ผู้จัดการรายวัน 360 - “เดอะมอลล์” ปรับกลยุทธ์รุกเพื่อรับยุคไทยแลนด์ 4.0 เผยกลยุทธ์การตลาดแบบทุกมิติ มุ่งเสริมอีเวนต์ระดับโลก ลดแคมเปญโปรโมชันแต่จะจัดเต็มรูปแบบมากขึ้น ทุ่มงบตลาด 800 ล้านบาทปลุกตลาด พร้อมอัด 1,000 ล้านบาทยกเครื่องระบบไอที
น.ส.วรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์การทำตลาดใหม่ เพื่อรองรับตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะการเข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 โดยใช้กลยุทธ์ Customer - Centric Segmentation และ One-to-One Personalization อีกทั้งต้องพัฒนาระบบไอทีใหม่ๆ เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจด้วย โดยจะใช้งบประมาณ 1,000 ล้านบาท ในการปรับระบบไอทีเพื่อทำระบบ ERP (Enterprise Resource Planning)
ส่วนแนวทางการทำตลาดจากนี้ไป ได้ตั้งงบประมาณตลาดไว้ที่ 800 ล้านบาท ซึ่งแนวทางการทำตลาดด้วยการเน้นไปที่การจัดอีเวนต์มากขึ้นกว่าเดิม กว่า 300 งานต่อปี และจะลดการทำโปรโมชันด้านลดราคา จากเดิมเฉลี่ย 20 ครั้งต่อปี จะเหลือประมาณ 12 ครั้งต่อปี เนื่องจากถ้าทำมากลูกค้าก็จะรอเฉพาะช่วงโปรโมชันเท่านั้น แต่จะนำอีเวนต์มาเป็นตัวกระตุ้นแทน คาดว่าจะทำให้ปริมาณลูกค้าเพิ่มถึง 15-20% โดยในส่วนของอีเวนต์จะเน้นไปที่อีเวนต์ใหญ่เพิ่มเติม โดยเฉพาะอินเตอร์เนชันแนลอีเวนต์เข้ามาบริการมากขึ้นด้วย
น.ส.วรลักษณ์กล่าวต่อว่า “ธุรกิจค้าปลีกมีอัตราเติบโตของมูลค่าธุรกิจครึ่งปีหลังอยู่ที่ประมาณ 4-5% ส่งผลต่อการฟื้นตัวของธุรกิจค้าปลีก ทำให้เกิดความคึกคักในการจับจ่ายใช้สอยและธุรกิจการท่องเที่ยวให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ค้าปลีกออนไลน์ หรือ E-Commerce เป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันเราอยู่ในยุค Sharing Economy ผู้บริโภคให้ความสำคัญต่อการสื่อสารผ่านทางโซเชียลมีเดียมากขึ้น เรียกคนกลุ่มนี้ว่า “Socialnomics” และเมื่อระบบดิจิตอลเข้ามามีบทบาทจนทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลง ทางเดอะมอลล์ ชอปปิ้งเซ็นเตอร์ ก็ต้องปรับกลยุทธ์การตลาดตามไปด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในครึ่งปีหลังนี้ได้ปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคดิจิตอล และตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยใช้กลยุทธ์ Customer - Centric Segmentation และ One-to-One Personalization การทำกิจกรรมและโปรโมชันให้สอดคล้องกับกลุ่มลูกค้าแต่ละไลฟ์สไตล์ลูกค้าในแต่ละ Segment นอกจากนี้ยังได้มีการกำหนดทิศทางกลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมายดังนี้
1. Online Digital การเข้าสู่ยุคการตลาด 4.0 ที่ต้องใช้ดิจิตอลเป็นตัวขับเคลื่อนในการสร้างประสบการณ์ใหม่ในการชอปปิ้ง ผ่านมุม (3D) Data, Digital และ Delight Data ศึกษาพฤติกรรมฐานข้อมูลลูกค้าเพื่อให้เข้าใจความต้องการในปัจจุบันและอนาคต เข้าใจประสบการณ์การใช้ชีวิต เข้าถึงสื่อการสื่อสารทางการตลาดที่แตกต่างกันในแต่ละ Generation โดยเฉพาะเจเนอเรชันซี หรือ Gen-Z ที่เติบโตมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวก ชอบการใช้เทคโนโลยีต่างๆและอัพเดทข้อมูลข่าวสาร ผ่านโลกไซเบอร์ และพร้อมที่จะแชร์ต่อทุกเมื่อ เปิดรับข่าวสารแบบ Digital Media เป็นหลัก GEN Z มีความพร้อมที่จะเปลี่ยนความจงรักภักดีจากแบรนด์หนึ่งไปยังอีกแบรนด์หนึ่งหากคุณภาพของแบรนด์ไม่ได้มาตรฐาน