รองนายกฯ ย้ำ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับใหม่ ถูกปรับปรุงแก้ไขให้ทันเทคโนโลยี ช่วยป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลมากกว่าการจ้องเข้าถึงข้อมูลประชาชน ขอให้ประชาชนสบายใจ ขออย่าตีความกฎหมายแบบผิดๆ ด้านที่ปรึกษาก มธ. พิจารณาร่างกฎหมายการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ ชี้กลุ่มเคลื่อนไหวใช้ข้อมูลเก่าสมัยกระทรวงไอซีที ยันร่างฯ ปรับแก้อยู่ในระดับน่าพอใจ ยันไม่มีเปิดทางตั้งซิงเกิลเกตเวย์
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า จากกรณีที่เครือข่ายพลเมืองเน็ต ได้ทำการล่ารายชื่อผ่านเว็บไซต์ change.org เพื่อคัดค้าน ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ฉบับที่…. พ.ศ….. ที่จะเข้าสู่การพิจารณาวาระ 3 ของที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อขอให้ สนช.ทบทวนร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวก่อนนำเข้าสู่วาระ 3 โดยเฉพาะประเด็นมาตรา 20 การระงับการทำให้แพร่หลาย หรือการปิดกั้นเว็บไซต์นั้น
ทั้งนี้ อยากให้ประชาชนเข้าใจว่าตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์พ.ศ.2550 ฉบับแรกมีการใช้งานมาร่วม 10 ปี และเพื่อให้เข้ากับยุคของการใช้งานเทคโนโลยีดิจิตอลปัจจุบันที่ต้องให้สอดคล้องกับความเป็นจริง โดยกระทรวงดีอี ได้มีการปรับเพิ่มในประเด็นสำคัญ 3 ประเด็น อาทิ 1.การปรับปรุงเนื้อหากฎหมายเดิมให้มีความทันสมัย 2.ปรับเพิ่มเนื้อหากฎหมายในเรื่องของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อเป็นการป้องกันคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และ 3.ในเรื่องของไซเบอร์ซีเคียวริตี
นอกจากนี้ ที่ประชุม สนช.ยังได้มีการปรับปรุง แก้ไขเนื้อหาของกฎหมายกว่า 20 ประเด็น เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์มากที่สุด และการที่เจ้าหน้าที่รัฐจะเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ล้วนแต่เพื่อปกป้องประชาชนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต จึงอยากให้ประชาชนมั่นใจว่า การปรับปรุงแก้กฎหมายใน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับใหม่ จะช่วยปกป้องสิทธิให้กับประชาชน ไม่ได้ไปปิดกั้น หรือนำข้อมูลส่วนบุคคลมาเผยแพร่ในสิ่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างแน่นอน จึงอยากให้ประชาชนสบายใจ และไม่อยากให้ตีความกันแบบผิดๆ อีก
ด้าน นายไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายอิเล็กทรอนิกส์ และที่ปรึกษากรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่..) พ.ศ... กล่าวถึงร่างที่มีการแก้ไข และบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่า ร่างฯ แก้ไขล่าสุดได้มีการปรับปรุงในระดับที่น่าพอใจ โดยมีการปรับแก้มาตราที่หลายฝ่ายมีความเป็นห่วง อาทิ การระงับการทำให้แพร่หลาย หรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ (คำสั่งให้ปิดเว็บไซต์) ให้มีคณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูลคอมพิวเตอร์ จำนวน 5 คนเป็นผู้พิจารณาแล้วเสนอความเห็นให้ศาลมีคำสั่งระวังการแพร่หลาย หรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยได้บัญญัติเพิ่มเติมห้ามมิให้พนักงานสอบสวนเปิดเผย หรือส่งมอบข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลของผู้ใช้บริการแก่บุคคลใดโดยกำหนดโทษเจ้าพนักงานที่ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ
ส่วนประเด็นการเคลื่อนไหวคัดค้านกฎหมายโดยอ้างข้อมูลว่า ร่างฯ อาจเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน และเข้าข่ายมีการกลั่นกรองข้อมูล หรือเป็นซิงเกิลเกตเวย์ เมื่อตรวจสอบแล้วเป็นการนำข้อมูลตั้งแต่กระทรวงดีอี ยังเป็น กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ที่เสนอผลการศึกษา และความเห็นในการจัดทำร่างฯ ตั้งแต่ยังไม่เข้าสู่การพิจารณาวาระแรก สำหรับประเด็นซิงเกิลเกตเวย์ ในการจัดทำร่างฯ ไม่มีส่วนใดที่บัญญัติให้มีการตั้งซิงเกิลเกตเวย์ แม้จะอ้างว่า ร่างฯ กำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี ออกระเบียบเกี่ยวกับการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ได้ ก็ไม่เป็นความจริง เพราะประกาศซึ่งมีอำนาจรองจากกฎหมายหลักย่อมไม่สามารถบัญญัติให้มีการตั้งหน่วยงาน หรือการกระทำใดที่ไม่ได้บัญญัติไว้ในกฎหมายหลักได้