EGA ประเดิมทำบิ๊กดาต้าภาครัฐแห่งแรก เลือกข้อมูลการจราจรกรมทางหลวงเป็นต้นแบบ พร้อมดึงเนคเทค เป็นที่ปรึกษาด้านเทคนิค กระทรวงไอซีทีหนุนสุดตัว เผยเตรียมดันภาครัฐไทยเข้าสู่ยุคขับเคลื่อนด้วยข้อมูล
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า การทำบันทึกข้อตกลงเรื่องการสร้างต้นแบบการจัดการข้อมูลมหาศาล (บิ๊กดาต้า) ระหว่างสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ EGA กับศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือ NECTEC และกรมทางหลวง ถือเป็นครั้งแรกของหน่วยงานภาครัฐไทยที่นำบริการบิ๊กดาต้ามาใช้ ทั้งที่เป็นข้อมูลที่มีการบันทึกโดยคน และข้อมูลที่มีการจัดเก็บโดยอุปกรณ์ และไหลผ่านเครือข่าย (Internet of Things) มาวิเคราะห์ผ่านระบบประมวลผลขนาดใหญ่ เพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน ด้านบริการของภาครัฐสู่ประชาชน และเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันของประเทศต่อไป
ทั้งนี้ การเดินหน้ามุ่งไปสู่รัฐบาลดิจิตอลนับจากนี้ต่อไปอีก 3 ปี ภาครัฐไทยจะเข้าสู่การบูรณาการข้อมูลภาครัฐ เพื่อวางโครงสร้างการจัดระเบียบชุดข้อมูล การบริหารข้อมูล และการเปิดเผยข้อมูล ซึ่งปีนี้จะเป็นปีของการนำข้อมูลที่มีอยู่ออกมาเปิดเผยสู่สาธารณะ ต่อจากนั้นจะมีการวางระบบข้อมูลใหม่เพื่อให้เหมาะสมต่อการใช้งานยุคดิจิตอล เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจภายในประเทศ โดยภาครัฐจะมีการปรับโครงสร้างด้านการบริหารงาน เพื่อรองรับยุคการขับเคลื่อนของข้อมูลข่าวสารอย่างจริงจัง (Data Driven) และจะมีการตั้งผู้บริหารข้อมูลสารสนเทศ (Chief Data Officer) หรือ CDO ในแต่ละองค์กรเพื่อวางระบบฐานข้อมูล การจัดเก็บ การใช้งาน และการเผยแพร่ใหม่
นอกจากนั้น จะมีการผลิตนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Scientist) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญสาขาใหม่เกิดขึ้นเพื่อรองรับการบริหารจัดการข้อมูลให้สามารถใช้ประโยชน์จากบิ๊กดาต้าได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยขณะนี้ภาครัฐได้สร้างความร่วมมือกับองค์กรพันธมิตร และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง สร้างแนวคิดร่วมกันเพื่อนำไปต่อยอดสู่การวางแผนกลยุทธ์ และยุทธศาสตร์ต่างๆ ให้เกิดเป็นรูปธรรมได้อย่างชัดเจน และยั่งยืน
ดังนั้น ยุคนี้การบูรณาการด้านข้อมูลจะกลายเป็นภาพใหญ่ที่ภาครัฐจะให้ความสำคัญ และทุ่มเทมากขึ้น และพร้อมที่จะนำข้อมูลที่ได้ไปขับเคลื่อนการบริหารงานในประเทศเพื่อสร้างความโปร่งใส และขยายศักยภาพเพื่อพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต ซึ่งจะเห็นว่า ภาครัฐจะมีกิจกรรมส่งเสริมการบูรณาการข้อมูลแทบจะทุกด้าน
