เอสทีเอ็ม กูดส์ หวังโต 30% ในปีนี้ ชูกลยุทธ์ออนไลน์มาร์เกตติง ดึง เทคโนโลยี AR ให้ลูกค้าศึกษาคุณสมบัติสินค้าแบบเสมือนจริงก่อนตัดสินใจซื้อ
นายอีธาน ไนโฮล์ม ผู้ก่อตั้ง เอสทีเอ็ม กูดส์ ออสเตรเลีย ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเป๋าโน้ตบุ๊ก และเคสไอแพด กล่าวว่า ปีนี้บริษัทได้นำเทคโนโลยี AR (Augmented Reality) เพื่อให้ลูกค้าสามารถศึกษาคุณสมบัติของสินค้าได้ก่อนตัดสินใจซื้อ เพียงดาวน์โหลด STM Good แอปพลิเคชันสำหรับไอโฟน หรือแอนดรอยด์ แล้วสแกนไปที่ตราสินค้าบนผลิตภัณฑ์ ก็จะมีข้อมูลผลิตภัณฑ์นั้นบนหน้าจอให้ศึกษา โดยบริษัทได้นำสัญลักษณ์ AR แปะติดไว้ที่หน้าเว็บไซต์ของบริษัท และจะมีการแจกคู่กับโบรชัวร์สินค้า เพื่อให้ลูกค้าตามสถานที่ต่าง ๆ ด้วย
สำหรับเทคโนโลยีดังกล่าวได้นำมาช่วยสนับสนุนการส่งเสริมการขายของผลิตภัณฑ์มาแล้วทั่วโลก ทั้งในอเมริกาเหนือ อังกฤษ เอเชียแปซิฟิก และนิวซีแลนด์ เชื่อว่าการนำมาใช้ในประเทศไทยครั้งนี้จะมีส่วนสำคัญทำให้ยอดขายในประเทศไทยปีนี้เติบโต 30% เมื่อเทียบกับปีก่อน คิดเป็นรายได้ 20 ล้านบาท
กลุ่มผลิตภัณฑ์เรือธงของเอสทีเอ็ม กูดส์ ในส่วนของกระเป๋าโน้ตบุ๊กที่มีทั้งกระเป๋าสะพายข้าง และทรงเป้หรือแบ็กแพก แบ่งออกเป็นคอลเลกชันต่าง ๆ ได้แก่ สตอรี่ คอลเลคชั่น (Stories Collection) สำหรับกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไป, สตรีต คอลเลกชัน (Street Collection) สำหรับนักเดินทาง, เกรซ คอลเลกชัน (Grace Collection) สำหรับสุภาพสตรี และมิธคอลเลคชั่น (Myth Collection) ซึ่งเป็นคอลเลกชันใหม่ล่าสุดที่จะเปิดตัวในเดือนมิถุนายนปีนี้
ในส่วนของผลิตภัณฑ์เคสไอแพด ได้แก่ ดักซ์ คอลเลคชั่น (Dux Collection) คำว่า ดักซ์ (Dux) ในประเทศออสเตรเลีย แปลว่า นักเรียนดีเด่นในชั้นเรียน จึงเป็นที่มาของการนำชื่อนี้มาเป็นชื่อรุ่นของเคสไอแพด ที่มีความแข็งแกร่ง ช่วยปกป้องไอแพด ที่เป็นอุปกรณ์สำคัญ และถูกใช้งานอย่างหนักโดยเฉพาะในกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ที่ไอแพดกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพกติดตัวตลอดเวลา และมีโอกาสสูงในการทำเครื่องตกหล่น
ด้านนายไมตรี เนตรมหากุล ผู้จัดการฝ่ายขายของเอสทีเอ็ม กูดส์ ประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทเริ่มทำตลาดเอสทีเอ็ม กูดส์ มาตั้งแต่ปี 2559 และได้รับการตอบรับจากตลาดในระดับที่น่าพึงพอใจ และในปีนี้จะเป็นปีที่บริษัทต้องสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งสินค้าของบริษัทจัดเป็นสินค้าระดับพรีเมียมที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจซบเซา แต่การนำเทคโนโลยี AR มาใช้นั้น เป็นการปรับตัวให้เข้ากับยุคเทคโนโลยีที่ผู้บริโภคมักชอบศึกษาข้อมูล หรือหาผลิตภัณฑ์ทางออนไลน์เพิ่มขึ้น
“สินค้าของเรามีวางจำหน่ายในร้านค้าผลิตภัณฑ์ไอทีระดับพรีเมียมกว่า 250 ร้านค้า เนื่องจากเราเพิ่งเริ่มต้นทำตลาดในประเทศไทยอย่างจริงจังกลยุทธ์การขยายธุรกิจของเอสทีเอ็มส์ กูดส์ ในประเทศไทยในช่วงแรกนี้ เราเน้นสร้างการรับรู้ในแบรนด์ และคุณสมบัติที่โดดเด่นแตกต่าง โดยในปีนี้ เราวางแผนการทำประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด ทั้งกลุ่มแต่วัยรุ่น, นักศึกษา, ผู้ใช้งานทั่วไป, นักเดินทาง, นักกีฬา ไปจนถึงนักธุรกิจ”
สำหรับกลยุทธ์หลักในการทำตลาดของเอสทีเอ็ม กูดส์ ในประเทศไทย เน้นที่การจัดจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่าย ได้แก่ วีแกดซ์ คอร์ปอเรชั่น ที่มีร้านค้าตัวแทนจำหน่ายในเครืออยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งช่วยให้สินค้าของเอสทีเอ็ม กูดส์ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้างขึ้น คาดว่าผลิตภัณฑ์ของเอสทีเอ็ม กูดส์ จะได้รับการตอบรับที่ดีด้วยคุณสมบัติ และความแตกต่างที่ตอบโจทย์คนไทยในยุคปัจจุบัน ที่ใช้อุปกรณ์ทางเทคโนโลยีมากขึ้น โดยเน้นคุณภาพสินค้า และคุณสมบัติการป้องกันความเสียหายได้อย่างแท้จริง และยังมีความเป็นแฟชั่น มอบสไตล์ที่แตกต่างจากการใช้กระเป๋าแบบเดิม ๆ ทั่วไป.