ซีอีโอเฟซบุ๊ก (Facebook Inc) เครือข่ายสังคมอันดับ 1 ของโลกประกาศเป้าหมายสำหรับปี 2018 เมื่อวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา รอบนี้ไม่ใช่เป้าหมายอย่างการกินเนื้อที่ตัวเองฆ่าเท่านั้นหรือการสร้างผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ แต่เป็นเป้าหมายที่เกี่ยวกับธุรกิจ ซึ่งเข้าข่ายงานที่ตัวเขาเองต้องทำอยู่แล้ว นั่นคือ การแก้ไขปัญหาบน Facebook
สื่ออเมริกันวิเคราะห์ว่า เป้าหมายประจำปี 2018 ของมาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) สะท้อนว่า ซีอีโอหนุ่มวัย 33 ปี ต้องการทำให้ธุรกิจที่เขาร่วมก่อตั้งขึ้น มีฐานรากที่มั่นคงมากยิ่งขึ้น ทำให้เป้าหมายปีนี้ต่างจากเป้าหมายทุกปีที่ถูกประกาศออกมาตั้งแต่ปี 2009 ซึ่งล้วนเป็นเป้าหมายประจำปีที่มุ่งพัฒนาตัว Zuckerberg เอง
อย่างไรก็ตาม Zuckerberg ให้เหตุผลว่า เป้าหมายนี้เกิดขึ้นเพื่อชาวโลก โดยบอกว่า วันนี้โลกมีทั้งความกระวนกระวาย และความแตกแยก เฟซบุ๊กจึงมีภารกิจที่ต้องทำมากมาย
Zuckerberg อธิบายว่า สถานการณ์ขณะนี้ของ Facebook เหมือนกำลังยืนอยู่ที่ทางแยก ตัวเขาจึงต้องให้ความสนใจที่ Facebook เป็นพิเศษ โดยเรื่องที่ Zuckerberg ชี้ว่าเป็นเรื่องที่ต้อง “ซ่อม” บน Facebook ได้แก่วิกฤต hate speech หรือการแพร่กระจายของคำพูดแสดงความเกลียดชังบนสื่อสังคม, การใช้ Facebook โดยรัสเซียและประเทศอื่นเพื่อเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อ และเสียงวิจารณ์ว่า แพลตฟอร์มนี้สามารถทำให้เสียเวลา หรือเสพติดได้
ประเด็น hate speech นั้น ถือว่าร้อนแรง เพราะล่าสุด มีกฎหมายใหม่ในเยอรมนี ที่ต้องการให้เครือข่ายสังคม เช่น Facebook และ Twitter Inc ลบ hate speech คำพูดแสดงความเกลียดชังที่ถูกเผยแพร่ออนไลน์ ซึ่งหากไม่ดำเนินการจะถูกปรับเป็นเงินมหาศาลสุดโหด
ด้านสหรัฐอเมริกา ฝ่ายนิติบัญญัติเมืองลุงแซมนั้น ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ Facebook เรื่องไม่สามารถป้องกันไม่ให้ผู้ปฏิบัติการรัสเซียใช้แพลตฟอร์ม Facebook เข้าแทรกแซงในการเลือกตั้งสหรัฐฯ ปี 2016
นอกจากนี้ Facebook ยังถูกสาธารณชนตั้งคำถามว่า การใช้ Facebook มีความเสี่ยง ทำให้ผู้ใช้มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะกับสุขภาพกายและจิตหรือไม่ ทั้งหมดนี้ทำให้ Zuckerberg กล่าวว่า “ความท้าทายส่วนตัวสำหรับ 2018 คือ การมุ่งเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาที่สำคัญเหล่านี้”
เจ้าพ่อ Facebook ยอมรับว่า เป้าหมายปีนี้อาจดูไม่เหมือนเป็นการท้าทายส่วนตัว แต่เขาก็จะได้เรียนรู้อย่างมากจากเป้าหมายปีนี้ แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยแนวทางแก้ปัญหาที่กำลังจะทำ
“Facebook จะไม่ป้องกันความผิดพลาด หรือการละเมิดทั้งหมด” Zuckerberg กล่าว “แต่ปัจจุบัน เรามีข้อผิดพลาดในการบังคับใช้นโยบายของ Facebook มากเกินไป” รวมถึงการป้องกันการใช้ Facebook เป็นเครื่องมือในทางที่ผิด ซึ่งเจ้าพ่อ Facebook มองว่ายังมีช่องโหว่
ทั้ง 3 ประเด็นที่ Zuckerberg กล่าวถึง ล้วนมีผลกระทบโดยตรงกับสาธารณชน นำไปสู่ความท้าทายให้ภาครัฐของหลายประเทศต้องออกกฎหมายกำกับดูแล แต่ทั้งหมดไม่ได้มีผลกับรายได้ Facebook มากนัก เพราะสถิติล่าสุด คือ Facebook มีรายได้สุทธิ 1.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ บนยอดขาย 3.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วง 12 เดือนที่สิ้นสุดในวันที่ 30 กันยายน
สำหรับ Zuckerberg นั้นเป็นบุคคลร่ำรวยอันดับ 4 ของโลกประจำปี 2017 มีมูลค่าทรัพย์สินรวมกว่า 7.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 2.4 ล้านล้านบาท ในปีก่อนหน้านี้ Zuckerberg ตั้งเป้าหมายท้าทายตัวเองด้วยการเรียนรู้ภาษาจีนกลาง การอ่านหนังสือ 2 เล่มต่อเดือน และการเดินทางไปยังพื้นที่ในสหรัฐฯ ที่เขาไม่เคยเข้าไปมาก่อน ทุกเป้าหมายท้าทายตัวเองล้วนทำให้ Zuckerberg พัฒนาตัวเอง เป็นแรงบันดาลใจให้หลายคนบนโลกลุกขึ้นมาท้าทายตัวเอง ด้วยการกำหนดเป้าหมายประจำปีบ้าง