ด้านนายศักดิ์ เสกขุนทด ผู้อำนวยการ EGA กล่าวว่า ทิศทางการพัฒนารัฐบาลดิจิตอลที่สำคัญที่ได้กำหนดไว้ในแผนนี้ คือ การจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Big Data Management & Data Analytics) ซึ่งส่งผลให้เกิดเป็นโครงการศึกษาวิจัยข้อมูลมหาศาล (บิ๊กดาต้า) ขึ้น เพื่อนำไปสู่การบูรณาการข้อมูลภาครัฐที่เป็นประโยชน์ต่อการวางโครงสร้างข้อมูล การจัดสร้างข้อมูล การวิเคราะห์หาคุณค่า จากแหล่งข้อมูล และจัดหาเครื่องมือต่างๆ ที่จะนำข้อมูลบิ๊กดาต้ามาใช้ร่วมกัน รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัดการข้อมูลของภาครัฐที่มีอยู่อย่างมหาศาลให้ได้คุณค่า และสร้างประสิทธิภาพการทำงานให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด
การทำบันทึกข้อตกลงครั้งนี้ ทาง EGA จะเข้ามาสนับสนุนระบบบริการคลาวด์ภาครัฐ (Government Cloud Service) สำหรับการจัดเก็บข้อมูลของกรมทางหลวงแบบบิ๊กดาต้า และสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศที่ใช้ในจัดเก็บข้อมูลแบบบิ๊กดาต้า ขณะเดียวกัน EGA จะนำข้อมูลที่ได้รับการประมวลผลแล้วไปใช้ประโยชน์โดยผ่านโครงการข้อมูลเปิดภาครัฐ (Government Open Data) ของ EGA โดยข้อมูลที่นำไปใช้จะไม่เป็นข้อมูลส่วนบุคคล และไม่ขัดต่อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งข้อมูลของกรมทางหลวงทั้งหมด ทั้งก่อน และหลังการประมวลผล หากมีหน่วยงานอื่นต้องการนำข้อมูลไปใช้ต้องได้รับอนุญาตจากกรมทางหลวงก่อน และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ด้านงานวิจัยเท่านั้น ไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ได้
ขณะที่ นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า จากการที่กรมทางหลวงมีการจัดเก็บข้อมูลจากกล้องวงจรปิด และข้อมูลจากจุดสำรวจ ปริมาณจราจรชนิดติดตั้งถาวรจำนวนมาก รวมถึงข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ข้อมูลเหล่านี้เป็นประโยชน์ในการศึกษาวิจัย และจัดทำต้นแบบบิ๊กดาต้าได้เป็นอย่างดี เนื่องจากผลของการนำบิ๊กดาต้าไปใช้จะทำให้สามารถวิเคราะห์ และรายงานสภาพการจราจรออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชันแบบเรียลไทม์ หรือเสมือนจริงให้กับประชาชนได้ อีกทั้งข้อมูลการจราจรแบบภาพเคลื่อนไหวต้องใช้ทรัพยากรทางด้านไอทีในการวิเคราะห์แบบ Analytics ที่จะทำให้ได้ข้อมูลในเชิงลึกได้มากขึ้น โครงการนี้จึงนับเป็นต้นแบบที่จะนำข้อมูลมาวิเคราะห์แบบบิ๊กดาต้าให้เกิดขึ้นได้จริง และคาดว่า จะสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปต่อยอด หรือบูรณาการเข้ากับข้อมูลจากส่วนอื่นๆ ได้ต่อไป
นายศิวรักษ์ ศิวโมกษธรรม รองผู้อำนวยการเนคเทค กล่าวว่า หน้าที่ของเนคเทคในโครงการนี้ คือ การสนับสนุนให้คำปรึกษาในการปรับเปลี่ยนการติดตั้งกล้องวงจรปิดของกรมทางหลวง เทคนิคการเก็บข้อมูลจากกล้องวงจรปิด และการเชื่อมต่อข้อมูลจราจร ฯลฯ ตามที่เนคเทค เห็นว่า เหมาะสม พร้อมกับให้คำปรึกษาในการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อให้สามารถนำข้อมูลไปใช้กับการพัฒนาแอปพลิเคชันต่างๆ เพื่อให้บริการแก่ประชาชนสามารถก้าวสู่ Smart Citizen ได้อย่างแท้จริง