กลุ่มทรู ปรับแนวคิดการรับชมคอนเทนต์ผ่านสมาร์ทโฟนที่กลายเป็นช่องทางหลักในการเข้าถึงของผู้บริโภค ให้คนไทยเข้าถึงคอนเทนต์คุณภาพฟรี หวังปฏิวัติอุตสาหกรรมดิจิทัลให้ขาวสะอาด ภายใต้แอป “True ID” ที่รวมศูนย์บริการความบันเทิงในกลุ่มทรูมาให้ลูกค้าได้ใช้งาน ตั้งเป้าสิ้นปียอดผู้ใช้ 14 ล้านราย
นายเจริญ ลิ่มกังวาฬมงคล หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่ม ด้านการพาณิชย์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากพฤติกรรมการใช้งานโมบายอินเทอร์เน็ตของลูกค้าทรูมูฟ เอช พบว่า 92% ใช้ดาต้าเพื่อดูวิดีโอ โดย 59% ใช้เวลา 15 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และ 47% ดูผ่านสมาร์ทโฟนที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการที่มีหน้าจอใหญ่ขึ้น
ประกอบกับที่ผ่านมา ทรูมูฟ เอช มีการลงทุนทางด้านเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันเครือข่ายสามารถรองรับการสตรีมคอนเทนต์ ความละเอียดสูง (HD) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยล่าสุด ได้มีการติดตั้งเครือข่าย 4.5G ไปมากกว่า 7,000 สถานีฐานครอบคลุมทั่วประเทศ
“ในช่วงแรกที่ทรูมูฟ เอช เริ่มให้บริการดาต้า ได้มีการมองล่วงหน้าไว้แล้วว่า สุดท้ายประเภทการใช้งานที่ผู้บริโภคจะเกิดการใช้งานดาต้าสูงที่สุด จะจบที่การดูคอนเทนต์ความละเอียดสูง ดังนั้น เมื่อเครือข่ายพร้อมให้บริการ ภายในกลุ่มทรูมีคอนเทนต์ลิขสิทธิ์อยู่แล้ว ก็นำมาร่วมกันให้บริการตามแนวคิดตั้งต้นของกลุ่มคือ การคอนเวอร์เจนซ์บริการเข้าด้วยกัน”
นายสรรเสริญ สมัยสุต กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรู ดิจิตอล แอนด์ มีเดีย แพลตฟอร์ม จำกัด ให้ข้อมูลเสริมว่า สิ่งที่ True ID ต้องการทำให้เกิดขึ้นคือ ปฏิวัติธุรกิจดิจิทัลให้ขาวสะอาด ด้วยการนำคอนเทนต์ดี มีคุณภาพให้คนทั่วไปได้เสพฟรีๆ และจะเปลี่ยนวัฏจักรในสังคมให้คนระดับล่างมีโอกาสในการเข้าถึงคอนเทนต์ลิขสิทธิ์ในราคาที่จับต้องได้
“เราใจกว้างพอที่จะเปิดให้ผู้บริโภคไม่ว่าใช้ค่ายไหนก็สามารถใช้งานแอป True ID ได้ ทั้งการให้บริการทีวี 87 ช่อง คอนเทนต์กีฬาไม่ว่าจะเป็นฟุตบอล 7 ลีก 5 ถ้วย ที่มีการถ่ายทอดสด ภาพยนตร์ต่างๆ รวมถึงคอนเทนต์ไลฟ์สไตล์ทั้งหลายภายในแอปเดียว”
เบื้องต้น แอปพลิเคชัน True ID จะเหมือนเป็นการรวมศูนย์ความบันเทิงของกลุ่มทรูเข้ามาไว้ด้วยกัน โดยในอนาคตก็จะเริ่มนำแอปทั้งหลายที่ให้บริการไม่ว่าจะเป็น H TV, H Music และอื่นๆ เข้ามารวมอยู่ภายในแอปเดียว โดยภายในปีนี้ตั้งเป้าว่าจะมีลูกค้าดาวน์โหลดใช้งานแอป True ID ไม่ต่ำกว่า 12 ล้านครั้ง และรวมการใช้งานจากทุกช่องทาง 14 ล้านราย เพื่อแสดงให้เห็นถึงการสื่อสารแบบ Omni Channel และคาดว่าจะขยายการให้บริการไปยังประเทศเพื่อนบ้านภายใน 5 ปีข้างหน้า
สำหรับเงินลงทุนในส่วนของ True ID คือ แต่ละปีจะใช้เงินมากกว่า 1 พันล้านบาท เพื่อใช้ในการซื้อลิขสิทธิ์เพลง ภาพยนตร์ รวมถึงการนำคอนเทนต์จากทรูวิชั่นส์ และพันธมิตรต่างๆ มาให้บริการแก่ลูกค้า เพื่อขยายฐานลูกค้าที่ใช้งานให้กว้างที่สุด
เบื้องต้น ลูกค้าทรูมูฟ เอช แบบรายเดือนที่เปิดใช้งานแพกเกจใหม่ 4G+ FUN unlimited ในราคา 699-1,899 บาทต่อเดือน และลูกค้าแบบเติมเงินซิม Super Fun ราคา 49 บาท รับสิทธิใช้บริการแอปพลิเคชัน True ID Premium Hdฟรี 12 เดือน ส่วนลูกค้าในกลุ่มทรูใช้บริการฟรี 12เดือน
ส่วนลูกค้าที่ใช้งานค่ายอื่นจะได้สิทธิดูฟรี Premium HD 1 เดือนก่อน หลังจากนั้น ถ้าต้องการสมัครใช้งานต่อจะมีออกมาในรูปแบบของรายเดือน โดยในขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยราคาออกมา เพราะต้องดูการตอบรับในการใช้งานก่อน แต่ยืนยันว่าเป็นราคาที่รับได้
โดยภายใน True ID จะมีการแบ่งแพกเกจในการใช้บริการออกเป็น 3 ระดับด้วยกัน คือ Basic HD รับชมทีวีได้ 64 ช่อง พร้อมกีฬาเด่น และหนังบางเรื่อง ถัดมาคือ Extra HD ดูทีวีฟรี 72 ช่อง ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก พร้อมดูหนังแบบบุฟเฟต์ และ Premium HD ดูทีวีเด่น 87 ช่อง กีฬาจาก 7 ลีก 5 ถ้วย และภาพยนตร์แบบไม่จำกัด