บริการสตรีมมิงเพลงออนไลน์ “แอปเปิลมิวสิก” (Apple Music) โชว์ตัวเลขผู้ใช้โตแรง ระบุสมาชิกบริการที่ยอมชำระเงินรายเดือน-รายปี มีมากกว่า 38 ล้านราย เพิ่มขึ้นจาก 36 ล้านรายเมื่อเดือน ก.พ.
สถิติผู้ใช้บริการ Apple Music ที่เติบโตถือเป็นความคืบหน้าล่าสุดในตลาดความบันเทิงออนไลน์ที่มีผู้เล่นอย่างแอมะซอน (Amazon.com Inc), อัลฟาเบ็ต (Alphabet Inc) และค่ายอื่น โดยสถิติฐานลูกค้าผู้เสียค่าบริการกับ Apple Music แสดงว่า “บริการสตรีมเพลง” กลายเป็นรูปแบบหลักของธุรกิจการซื้อขายเพลงแบบต้องเสียค่าใช้จ่าย
ข้อมูลล่าสุดระบุว่า จำนวนลูกค้าของ Apple Music ยังเป็นรองสปอติฟาย (Spotify) ที่มีจำนวนสมาชิกพรีเมียมราว 71 ล้านรายทั่วโลก (สถิติปลายปี 2017) โดยขณะนี้ Spotify ยังคงเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเพลงออนไลน์ และมีข่าวว่า Spotify วางแผนเสนอขายหุ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าที่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ภายใต้สัญลักษณ์ SPOT
รายงานระบุว่า “เอ็ดดี้ คิว” (Eddy Cue) รองประธานอาวุโสฝ่ายซอฟต์แวร์และบริการอินเทอร์เน็ต ซึ่งดูแล Apple Music คือ ผู้เปิดเผยสถิติสมาชิกล่าสุดสำหรับ Apple Music ที่งานเซาท์บายเซาท์เวสต์ (South by Southwest festival) ในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา
สถิติลูกค้า Apple Music ถือว่ามากกว่าเมื่อเทียบกับบริการ Amazon Music Unlimited ซึ่งข้อมูลระบุว่า มีสมาชิกประเภทจ่ายเงินราว 16 ล้านราย ขณะที่บริการของแพนโดรา (Pandora Media Inc) มีสมาชิกรวมทั้งสิ้น 5.48 ล้านราย โดยกูเกิล (Google) ไม่เปิดเผยจำนวนสมาชิกบริการแบบชำระเงินสำหรับบริการ “กูเกิลเพลย์มิวสิก” (Google Play Music)
ปัจจุบัน Apple, Spotify, Google และค่ายอื่นคิดค่าธรรมเนียม 9.99 เหรียญสหรัฐฯ ต่อเดือนสำหรับการฟังเพลงสตรีมมิ่ง โดย Amazon ให้บริการแก่สมาชิกที่ชำระค่าสมาชิก Prime ซึ่งครอบคลุมบริการจัดส่งสินค้าด่วน, เนื้อหาประเภทวิดีโอ และสิทธิประโยชน์อื่น ราคา 7.99 เหรียญสหรัฐฯ ต่อเดือน
นอกเหนือจากบริการแบบชำระเงินแล้ว Spotify ยังมีบริการฟรีที่มีโฆษณา ซึ่งทำให้ผู้ใช้เข้าสู่บริการได้ทั่วถึง ขณะที่ Apple Music ไม่มีเวอร์ชันโฆษณาแต่เปิดให้ทดลองใช้ฟรี 3 เดือน เพื่อดึงดูดลูกค้า
จุดนี้ ผู้บริหาร Apple กล่าวว่า ปัจจุบัน จำนวนสมาชิกที่ทดลองใช้ฟรีกับ Apple มีราว 8 ล้านคน ถือเป็นครั้งแรกที่ Apple เปิดเผยจำนวนผู้ทดลองใช้งาน.