โดยในปีที่ผ่านมาทางเดอะมอลล์กรุ๊ป มีการลงทุนพัฒนาระบบฐานข้อมูลสมาชิก ซอฟต์แวร์รองรับกับการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก Big Data นำข้อมูลการจับจ่ายช้อปซื้อสินค้าผ่านบัตร MCard ซึ่งเป็นบัตรสมาชิกที่ครอบคลุมของทั้งห้างและศูนย์ฯ มาศึกษาเชิงลึกเพื่อวางแผนกลยุทธ์การตลาดในแต่ละ Life-Stage (ช่วงชีวิต) และ Lifestyles พฤติกรรมซื้อสินค้า ช่วงเวลา แบรนด์ที่ชอบ ประเภทสินค้าที่ต้องการในอนาคต (Multi-dimension Segmentation)
ทั้งนี้ เดอะมอลล์ได้ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจในการวางแผนระบบเครือข่ายให้บริการ Free Wi-Fi ให้ครอบคลุมทั้งพื้นที่ห้างฯ และศูนย์การค้า โดยเริ่มจาก เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์, เดอะมอลล์ โคราช, บลูพอร์ต หัวหิน และขยายต่อไปในสาขาอื่นๆ โดยนำข้อมูล Digital footprint ที่ได้มาศึกษาพฤติกรรมการเดินภายในศูนย์การค้า วางแผนจัดกิจกรรม การจัดพื้นที่ให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ Delight การตลาดดิจิตอลเชิงลึกทั้ง Social Media Analytic Platform, Marketing Automation System มุ่งเน้นการทำสร้างความแตกต่าง ด้วย Personalized Offers ไม่ว่าจะเป็นการส่ง SMS Email หรือ Mobile App แจ้งโปรโมชันหาลูกค้าในแต่ละรายตามแต่พฤติกรรมของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน เพื่อให้โดนใจและเข้าถึงมากที่สุด
2. Innovative CRM (MCard + Citi M) ปัจจุบันเดอะมอลล์มีลูกค้าที่เป็นสมาชิกบัตร MCard กว่า 3.5 ล้านคน ซึ่งเป็นบัตรสมาชิกที่ครอบคลุมของทุกห้าง (เดอะมอลล์, เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์, พารากอน และบลูพอร์ต หัวหิน) และศูนย์ฯ และในอนาคตหวังที่จะขยายกลุ่มลูกค้าต่อไปอีก โดย MCard ได้นำเรื่องเทคโนโลยีมาใช้และพัฒนาระบบต่างๆ โดยเฉพาะการทำการค้าปลีกในยุค 4.0 คือ Beyond Shopping Experience เป็น The Really Inner Experience โดยมีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ลูกค้าแต่ละคนก็จะมีความต้องการที่แตกต่างไม่เหมือนกัน เราก็จะต้องศึกษาจากความเปลี่ยนแปลงต่างๆ และนำข้อมูลมาวิเคราะห์ในเรื่องของ Data Mining เพื่อรู้ว่าต้องสื่อสารกับลูกค้าแต่ละกลุ่มเพื่อให้เข้าถึงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. การทำ Collaboration ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ เดอะมอลล์ ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ ได้มีการผนึกกำลังกับพันธมิตรทางธุรกิจในการทำแคมเปญและจัดกิจกรรมทางการตลาดมาอย่างต่อเนื่องตลอด 36 ปี เช่น พันธมิตรกลุ่มบัตรเครดิต, กลุ่มประกันชีวิต, กลุ่มเครือข่ายมือถือ, กลุ่มสายการบิน, กลุ่มยานยนต์, และอื่นๆ ซึ่งต่างก็มีกลุ่มลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์คล้ายคลึงกับเดอะมอลล์ ถือเป็นการผนึกกำลังให้เกิด Synergy ทางธุรกิจ และทำให้บรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
