet Trade Dongguan City Committee) ในการจัดตั้งอีคอมเมิร์ซพาร์กขึ้นในประเทศไทย โดยอีคอมเมิร์ซพาร์กจะเป็นเหมือนศูนย์บ่มเพาะบุคลากร ที่จะเข้าไปดูว่า SMEs ขาดบุคลากรในส่วนไหน เพื่อให้มาฝึกภายในศูนย์ฯ และช่วยสร้างให้มีรายได้พิเศษ โดยเริ่มมีการเข้าไปพูดคุยกับทางมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว)
“ที่เริ่มจาก มศว. เพราะว่าอยู่กลางเมืองอยู่ใกล้กับ ETDA มีคณะที่น่าสนใจอย่างการสื่อสารนวัตกรรม, มีศิลปกรรม, มีวิศวกรรม และมนุษย์ศาสตร์ โดยเฉพาะภาคอังกฤษ และจีน ที่คาดว่าจะสามารถสร้างบุคลากรได้กว่า 500 คนภายในสิ้นปีนี้”
ทั้งนี้ อีคอมเมิร์ซพาร์ค คาดว่าจะเป็นรูปร่างขึ้นมาในช่วงปลายปีนี้ โดยที่ร่วมกับ มศว. จะเป็นโครงการต้นแบบที่จะใช้ขยายไปยังทุกภูมิภาคในประเทศไทย ภายใต้โครงสร้างที่ใกล้เคียงกันคือทาง ETDA เข้าไปร่วมลงทุน รวมถึงการนำความรู้จากสมาคมฯ ตงกวน มาร่วมด้วย
อย่างไรก็ตาม อีคอมเมิร์ซพาร์ค ถือเป็นโครงการใหม่ เพิ่มเติมจากก่อนหน้านี้ที่ ETDA เคยประกาศทำโครงการในระดับประเทศ อย่างไซเบอร์ซิเคียวริตีพาร์ก (Cybersecurity Park), ดิจิทัลทัวริสซึม (Digital Tourism), ทุเรียน แพลตฟอร์ม (Durian Platform), ดิจิทัล คอนเทนต์ (Digital Content) และเนชันแนลดิจิทัล ไอดี (National Digital ID)
นางสุรางคณา ให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงการจัดงาน “Future Economy and Internet Governance: Big Change to Big Chance” ว่าจะจัดขึ้นบนแนวคิดในการนำเทคโนโลยีมาให้เห็นจริง เพราะจากปัจจุบัน การที่คนไทยมีการใช้งานอินเทอร์เน็ตร่วม 50 ล้านคน มีการใช้งานโทรศัพท์กว่า 90 ล้านเลขหมาย ใช้งาน LINE กว่า 42 ล้านคน ถือเป็นการก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลแล้ว
“ประเด็น คือ คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจว่า การใช้งาน LINE ถือเป็นการใช้งานอินเทอร์เน็ตรูปแบบหนึ่ง รวมถึงการสั่งซื้อดิจิทัลคอนเทนต์ต่างๆ บนหลายๆ แพลตฟอร์มก็ไม่ได้มองว่าเป็นธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ดังนั้น การให้ความรู้เหล่านี้ จึงกลายเป็นสิ่งสำคัญที่สุด”
สำหรับการจัดงานระหว่างวันที่ 23-25 กรกฎาคมนี้ ที่รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน จะเน้นใน 3 เรื่องสำคัญตามแต่ละวัน คือ เรื่องของเศรษฐกิจอนาคต (Future Economy) ควรเป็นอย่างไร เพื่อแสดงให้เห็นว่า การมาของ IoT จะเกิดภัยคุกคามอะไรบ้าง การมาของบล็อกเชน มีแนวคิดแล้วจะนำไปประยุกต์ใช้อย่างไร
ถัดมา คือ เศรษฐกิจวันนี้มีอะไรที่กำลังเปลี่ยน และต้องเปลี่ยน อย่างข้อมูลตลาดอีคอมเมิร์ซที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป เพราะทาง ETDA กำลังเตรียมรวบรวมรายได้การขายที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มดิจิทัลเข้ามาอยู่ภายในตลาดอีคอมเมิร์ซ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีหน้า
สุดท้าย คือ ธรรมาภิบาลอินเทอร์เน็ตจะสมดุลได้อย่างไร (Internet Governance) ทั้งการเปิดเผยข้อมูลร่างกฎหมายข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงร่างกฎหมายไซเบอร์ซิเคียวริตี เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องสามารถเตรียมความพร้อมได้
“ในงานจะมีการเปิดเผยข้อมูลตลาดอีคอมเมิร์ซที่คาดว่าในปีนี้จะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่าเดิมที่คาดการณ์ไว้ 2.55 ล้านล้านบาท จากหลายๆ ปัจจัยที่แม้ว่าสภาพรวมเศรษฐกิจระดับล่างหมือนจะไม่ดี แต่จริงๆ แล้ว ผู้บริโภคหันมาใช้จ่ายทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น”