เสี่ยวมี่เปิดตัว Redmi Note 5 และ Mi MIX 2S สร้างขีดจำกัดใหม่ของกล้องมือถือ มอบประสิทธิภาพการใช้งานที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในสมาร์ทโฟนกลุ่มระดับราคาเดียวกัน มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย กล้องคู่ที่มีเทคโนโลยี AI และชิปประมวลผลรุ่นล่าสุด Qualcomm Snapdragon 845
จอห์น เฉิน ผู้อำนวยการฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เสี่ยวมี่ กล่าวเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในเมืองไทยพร้อมกัน 2 รุ่น คือ Redmi Note 5 และ Mi MIX 2S ว่าก่อนเปิดตัวในเมืองไทย เสี่ยวมี่ทั้ง 2 รุ่นเปิดตัวแล้วในเวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ โดยได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี อย่างในฟิลิปินส์ Redmi Note 5 ขายผ่านออนไลน์หมดภายใน 5 นาที ขณะที่ขายผ่านตัวแทนจำหน่ายหมดภายใน 2 ชั่วโมง โดยมีคนต่อแถวรอซื้อกว่า 300 คน และสามารถจำหน่ายได้มากกว่า 1,000 เครื่อง โดยคาดว่าในเมืองไทยจะได้รับการตอบรับที่ดีเช่นกัน
“เราไม่ได้ตั้งเป้ายอดขายอย่างเป็นทางการ ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับซัปพลายของที่จะได้มา ซึ่งเราก็พยายามให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้”
Redmi Note 5 ได้รับการขนานนามว่า “ขีดจำกัดใหม่ของกล้องมือถือ” ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 636 ความสามารถในการถ่ายภาพเทียบเท่าสมาร์ทโฟนระดับเรือธง ติดตั้งกล้องหลังคู่ ซึ่งปกติจะมีแต่ในเฉพาะสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงเท่านั้น โดยกล้องหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 1.4 ไมครอน พิกเซล จึงสามารถรับแสงได้มากขึ้นให้ภาพสวยงามคมชัดแม้ในสภาพแสงน้อย เทคโนโลยีกล้องหลังแบบคู่ Dual Pixel นี้ มีอยู่ในกล้อง dSLR สำหรับการถ่ายภาพระดับมืออาชีพ โดยกล้องของ Redmi Note 5 สามารถจับโฟกัสได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้ไม่พลาดทุกโอกาสและจังหวะสำคัญ
ในส่วนกล้องหน้าของ Redmi Note 5 เซ็นเซอร์ด้านหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล มาพร้อมไฟ LED เพื่อการถ่ายเซลฟี นอกจากนี้ เมื่อเปิดใช้งานระบบถ่ายภาพบุคคลไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพด้วยกล้องหน้า หรือกล้องหลัง ระบบอัจฉริยะ Beautify 4.0 ซึ่งมีหลายโหมดให้เลือกจะคำนวณผล และปรับแต่งภาพให้สวยงามอย่างเป็นธรรมชาติราวกับได้รับการแต่งโดยเมกอัปอาร์ติสมืออาชีพ และถึงแม้กล้องหน้าจะเป็นระบบกล้องเดี่ยว แต่ก็สามารถสร้างโบเกเอฟเฟกต์แบบหน้าชัดหลังเบลอได้ด้วยเทคโนโลยี AI อัจฉริยะ เพื่อชูวัตถุให้โดดเด่นออกมาฉากเบื้องหลัง
