ผู้จัดการรายวัน 360 - “เทสโก้โลตัส” เดินหน้า ออมนิแชนแนล เต็มตัวรับคอนซูเมอร์ยุค4.0 อัประบบต่างๆ หนุนช่องทางออนไลน์ เล็งเพิ่มโกรเซอรีออนไลน์อีก ปรับแผนกอาหารสด 15 สาขา เพิ่มพื้นที่ออฟไลน์อีก 40%
นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานกรรมการบริหาร เทสโก้ โลตัส บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชัน ซิสเทม จำกัด ซึ่งเป็นคนไทยคนแรกที่ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนี้ในไทย เปิดเผยว่า ในปี 2561 นี้ จะมุ่งเน้นการขยายธุรกิจทั้งในช่องออนไลน์และออฟไลน์ไปพร้อมกัน เพื่อให้เป็นออมนิแชนแนล เพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุค 4.0 ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เราจึงต้องมองหาวิธีการต่างๆ ที่จะช่วยตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในยุคปัจจุบันได้ดีที่สุด โดยเฉพาะ ความสะดวกสบาย คุณภาพ ราคา ประสบการณ์
ปัจจุบัน “เทสโก้ โลตัส” มีช่องทางค้าปลีกที่หลากหลาย คือ ไฮเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดกลาง ร้านเอ็กซ์เพรสขนาดเล็ก และเรายังมีแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เป็นของตนเอง รวมถึงช่องทางมาร์เก็ตเพลสของพันธมิตร ในปัจจุบันมีระบบคลิกแอนด์คอลเลกต์ เราพบว่า ลูกค้าจำนวนมากขึ้น หรือประมาณ 40% ของฐานลูกค้าเทสโก้ โลตัส ซื้อสินค้าผ่านหลายช่องทาง และด้วยการที่เทสโก้ โลตัส มีช่องทางหลากหลายรูปแบบ เราจึงสามารถตอบโจทย์ด้านความสะดวกสบายที่ลูกค้ามองหาจากการสามารถซื้อของได้ทุกที่และทุกเวลา
เทสโก้ โลตัส ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาประสบการณ์แบบออมนิแชนแนลที่ไร้รอยต่อ ผ่านเครื่องมือทางดิจิทัลและโปรแกรมคลับการ์ด ที่จะเชื่อมต่อช่องทางต่างๆ ของเราและเพิ่มความคุ้มค่าให้กับลูกค้าอีกด้วย มีแผนพัฒนาโปรแกรมคลับการ์ด ซึ่งมีสมาชิกกว่า 15 ล้านราย ให้มีความแข็งแกร่งขึ้น และคาดหวังที่จะให้สมาชิกคลับการ์ดทั้งหมดมาดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน เพื่อใช้บริการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ด้วย จากปัจจุบันมีผู้ดาวน์โหลดแล้ว 3.5 ล้านราย
ส่วนทิศทางการลงทุนปี 2561 นี้ จะใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่าที่ผ่านมา แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ อย่างไรก็ตาม แคมเปญโรลแบ็คที่เพิ่งเปิดตัวไป ก็ต้องใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาทต่อไตรมาส และปีนี้ตั้งเป้าหมายที่จะทำทั้งปีด้วย
ส่วนการขยายสาขาในปีนี้ นายสมพงษ์ กล่าวว่า จะไม่กำหนดเป็นจำนวนสาขา แต่ได้ปรับเปลี่ยนนโยบายเป็นการกำหนดเพิ่มปริมาณพื้นที่แทน ซึ่งปีนี้จะเพิ่มพื้นที่บริการอีก 40% หรือประมาณ 6 แสนตารางฟุต ขณะที่ปีที่แล้วเปิดสาขาใหม่รวม 67 สาขาทุกรุปแบบ แยกเป็น ไฮเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ 13 สาขา แบบตลาดโลตัส 1 สาขา และที่เหลือเป็นเทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรส 53 สาขา รวมพื้นที่บริการปัจจุบันมีประมาณ 15,472,000 ตารางฟุต จาก 1,950 สาขา ทุกรูปแบบ
ทั้งนี้ การขยายพื้นที่บริการ บางครั้งในบางพื้นที่อาจจะไม่จำเป็นต้องเปิดสโตร์แบบออฟไลน์ แม้ว่าจะไม่มีสาขาเดิมเปิดบริการก็ตาม เพราะว่าเรามีช่องทางอื่นแบบออมนิแชนแนลที่เข้าถึงลูกค้าได้ ก็ไม่จำเป็นต้องเปิด หรือหากพื้นที่ใดมีความเหมาะสมก็จะเปิดฟอร์แมทได้ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่และความต้องการของตลาด ซึ่งปีที่แล้วส่วนใหญ่จะเปิดสาขาใหม่ในพื้นที่ระดับอำเภอรองเป็นหลัก
ขณะที่สาขาเดิมจะมีการปรับปรุงใหม่กว่า 120 สาขา โดยเฉพาะในแผนกอาหารสดให้มีความทันสมัย ปรับปรุงคุณภาพสินค้าให้ดีขึ้นพร้อมบริการใหม่ๆ ซึ่งเริ่มปีที่แล้วที่สาขาอ่อนนุชแห่งแรก และปรับอีกรวม 6 สาขาา ส่วนปีนี้จะปรับเพิ่มอีก 15 สาขา ซึ่งปีที่แล้วเทสโก้โลตัส ซื้อผัก ผลไม้ จากเกษตรกรโดยตรงโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง จึงทำให้ราคาสินค้าต่ำลงและคุณภาพดีขึ้น ประมาณ 2 แสนตัน เพิ่มขึ้น 30% ส่วนปีนี้เฉพาะเดือนพฤษภาคม คาดว่า จะซื้อผลไม้จากเกษตรกรโดยตรงประมาณ 7,000 ตัน และจะเพิ่มพื้นที่การให้บริการ โกรเซอรี่ ออนไลน์ อีกในพื้นที่ที่เหมาะสม จากขณะนี้มีบริการ 4 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่
ทั้งนี้ นายสมพงษ์ กล่าวให้ความเห็นกรณีเว็บไซต์ ทีมอลล์ ของอาลีบาบา มีชาวจีนเข้ามาสั่งซื้อทุเรียนจากไทยประมาณ 80,000 ลูก ภายในเวลาแค่ 1 นาที ตามที่เป็นข่าว จะทำให้คนไทยต้องซื้อทุเรียนในราคาที่แพงขึ้นและทุเรียนอาจจะขาดตลาดด้วยหรือไม่ ว่า กรณีนี้หากมองในมุมดีก็จะพบว่า จะช่วยลดปัญหาเรื่องผลิตผลของเกษตรกรที่ล้นตลาดได้ อีกทั้งจะไม่เกิดภาวะสินค้าขาดตลาดแน่นอน เพราะเมื่อมีช่องทางการขายมากขึ้น จะยิ่งทำให้เกษตรกรต้องเร่งปรับตัวเองนำเอาเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาใช้เพื่อให้ผลผลิตที่ดีและคุณภาพสูงขึ้น ส่วนการเข้ามาของ แจ๊ค หม่า นั้นเร็วเกินไปที่จะวิเคราะห์ว่ามีผลกระทบอย่างไร แต่น่าจะเป็นโอกาสให้กับเอสเอ็มอีไทย ในการส่งสินค้าไปขายต่างประเทศได้ด้วย