ทรู คอร์ปอเรชั่น รายงานผลการดำเนินงานที่เติบโต และสามารถทำกำไรได้ 5.4 พันล้านบาทในไตรมาส 4 และ 2.3 พันล้านบาท สำหรับทั้งปี 2560 จากรายได้ และ EBITDA ที่เพิ่มขึ้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผล จำนวนทั้งสิ้นประมาณ 1 พันล้านบาท คิดเป็น 0.031 บาทต่อหุ้น โดยจะนำเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในเดือนเมษายนนี้
สำหรับในปี 2560 กลุ่มทรู มีรายได้จากการให้บริการโดยรวมเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% จากปีก่อนหน้า เป็นจำนวน 9.7 หมื่นล้านบาท จากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของทั้งธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ และธุรกิจบรอดแบนด์ อินเทอร์เน็ต
ขณะที่ EBITDA ของกลุ่มเติบโตอย่างมีนัยสำคัญถึง 59% จากปีก่อนหน้า เป็น 3.99 หมื่นล้านบาท ซึ่งหากไม่รวมกำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์ให้แก่กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (Digital Telecommunications Infrastructure Fund หรือ DIF) EBITDA ของกลุ่มทรู เพิ่มขึ้น 36% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เป็นจำนวน 3.4 หมื่นล้านบาท
รายได้ และ EBITDA ที่มีจำนวนสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์นี้ ผนวกกับความมุ่งมั่นในการลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานทั่วทั้งองค์กร และผลสำเร็จจากการจำหน่ายสินทรัพย์ให้แก่กองทุน DIF ส่งผลให้กลุ่มทรู รายงานผลกำไรสุทธิ จำนวน 2.3 พันล้านบาท ในปี 2560 พร้อมเติบโตสร้างผลกำไรอย่างมั่นคง และยั่งยืนต่อไป
นายวิเชาวน์ รักพงษ์ไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) ด้านปฏิบัติการ กล่าวว่า การเดินหน้าสร้างเครือข่ายประสิทธิภาพสูงสุดทั่วประเทศด้วยมาตรฐานระดับโลก และเทคโนโลยีอันล้ำสมัย พร้อมเพิ่มประสบการณ์การใช้งานของผู้บริโภคให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้รายได้ และฐานลูกค้าของกลุ่มทรู เติบโตเข้มแข็ง
“การปลูกฝังแนวคิดด้านดิจิทัล และความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในองค์กร เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้กลุ่มทรู มีความพร้อม และสามารถปรับตัวให้รองรับความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้ ซึ่งพัฒนาการเหล่านี้ ควบคู่ไปกับความมุ่งมั่นในการลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในหลากหลายด้านทั่วทั้งองค์กร จะสร้างรากฐานอันแข็งแกร่งให้กลุ่มทรู ก้าวเติบโตต่อไปในปี 2561 นี้ และตลอดไป”
ดร. กิตติณัฐ ทีคะวรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) ด้านการพาณิชย์ ให้ข้อมูลว่า ในปี 2560 ที่ผ่านมา ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลุ่มเติบโตสูงเหนืออุตสาหกรรมเป็นอย่างมาก และทรูมูฟ เอช เป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียวที่มีฐานลูกค้าเติบโต โดยมีจำนวนผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิ 2.7 ล้านราย
ขณะที่ผู้ให้บริการรายใหญ่รายอื่นมีฐานลูกค้ารวมกันลดลงสุทธิ 2.8 ล้านราย ทำให้รายได้จากการให้บริการของทรูมูฟ เอช เติบโตสูงถึง 17.3% จากปีก่อนหน้า ซึ่งผลักดันให้รายได้จากการให้บริการของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ของทั้งอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 5.7% ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตรายปีที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2557
ขณะเดียวกัน ธุรกิจบรอดแบนด์ อินเทอร์เน็ตของทรูออนไลน์ ยังคงเติบโตแข็งแกร่ง โดยทั้งรายได้บรอดแบนด์สำหรับกลุ่มลูกค้าทั่วไป และฐานผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นสูงในอัตราเลขสองหลักจากปีก่อนหน้า อันเป็นผลจากความตั้งใจที่จะมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าผ่านแคมเปญไฟเบอร์ และการปรับเพิ่มความเร็วอินเทอร์เน็ต จนปัจจุบัน ลูกค้าบรอดแบนด์ของทรูออนไลน์ล้วนใช้บริการบนโครงข่าย FTTx