สำหรับ Mi MIX 2s เป็นสมาร์ทโฟนตระกูล MIX รุ่นล่าสุด หลังจากที่ได้เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งได้รับการออกแบบให้มีจอแสดงผลแบบฟูลสกรีนมาพร้อมกับเซ็นเซอร์รุ่นเรือธงล่าสุดจากโซนี่ IMX363 ติดตั้งในกล้องหลังคู่ ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์รับแสงที่มีขนาดใหญ่ถึง 1.4 ไมครอนพิกเซล เพื่อคุณภาพของภาพถ่ายที่ดีกว่าในสภาพแสงน้อย ทำงานควบคู่กับเทคโนโลยี Dual Pixel เพื่อการโฟกัสแบบอัตโนมัติที่รวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ Mi MIX 2s ยังมีฟีเจอร์ AI แบบผสมผสาน ซึ่งรวมถึงฟีเจอร์อัจฉริยะเพื่อการถ่ายภาพแบบต่างๆ และระบบจดจำใบหน้า ด้วยแรมความจุสูงสุด 6 GB และหน่วยความจำ 128 GB ทำให้ Mi MIX 2s แสดงศักยภาพของชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 845 รุ่นล่าสุดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
Mi MIX 2s มีดีไซน์ที่สวยงาม ด้วยพื้นหลังเซรามิกขอบโค้งทั้งสี่ด้าน กลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกับขอบอลูมิเนียมรองรับหน้าจอฟูลสกรีนความละเอียดระดับ FHD+ ขนาด 5.99 นิ้ว นอกจากนี้ Mi MIX 2s ยังมีรุ่นพิเศษสีขาว โดยราคาเริ่มต้นเพียง 17,990 บาท
จอห์น เฉิน กล่าวว่า จากข้อมูล IDC ปัจจุบัน (ไตรมาส 1 ปี 2018) เสี่ยวมี่ ขึ้นมาเป็นเบอร์ 4 ในตลาดโลก ในด้านจำนวนเครื่อง เพราะเสี่ยวมี่ให้ความสำคัญกับคุณภาพโปรดักต์ในราคาที่เหมาะสม ให้ความสำคัญกับแฟนคลับให้เชื่อมั่นในสิ่งที่พูดว่า เสี่ยวมี่ เป็นโปรดักต์ที่ดี ในราคาไม่มีใครแข่งขันได้ และดีไซน์สวยงาม
สำหรับ Redmi Note 5 (รุ่น 3 GB + 32 GB) เปิดให้ลงทะเบียนจองผ่านแคมเปญแฟลชเซลส์ ทาง Shopee ในราคา 5,990 บาท ตั้งแต่เวลา 15.00 น. ของวันที่ 16 พฤษภาคม และจะจัดส่งภายในวันที่ 21 พฤษภาคม ขณะที่ลาซาด้า จะเปิดให้ลงทะเบียนจอง Redmi Note 5 (รุ่น 4 GB + 64 GB) ในราคา 6,990 บาท ตั้งแต่เวลา 15.00 น. ของวันที่ 16 พฤษภาคม และจะจัดส่งภายในวันที่ 21 พฤษภาคม การสั่งจองล่วงหน้าทั้งหมดมีสิทธิลุ้นรับ Mi band 2 ทั้งนี้ แคมเปญแฟลชเซลส์ทาง Shopee และลาซาด้า จะเริ่มต้นตั้งแต่เวลา 12.00 น. ของวันที่ 21 พฤษภาคม เป็นต้นไป
ส่วนการสั่งจอง Mi MIX 2s (รุ่น 6 GB หรือ 64 GB) จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม ที่ลาซาด้า และ Shopee ในราคา 17,990 บาท และพร้อมจำหน่ายวันแรกที่ Authorized Mi Stores สาขาเอ็มบีเค เซ็นเตอร์ (MBK Center) ที่กำลังจะเปิดตัวในวันที่ 19 พฤษภาคม ส่วน Mi MIX 2s (รุ่น 6 GB หรือ 128 GB) ในราคา 19,990 บาท จะเปิดให้จับจองในเร็วๆ นี้ โดยสินค้าทั้งสองรุ่นจะมีวางจำหน่ายผ่านร้านค้าปลีก เช่นเดียวกับที่ Authorized Mi Stores ทุกสาขา
“อยากให้คนไทยได้ใช้ของพรีเมียม แต่จ่ายในระดับไม่ถึงพรีเมียม เพราะเสี่ยวมี่ยึดคำมั่นสัญญาที่ว่า เราจะขอกำไรไม่เกิน 5% เท่านั้น”