4. Dining and Lifestyle Lead Marketing จากการวิจัยพฤติกรรมของผู้บริโภคพบว่า ลูกค้าส่วนใหญ่จะมาห้างและศูนย์ฯ เพื่อรับประทานอาหารร่วมกันกับครอบครัว และเพื่อนฝูง ลำดับที่ 2 คือ การตามอัปเดตเทรนด์ใหม่ๆ ดูงานอีเวนต์ต่างๆ เพื่ออัพเดทตัวเองให้ทันข้อมูลตลอดเวลา เป็นต้น ในฐานะที่เดอะมอลล์ เป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์, กิจกรรม และเทรนด์ใหม่ๆ จึงได้เชิญ หม่อมหลวงภาสันต์ สวัสดิวัตน์ กูรูผู้เชี่ยวชาญด้าน dining และ โมเม-นภัสสร บุรณะศิริ กูรูผู้เชี่ยวชาญด้าน แฟชั่นบิวตี้ และไลฟ์สไตล์ ซึ่งทั้งสองท่านต่างมียอด Followers และแฟนคลับเป็นจำนวนมาก โดยนำเสนอผ่านโลกออนไลน์ อาทิ LIVE, สร้างคอนเทนต์แปลกใหม่ ให้ข้อมูลลูกค้าเกี่ยวกับเทรนด์, แบรนด์ หรือร้านค้าตลอดปี เพื่อที่ผู้บริโภคให้เข้ามามีส่วนร่วมแบบอินเตอร์แอ็กทีฟ ซึ่งจะช่วยสร้างประสบการณ์กับกลุ่มลูกค้าและช่วยส่งเสริมกิจกรรมการขายอีกทางหนึ่งด้วย
5. International Events เดอะมอลล์ ได้ผนึกกำลังร่วมกับพันธมิตรมากมาย นำเสนออีเวนต์ระดับโลก เช่น โชว์เต็มรูปแบบ GOT7 THAILAND TOUR “NESTIVAL” ครั้งแรกในภูมิภาคอีสาน ที่เดอะมอลล์โคราช, งาน AVATAR : Discover Pandora - Bangkok งาน World Exhibition Tour ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับ Interactive Exhibition ที่ผสมผสานศิลปะความบันเทิงและเทคโนโลยีจากภาพยนตร์ AVATAR, งาน The Mall Japan Discovery ถือเป็นงาน Signature ของเดอะมอลล์ โดยปีนี้เราได้ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เพื่อฉลองครบรอบ 130 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทย-ญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีงาน Countdown กิจกรรมส่งมอบความสุขส่งท้ายปีซึ่งจัดอย่างยิ่งใหญ่ และยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายในปีนี้
ด้าน น.ส.ดวงตา พงษ์วิไลย์ ผู้จัดการใหญ่การตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวถึงภาพรวม THE MALL ANNIVERSARY และรายละเอียดกิจกรรมทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นในครึ่งปีหลัง “เดอะมอลล์ ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ ได้ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ เช่น บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และบริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) และผนึกกำลังกับร้านค้า ทุ่มงบกว่า 50 ล้านบาท จัดงาน “THE MALL SHOPPING CENTER ANNIVERSARY HAPPY SURPRISE” พบกิจกรรมและโปรโมชันสุดเซอร์ไพรส์ ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน - 2 กรกฎาคม 2560 โดยมีพิธีเปิดงานในวันพฤหัสบดีที่ 1 มิถุนายน 2560 เวลา 15.00 น. ณ แฟชั่น ฮอลล์ ชั้น จี เดอะมอลล์ บางกะปิ พิเศษสำหรับ เดอะมอลล์ โคราช จัดเซอร์ไพรส์สุดยิ่งใหญ่ พบบอยแบนด์เกาหลีชื่อดังอย่าง GOT7 จัดการแสดงเต็มรูปแบบ GOT7 THAILAND TOUR “NESTIVAL” ครั้งแรกในภูมิภาคอีสาน ในวันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน 2560 เวลา 17.00 น. ที่เอ็มซีซี ฮอลล์ เดอะมอลล์ โคราช นอกจากนี้ยังได้จัดโปรโมชันพิเศษเอาใจขาชอป เช่น
- Lucky Surprise ลุ้นรางวัลทริปญี่ปุ่นเที่ยวเมืองโอซากา พร้อมตั๋วเครื่องบินไป-กลับ และที่พัก จำนวน 5 รางวัล รางวัลละ 2 ที่นั่ง รวมมูลค่า กว่า 6 แสนบาท เมื่อชอปภายในห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ และศูนย์การค้าเดอะมอลล์ ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ทุกสาขา ครบทุก 2,000 บาท พร้อมแสดงบัตร MCARD รับคูปองชิงโชค 1 ใบ พิเศษสำหรับลูกค้าบัตรเครดิต AEON ชอปครบทุก 1,000 บาท และสมาชิกบัตรไทยไลฟ์การ์ด ชอปครบทุก 2,000 บาท รับคูปองชิงโชค x3 ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน - 2 กรกฎาคม 2560
