ผู้จัดคอนเสิร์ตในญี่ปุ่นจะใช้การแสกนใบหน้าแฟนเพลงที่เข้าชมคอนเสิร์ต หลังบัตรเข้ามชมการแสดงของวงดนตรีชื่อดังต่างๆ ถูกเก็งกำไรจนราคาเพิ่มเป็น 10เท่าตัว
บัตรชมคอนเสิร์ตวง Arashi วงดนตรีชื่อดังของญี่ปุ่น ซึ่งมีราคาเพียง 1หมื่นเยน แต่กลับขายหมดอย่างรวดเร็ว และถูกเก็งกำไรขายต่อทางอินเตอร์เน็ตและช่องทางต่างๆ แพงนับแสนเยน
Johnny & Associates บริษัทผู้จัดคอนเสิร์ตศิลปินดังอย่ง Arashi และ SMAP ประกาศว่าจะใช้ระบบ “สแกนใบหน้า” โดยผู้ที่จะซื้อบัตรชมคอนเสิร์ตจะต้องแนบรูปถ่ายด้วย เพื่อจะตรวจทานกับตัวจริงก่อนผ่านประตูเข้าชมคอนเสิร์ต
บัตรคอนเสิร์ตวงดนตรีดังๆในญี่ปุ่นถือว่าหายากอย่างยิ่ง เนื่องจากไม่เพียงหนุ่มสาวญี่ปุ่นที่ต้องการจับจองเท่านั้น แต่แฟนเพลงจากเพื่อนบ้านอย่างเกาหลีใต้และไต้หวันจำนวนไม่น้อยก็ลงทุนบินมาชมคอนเสิร์ต ทำให้วงดนตรีดังๆต้องใช้ระบบลงทะเบียนสมาชิกแฟนคลับเพื่อจับฉลากสิทธิ์ซื้อบัตรคอนเสิร์ต แต่บรรดาแฟนเพลงก็ไม่ได้ย่อท้อ หลายคนใช้ชื่อของเพื่อนฝูงญาติพี่น้องลงทะเบียนเพื่อเพิ่มโอกาสลุ้นใกล้ชิดกับศิลปินในดวงใจ
บรรดาแฟนคลับที่พลาดหวังจึงต้องใช้ช่องทางอื่นในการได้มาซึ่งบัตรคอนเสิร์ต ซึ่ง “ตั๋วผี” เหล่านี้มีราคาแพงขึ้นนับ 10เท่าตัว ทำให้ทางบริษัทผู้จัดคอนเสิร์ตต้องหามาตรการปราบปรามตั๋วผีเหล่านี้
มาตรการสแกนใบหน้าจะเริ่มใช้กับทัวร์คอนเสิร์ตของวง Arashi ที่จะเริ่มขึ้นในจังหวัดฟุกุอิในวันที่ 23เมษายนนี้ และอีกหลายบริษัทบันเทิงก็ระบุว่าจะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้เช่นเดียวกัน โดยผู้ที่จะเข้าชมคอนเสิร์ตจะต้องซื้อบัตรจากช่องทางที่เป็นทางการเท่านั้น
ด้านบรรดาแฟนคลับมีทั้งที่เห็นด้วยกับมาตรการปราบปรามการเก็งราคาตั๋วผี แต่ก็มีกลุ่มที่ไมเห็นด้วย โดยระบุว่าเป็นการตัดโอกาสแฟนคลับที่พลาดหวัง ถึงแม้จะยินดีจ่ายในราคาแพงกว่าก็ตาม นอกจากนี้ผู้ที่ซื้อบัตรแล้วแต่ไม่สามารถไปชมคอนเสิร์ตได้ ยังไม่สามารถนำบัตรไปขายต่อได้เช่นเดียวกัน
NEC Corp ผู้พัฒนาเทคโนโลยีสแกนใบหน้า ระบุว่า โอกาสผิดพลาดมีเพียง 3 ใน1,000 เนื่องจากทางบริษัทใช้เวลาพัฒนาเทคโนโลยีนี้ถึง 6ปี และยังจะปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง.