โมโนแม็กซ์ (MONO MAXXX) ในเครือโมโนกรุ๊ปเปิดตัวแอปพลิเคชัน “MONOMAXXX VR” ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ วอนรัฐช่วยกำกับดูแล OTT ให้มีประสิทธิภาพ หนุนอุตสาหกรรมให้อยู่รอด เผยครึ่งปีแรกกวาดรายได้แล้วเกินครึ่ง เตรียมขนคอนเทนต์ชุดใหม่ลงตลาด หลังดีลคอนเทนต์จากฝั่งสหรัฐอเมริกาเข้าคลังหนังเต็มพิกัด ส่วนครึ่งปีหลังอัดคอนเทนต์เต็มที่ส่งซีรีส์สุดฮิต CSI ลงชิงฐานคนดูเพิ่ม
นายปฐมพงศ์ สิรชัยรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมโน ฟิล์ม จำกัด ในเครือโมโน กรุ๊ป กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา โมโนแม็กซ์รุกตลาดดูหนังออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มียอดสมาชิกเพิ่มมากขึ้น โดยมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนถึง 61% ซึ่งมาจากกลุ่มผู้ใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนทั้ง iOS และ Android เป็นไปตามแนวโน้มของจำนวนสมาร์ทโฟนในประเทศไทยที่มีจำนวนผู้ใช้กว่า 20 ล้านเลขหมาย ประกอบกับการขยายโครงข่าย 4G ของผู้ให้บริการมือถือ จากปัจจัยเหล่านี้เอื้อประโยชน์ต่อการเติบโตของธุรกิจดูหนังออนไลน์ของบริษัทเป็นอย่างมาก และจากเป้าหมายรายได้ที่ตั้งไว้ในปี 2560 คาดว่าจะทำได้เกินเป้าหมาย เนื่องจากครึ่งปีที่ผ่านมา โมโนแม็กซ์มีสัดส่วนของรายได้เข้ามาแล้วถึง 52% ของรายได้ที่ตั้งไว้
ส่วนแผนธุรกิจในครึ่งปีหลัง โมโนจะส่งคอนเทนต์ระดับคุณภาพให้ผู้ชมได้ดูที่นี่ที่เดียว เช่น sing street หนังโรแมนติกเดินเรื่องด้วยเสียงเพลงที่มีกระแสดีที่สุดเทียบเท่ากับ once และ begin again อีกทั้งยังมีหนังดังคุณภาพที่หาดูไม่ได้จากที่อื่น เช่น The gift, still alice หรือหนังบู๊สุดมัน เช่น SPL 2 และเสริมทัพด้วยซีรีส์คุณภาพคับจอที่ถ่ายทำเทียบเท่าภาพยนตร์ แบบครบทุกตอนไม่ต้องรอนาน เช่น ตำนานสมเด็จพระนเรศวร เดอะซีรีส์, หัวใจและไกปืน และตาสัมผัสผี (Diamond Eyes) และเพื่อเพิ่มอรรถรสของคอซีรีส์มากยิ่งขึ้น รวมทั้งคอนเทนต์ซีรีส์ต่างประเทศ เช่น ซีรีส์ฝั่งสหรัฐอเมริกาแนวสืบสวนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากอย่าง CSI Vegas, CSI Miami
นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับชมให้ดียิ่งขึ้น โมโนได้พัฒนาแอปพลิเคชัน MONOMAXXX VR ซึ่งเป็นมิติใหม่แห่งแอปดูหนัง ให้ภาพคมชัด สมจริง ตอบสนองทุกความบันเทิง กับคุณภาพระดับ HD ที่เลือกรับชมได้ทั้งพากย์ไทย และ Soundtrack อีกด้วย และยังจับมือร่วมกับพาร์ตเนอร์กลุ่ม Smart TV ได้แก่ LG, Sony, Panasonic, Samsung กลุ่มโอเปอเรเตอร์มือถือ อย่าง AIS, DTAC และ True รวมทั้งกลุ่ม Co-Promotion ได้แก่ 3BB, BBL, MCard, Grab Taxi และ Airplay เพื่อทำการตลาดร่วมกัน
ผู้บริหารโมโนแม็กซ์ กล่าวถึงอุปสรรค และปัญหาในการทำตลาดว่า ต้องยอมรับว่า ปัญหาอันดับ 1 คือ การละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งตอนนี้กำลังเป็นกระแสในเรื่องที่ กสทช. จะเข้ามาควบคุม OTT ซึ่งโมโนแม็กซ์ ถือเป็นผู้ประกอบการ OTT เต็มตัวที่ได้รับผลกระทบจากการละเมิด การที่ กสทช. จะดำเนินการให้ผู้ให้บริการ OTT เข้าสู่ระบบ มีการเข้ามาควบคุม และมีกฎลงโทษที่ชัดเจน มีหน่วยงานที่คอยกำกับดูแล ก็จะช่วยให้ผู้ประกอบการประเภท OTT มีแนวโน้มเติบโตขึ้นได้อีกอย่างแน่นอน
“ปัจจุบัน ปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอย่างมาก คือ เรื่องเว็บไซต์ที่ผิดลิขสิทธิ์ การเข้ามาควบคุมดูแลของ กสทช. จะสามารถป้องกันและปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจะช่วยให้อุตสาหกรรมหนังบ้านเรามีการแข่งขัน และมีผู้ผลิตหน้าใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้นด้วย”
สำหรับในประเทศไทย การให้บริการวิดีโอออนดีมานด์มีทิศทางการเติบโตสูงขึ้นแน่นอน ด้วยปัจจัยของอุปกรณ์ที่รองรับ และเครือข่ายที่มีการขยายตัวจากเมืองสู่จังหวัดต่าง ๆ ส่งผลให้ฐานผู้ใช้บริการมีการขยายตัวตามขึ้น ซึ่งโมโนแม็กซ์ ยังครองอันดับต้น ๆ จากผู้เล่น 6-7 รายในประเทศ ด้วยจุดแข็งในเรื่องราคาเพียง 129 บาทต่อเดือน จะสามารถดูได้หมดทุกเรื่องทุกหมวด บวกกับคอนเทนต์ใหม่ที่เลือกมาให้สมาชิกได้ชมในครึ่งปีหลังที่มีความหลากหลาย และมีปริมาณมากกว่าทุกเจ้าในตลาด