- Top Spender Surprise เมื่อชอปในศูนย์สูงสุด 80 ท่านแรกพร้อมแสดงบัตร MCARD พิเศษลูกค้าบัตรเครดิต AEON รับสิทธิ์ 16 ท่าน โดยมียอดขั้นต่ำ 30,000 บาท ขึ้นไป เฉพาะวันที่ 1-14 มิถุนายน 2560 รับฟรี! บัตรชมโชว์เต็มรูปแบบ GOT7 THAILAND TOUR “NESTIVAL” ในวันเสาร์ที่ 17 มิถุนายน 2560 ที่อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี
- Surprise Digital Box เมื่อชอปภายในศูนย์ฯครบ 1,000 บาท ลุ้นกล่องของรางวัลใน Surprise Digital Box และโปรโมชันอัดแน่นอีกมากมาย พิเศษสำหรับลูกค้าบัตรเครดิต AEON ชอปครบ 800 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน - 2 กรกฎาคม 2560 ที่ศูนย์การค้า เดอะมอลล์ ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ ทุกสาขา
- Shopping Surprise ชอปแล้วได้รับเพิ่มอีกมากมาย อาทิ ลูกค้าบัตรเครดิต AEON ชอปในศูนย์ฯ ครบ 5,000 บาท/ใบเสร็จ รับบัตรกำนัลห้างฯ มูลค่า 300 บาท พิเศษเสาร์-อาทิตย์รับเพิ่มเป็น 500 บาท, สมาชิกบัตรไทยไลฟ์การ์ด ฉลอง 75 ปี ไทยประกันชีวิต ทุกเสาร์-อาทิตย์ ลูกค้า 75 ท่านแรกที่ช้อปในศูนย์ฯ ครบ 2,000 บาท รับบัตรกำนัลห้างฯ มูลค่า 500 บาท พร้อมยังมีการแจกคะแนน M Point x10 เมื่อชอปในศูนย์ฯ รวมทั้งหมด 1,000,000 คะแนน
- Birthday Surprise วันที่ 24-25 มิถุนายน ฉลองวันเกิดเดอะมอลล์ รับฟรี SF Movie Voucher ซื้อ 1 แถม 1 รวมทั้งหมด 1,440 สิทธิ์
นอกจากนี้ ในครึ่งปีหลัง เดอะมอลล์ ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ ยังมีอีเวนต์ระดับเวิลด์คลาส การแสดงที่มีชื่อเสียงระดับโลกที่นำมาเอาใจลูกค้าเดอะมอลล์โดยเฉพาะ อาทิ
- งาน AVATAR : Discover Pandora - Bangkok ที่ถือเป็น World Exhibition Tour ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สัมผัสประสบการณ์เสมือนจริงกับ กับ Interactive Exhibition ที่ผสมผสานศิลปะ ความบันเทิงและเทคโนโลยี จากภาพยนตร์มหากาพย์ ผลงานผู้กำกับชื่อดัง เจมส์ คาเมรอน สัมผัสความมหัศจรรย์ของอาณาจักรแพนดอร่า ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม - 3 กันยายน 2560 ที่ เดอะมอลล์ บางกะปิ
- งาน The Mall Japan Discovery ที่สุดของงานเทศกาลญี่ปุ่นที่จำลองบรรยากศเสมือนได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นและรวบรวมของดีจากประเทศญี่ปุ่นไว้ในงาน อาทิ อาหาร ศิลปะและวัฒนธรรม ที่เดอะมอลล์ บางกะปิ ในวันที่ 8-18 กันยายน 2560
- Fan Meeting กับศิลปินชื่อดังจากเกาหลี ในเดือนกันยายนนี้ ที่ MCC HALL The Mall Bangkapi
- สุดยอดมหกรรมครั้งยิ่งใหญ่ที่รวบรวม Pop Culture จากทั่วโลก ของเล่น ของสะสมจากทั่วโลก Cosplay, Games และศิลปินจากประเทศญี่ปุ่น ที่ MCC HALL เดอะมอลล์ บางกะปิ และเดอะมอลล์ โคราช ในเดือนธันวาคมนี้
ทั้งนี้ น.ส.วรลักษณ์ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “ในช่วงครึ่งปีหลัง เดอะมอลล์ ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ หวัง Traffic เพิ่มขึ้น 15-20% คาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายในร้านค้ากว่า 1,200 ร้านค้า และบริการภายในศูนย์การค้า เดอะมอลล์ ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ โดยมุ่งเน้นการจัดกิจกรรมที่หลากหลายและโปรโมชันสุดพิเศษ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ Destination อย่างแท้จริง”