ถือเป็นอีกหนึ่งการพรีออร์เดอร์ที่น่าตื่นตาตื่นใจเป็นประวัติการณ์สำหรับไอโฟนเท็น (iPhone X) เมื่อแอปเปิล (Apple) ออกมาประกาศแล้วว่า ผู้ที่จะได้รับไอโฟนเท็นล็อตแรกนั้นเต็มเรียบร้อยแล้วภายในเวลาไม่กี่นาทีหลังจากเปิดให้พรีออร์เดอร์ ส่วนล็อตต่อไปก็กระเถิบออกไปอีกสามสัปดาห์ และห้าสัปดาห์ตามลำดับ หรือประมาณกลางเดือนธันวาคมเลยทีเดียว ซึ่งในจุดนี้ได้ทำให้เกิดเสียงบ่นอื้ออึงถึงความไม่พร้อมของแอปเปิลทั้งในหมู่นักลงทุน และผู้ซื้อตามมามากมาย
นักลงทุนได้เคยแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับการผลิตไอโฟนเท็น ที่มีการใส่เทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น การสแกนใบหน้า ฯลฯ เข้ามามากมายจนอาจทำให้แอปเปิลไม่มีสินค้าจะขายได้เพียงพอต่อความต้องการ และทำให้หุ้นของแอปเปิลตกลงอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งในคนกลุ่มนี้ได้รวมถึงนักเขียนจากฟอร์บส์ (Forbes) อย่างแอนโทนี่ คาร์กซ์ (Anthony Karcz) ก็ได้ออกมาแสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับการเปิดพรีออเดอร์ของไอโฟนเท็นเช่นกัน เนื่องจากเขาเองนั้นได้ตื่นมาแต่เช้ามืดเพื่อทำการพรีออเดอร์ โดยเขาได้กดรีเฟรชหน้าจออย่างต่อเนื่อง เพื่อหวังว่าจะได้รับไอโฟนเท็นเป็นคนแรก ๆ ของปี ทว่า เมื่ออีเมลยืนยันจากแอปเปิลส่งมาถึงเขานั้น ปรากฏว่าเขาคือหนึ่งในผู้ที่ได้รับไอโฟนเท็น ในสัปดาห์ที่ 5 นับจากนี้ หรือก็คือล็อตกลางเดือนธันวาคม ซึ่งทำให้นักเขียนรายนี้แสดงความไม่พอใจอย่างมาก
ส่วนด้านของนักลงทุนนั้น นักวิเคราะห์อย่างแอนดี้ ฮาร์กรีฟ จาก KeyBanc มองอีกมุมว่า นักลงทุนไม่ควรกังวลกับกรณีที่แอปเปิลมีสินค้าไม่มากพอที่จะรองรับต่อความต้องการของตลาด เพราะมันก็ยังดีกว่าการที่ไม่มีใครสนใจจะซื้อไอโฟนเท็น
ส่วนอีเบย์ (eBay) นับตั้งแต่มีการเปิดให้พรีออเดอร์ไอโฟนเท็น อีเบย์ก็ฮอตขึ้นมาทันใด เพราะมีคนนำไอโฟนเท็น ที่ตนเองพรีออเดอร์มาได้มาประกาศขายกันอย่างล้นหลาม ด้วยราคาที่ถีบตัวขึ้นไปหลายระดับตั้งแต่ 1,300-1,500 เหรียญสหรัฐฯ เลยทีเดียว โดยในอีเบย์นั้น พบว่าภายใน 45 นาทีหลังจากการพรีออเดอร์ไอโฟนเท็นเริ่มขึ้น ก็มีการโพสต์ขายเอกสารรับรองว่าจะได้ไอโฟนเท็นในวันที่ 10-17 พฤศจิกายนแน่ ๆ ออกมาแล้วเกือบ 5,000 รายการ แต่ก็ยังถือว่าห่างไกลกับจำนวนไอโฟนเท็น ที่คาดว่าแอปเปิลเตรียมเอาไว้ในวันที่ 3 พฤศจิกายน ในหลักล้านชิ้นอยู่พอสมควร
รายงานจากซีเน็ต ระบุว่า จุดที่น่าเสียดายอีกประการหนึ่ง คือ แอปเปิลไม่มีการเปิดเผยว่า บริษัทนั้นตกลงแล้วมีสินค้าล็อตแรกอยู่กี่ชิ้นกันแน่ มีแค่เพียงการคาดการณ์จากนักวิเคราะห์สำนักต่าง ๆ ดังนั้น การที่พรีออเดอร์จบลงอย่างรวดเร็ว จึงไม่อาจใช้เป็นเครื่องการันตีความฮอตของไอโฟนเท็นได้นั่นเอง
สำหรับปัญหาในการผลิตไอโฟนเท็นนั้น หลัก ๆ เกิดจากส่วนของเทคโนโลยีการจดจำใบหน้า (Facial Recognition) ที่อนุญาตให้ผู้ใช้งานปลดล็อกสมาร์ทโฟนได้เพียงการสแกนใบหน้า ซึ่งปัญหาตรงจุดนี้ทำให้การผลิตต้องล่าช้า และซีอีโอแอปเปิล ทิม คุก ได้เคยให้สัมภาษณ์เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุนไว้ก่อนหน้านี้ว่า บริษัทกำลังทำงานอย่างหนัก (สำหรับไอโฟนเท็น) ด้วย