ไม่ต้องลั่นกระดิ่ง-ไม่มีสัมภาษณ์ สปอติฟาย (Spotify) บริการสตรีมมิงเพลงออนไลน์ประสบความสำเร็จงดงามในการเปิดตัวครั้งแรกที่ตลาดหุ้นนิวยอร์ก นักวิเคราะห์ประเมินภาวะหุ้นพุ่งส่งให้มูลค่าบริษัทเพิ่มเป็น 26,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 8.2 แสนล้านบาท) โดยล่าสุด หุ้น Spotify พุ่งเกินราคาอ้างอิง 13%
ราคาปิดของหุ้น Spotify เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา อยู่ที่ 149.01 ดอลลาร์สหรัฐฯ สูงกว่าราคาอ้างอิง 132 เหรียญสหรัฐฯ ที่กำหนดโดยตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ราว 13% โดยราคาอ้างอิงจะขึ้นอยู่กับการซื้อขายหุ้นในตลาดเอกชน ช่วงก่อนที่จะมีการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์
ก่อนจะปิดที่ 149 ตอลลาร์สหรัฐฯ หุ้นของ Spotify เริ่มต้นวันที่ 165.90 ดอลลาร์สหรัฐฯ จุดนี้นักวิเคราะห์คาดว่า เป็นเพราะความผันผวน และความผิดแปลกจากการเปิดตัวของ Spotify เนื่องจากบริษัทเลือกเส้นทางที่ไม่ธรรมดาในการเข้าตลาด
สิ่งที่ Spotify ผู้ให้บริการสตรีมมิ่ง ซึ่งดำเนินธุรกิจภายใต้สัญลักษณ์ SPOT ทำ คือ การข้ามขั้นตอนดั้งเดิมจำนวนมากของการเสนอขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้น ผู้บริหารของ Spotify ไม่ได้จัดงานโรดโชว์ (Roadshow) เพื่อโน้มน้าวให้นักลงทุน หรือสถาบันรายใหญ่ซื้อหุ้น ขณะเดียวกัน ผู้บริหารระดับสูงของ Spotify ยังได้ยกเลิกพิธีลั่นระฆังเปิดการชุมนุมของ New York Stock Exchange ตามปกติ
“ปกติ หลายบริษัทจะลั่นระฆัง และปกติ บริษัทต่าง ๆ จะใช้เวลาทั้งวันกับการสัมภาษณ์บนพื้นที่ซื้อขายหุ้น เพื่อประกาศว่า ทำไมหุ้นของบริษัทจึงเป็นการลงทุนที่ดี” เดเนียล (Daniel Ek) ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารของ Spotify กล่าวในโพสต์บล็อกเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (2 เม.ย.) “อย่างที่เราเคยกล่าวในวันนักลงทุนของเรา โฟกัสของเราไม่ใช่การเริ่มขาย IPO แต่เราจะพยายามสร้าง วางแผน และจินตนาการในระยะยาว”
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้การเปิดตลาดของ Spotify โดดเด่นสุดขีด คือ วิธีการเสนอขายหุ้น แทนที่จะออกหุ้นใหม่ บริษัทสัญชาติสวีเดนใช้วิธี direct listing แทน หรือการจดทะเบียนโดยตรง ซึ่งจะไม่มีการขายหุ้น IPO เพิ่มทุน โดยพนักงาน และนักลงทุน จะเป็นผู้ขายหุ้นสามัญ ทำให้การซื้อขายหุ้น Spotify ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงหลังเปิดตลาดกว่าผู้ขายและผู้ซื้อจะมีโอกาสจับคู่กัน จุดนี้การรวบรวมสถิติล่าสุดชี้ว่า รายชื่อสาธารณะ หรือ public listing ของ Spotify มีขนาดใหญ่อันดับ 8 ในกลุ่มอุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยี
นิโคลัส โคลาส (Nicholas Colas) ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทวิจัยดาตาเทรกรีเสิร์ช (DataTrek Research) มองว่า เป็นสัญญาณที่ดี แม้จะเป็นแค่วันแรกของการเปิดตลาดเท่านั้น ซึ่งหากหุ้น Spotify ยังไปได้ดีในช่วงหลายสัปดาห์ข้างหน้า การใช้วิธี direct listing อาจกลายเป็นต้นแบบให้บริษัทเทคโนโลยีใช้เพื่อเข้าสู่ตลาดหุ้นสาธารณะในอนาคต โดยเฉพาะบริษัทที่มีจุดมุ่งเน้นที่ผู้บริโภค
ขณะนี้มีข่าวว่า บริษัทดาวรุ่งอย่างแอร์บีเอ็นบี (Airbnb) ลิฟต์ (Lyft) และอูเบอร์ (Uber) กำลังเข้าคิวเข้าตลาดหุ้น ทำให้หุ้นกลุ่มบริการไอทีถูกมองว่าคึกคักจนนักลงทุนต้องติดตามอย่างใกล้ชิด สำหรับกรณีของ Spotify บริการสตรีมมิ่งเพลงยอดนิยมถือเป็นผู้นำในตลาดบนฐานลูกค้ากลุ่มชำระเงินจำนวนกว่า 71 ล้านราย นำโด่งคู่แข่งที่ใกล้เคียงที่สุดอย่างแอปเปิลมิวสิก Apple Music ซึ่งมีฐานสมาชิกที่ชำระเงินค่าฟังเพลงราว 36 ล้านรายเท่านั้น