ส่วนทรูวิชั่นส์ มุ่งเน้นในการคัดสรรคอนเทนต์คุณภาพครบถ้วน เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถรับชมผ่านหลากหลายแพลตฟอร์ม ตอกย้ำความเป็นผู้นำคอนเวอร์เจนซ์ของกลุ่มทรู อย่างแท้จริง นอกเหนือจากการสรรหามูลค่าเพิ่มให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่องแล้ว กลุ่มทรู ยังให้ความสำคัญกับคอนเทนต์ดิจิทัล และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ภายใต้ TrueID การสร้างสรรนวัตกรรม และโซลูชัน Internet of Things หรือไอโอที ซึ่งจะเป็นรากฐานอันสำคัญให้กลุ่มทรู คงความเป็นที่หนึ่งในใจลูกค้า และเติบโตอย่างเข้มแข็งในยุค Thailand 4.0
***ทรูมูฟ เอช ลูกค้าเพิ่ม 2.7 ล้านราย
จุดแข็งของทรูมูฟ เอช ด้านเครือข่ายประสิทธิภาพสูงสุดและครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเฉพาะบริการ 4.5G/4G ตอบโจทย์ความต้องการใช้บริการโมบายล์อินเทอร์เน็ตและสตรีมมิ่งของผู้บริโภคได้ตรงจุด อีกทั้งการมุ่งนำเสนอแคมเปญดีไวซ์ที่คุ้มค่าร่วมกับค่าบริการ และแพกเกจด้านดาต้าของทรูมูฟ เอช ได้รับผลตอบรับอย่างล้นหลามทั้งในกลุ่มลูกค้าระบบรายเดือน และระบบเติมเงิน
ทำให้ทรูมูฟ เอช เติบโตสูงและมีจำนวนผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิ 2.7 ล้านราย ในปี 2560 ซึ่งขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มขึ้นเป็น 27.2 ล้านราย ประกอบด้วยลูกค้าระบบเติมเงิน 20.3 ล้านราย และลูกค้าระบบรายเดือน 6.9 ล้านราย
โดยรายได้จากบริการนอนวอยซ์ ที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 24.7% ส่งผลให้รายได้จากการให้บริการของทรูมูฟ เอช เติบโต 17.3% ในปี 2560 ซึ่งผลักดันให้รายได้จากการให้บริการของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ของทั้งอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 5.7% เมื่อเทียบกับปี 2559 ขณะที่รายได้จากการให้บริการของผู้ให้บริการรายใหญ่รายอื่นรวมกันเพิ่มขึ้นเพียง 2.1% จากปีก่อนหน้า และมีแนวโน้มที่รายได้จะเติบโตต่อไป ตามความต้องการใช้งานดาต้าของผู้บริโภคที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
***ทรูออนไลน์ บนโครงข่าย FTTx
ขณะที่ทรูออนไลน์ จะเร่งขยายโครงข่ายไฟเบอร์อย่างต่อเนื่อง ทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล และในพื้นที่ต่างจังหวัด พร้อมเดินหน้าสนับสนุนแผนการติดตั้งอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์สู่ระดับหมู่บ้านของประเทศ ลดความเหลื่อมล้ำทางเทคโนโลยีและช่องว่างทางดิจิทัลของผู้คนในสังคม ผ่านโครงข่ายบรอดแบนด์ของกลุ่มที่ครอบคลุมแล้วกว่า 13 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ
พัฒนาการเหล่านี้ ผลักดันให้ทั้งรายได้และฐานลูกค้าบริการบรอดแบนด์ของทรูออนไลน์เพิ่มขึ้นสูงในอัตราเลขสองหลักจากปีก่อนหน้า ตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งนี้ ในปี 2560 ทรูออนไลน์ มีฐานลูกค้าบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นสุทธิมากกว่า 385,000 ราย เป็น 3.2 ล้านราย ณ สิ้นปี ซึ่งล้วนใช้บริการบนโครงข่าย FTTx ทั้งสิ้น
***ทรูวิชั่นส์ เสริมความแข็งแกรงด้วยดิจิทัลแพลตฟอร์ม
สุดท้าย ทรูวิชั่นส์ ยังคงมุ่งมั่นในการเพิ่มประสบการณ์การรับชมโทรทัศน์ของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ด้วยการสรรหาคอนเทนต์คุณภาพสูงที่หลากหลาย และครบครัน การถ่ายทอดสดรายการชั้นนำ และความคมชัดของภาพระดับเอชดี พร้อมพัฒนาช่องรายการคุณภาพที่ผลิตขึ้นเอง เพื่อตอบสนองความต้องการรับชมของผู้บริโภคชาวไทยได้ดียิ่งขึ้น
คอนเทนต์คุณภาพเหล่านี้ได้ถูกถ่ายทอดผ่านหลากหลายแพลตฟอร์มของกลุ่มทรู ทั้งอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบมีสายและไร้สาย โทรทัศน์ และดิจิทัลแพลตฟอร์ม เพื่อเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภคในการเข้าถึงคอนเทนต์ได้ทุกที่ ทุกเวลา และทุกอุปกรณ์การรับชม สิ่งเหล่านี้ ผสานกับแคมเปญคอนเวอร์เจนซ์ที่คุ้มค่าร่วมกับกลุ่มทรู ส่งผลให้รายได้ค่าสมาชิกและจำนวนผู้สมัครสมาชิกทรูวิชั่นส์เติบโต โดย ณ สิ้นปี 2560 ทรูวิชั่นส์ มีฐานลูกค้ารวมทั้งสิ้นเป็น 4 ล้านราย