ดูไบ เปิดทดสอบการตรวจคนเข้าเมืองโดยใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้า (Facial Recognition) แล้ว โดยคาดว่าจะช่วยเพิ่มความเร็วให้กับการตรวจคนเข้าเมืองได้มากขึ้น
โดยผลงานการพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวเป็นของสตาร์ทอัปจากอังกฤษชื่อ ObjectTech ที่ทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐของดูไบ เพื่อติดตั้งอุโมงค์ไบโอเมทริกซ์ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีการสแกนแบบ 3 มิติสำหรับสแกนใบหน้าของผู้คนที่ต้องการเข้าเมือง และอาจต้องทำงานร่วมกับพาสปอร์ตดิจิตอล (พาสปอร์ตที่มีชิปบรรจุข้อมูล) การสแกนลายนิ้วมือ และการสแกนม่านตา
“การยืนยันตัวบุคคลวิธีนี้เหมาะกับคนในยุคดิจิตอล เพราะมันทำให้การเดินทางไปต่างประเทศเร็ว และปลอดภัยขึ้น” พอล เฟอร์ริส ผู้ก่อตั้ง และซีอีโอของ ObjectTech กล่าว
โดยดิจิตอลพาสปอร์ตของ ObjectTech นั้นใช้บลอกเชนเทคโนโลยี ซึ่งเท่ากับว่า ผู้เป็นเจ้าของสามารถควบคุมได้ว่า ข้อมูลใดที่จะถูกเพิ่มลงไป และใครที่จะสามารถเห็นข้อมูลนั้นได้ โดยพาสปอร์ตของผู้ที่เป็นพลเมืองสามารถใส่ข้อมูลทางการเงิน ที่อยู่ หรือโลเคชันได้จากโทรศัพท์มือถือเลย
ส่วนการสแกนใบหน้าที่สนามบินนั้น จะใช้เทคโนโลยี LIDAR ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการสแกนที่ใช้ในรถอัจฉริยะไร้คนขับของกูเกิล (Google)
โดยโครงการนำร่องของดูไบ คาดว่าจะเริ่มทดสอบได้ภายในปีนี้
ส่วนออสเตรเลีย ก็วางแผนจะทดสอบพาสปอร์ตแบบ Contactless เช่นกัน ซึ่งระบบดังกล่าวตรวจสอบโดยใช้ข้อมูลไบโอเมทริกซ์ และจะทำให้ผู้ที่ต้องการผ่านการตรวจคนเข้าเมืองสามารถเดินออกมาได้เหมือนกับอยู่ในสนามบินในประเทศเลยทีเดียว โดยทางออสเตรเลีย ระบุว่า ระบบนี้จะเริ่มใช้งานในเดือนมีนาคม 2019
ที่สำคัญ การพัฒนาครั้งนี้อาจทำให้ประเทศยักษ์ใหญ่บางแห่งที่ยังมีการตรวจตราที่เข้มงวด และสร้างความลำบากให้กับนักเดินทางได้ลองหันมาสังเกตประเทศอื่นๆ รอบโลกกันบ้างก็เป็นได้