สถาบันไอเอ็มซีชี้ปีหน้าการลงทุนด้านไอทีในเมืองไทยจะเติบโตกว่า 10% และจะมีการลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท เผยทั้งธุรกิจโทรคมนาคม ธนาคาร และค้าปลีก จะหันมาใช้ไอทีในการให้บริการลูกค้าเพิ่มขึ้น เผยไทยชะลอการลงทุนมา 1-2 ปีแล้ว ถึงเวลาต้องใช้เงิน ส่วนนโยบายดิจิตอลอีโคโนมีของภาครัฐยังไม่ชัดเจนทำให้เงินลงทุนในด้านนี้ยังไม่เกิด ชี้คลาวด์ และบิ๊กดาต้าจะเห็นได้อย่างชัดเจน และมีความสำคัญกับธุรกิจไทยในปี 2016 แน่นอน
ดร.ธนชาติ นุ่มนนท์ ผู้อำนวยการ สถาบัน IMC กล่าวว่า การลงทุนจะมากขึ้นเพราะ 4G จะเข้ามาทำให้ไอทีฝั่งโทรคมนาคมเติบโต เช่นเดียวกับในกลุ่มอุตสาหกรรมการเงินก็จะเติบโตขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะการเปลี่ยนคอร์แบงกิ้ง และหันมาเน้นการออนไลน์มากขึ้น ส่วนในกลุ่มอุตสาหกรรมค้าปลีกก็จะมีการปรับตัวเพื่อเข้าถึงลูกค้าด้วยไอทีเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ ที่ผ่านมา การลงทุนในประเทศได้ชะลอมากว่า 1-2 ปีแล้ว ดังนั้น ถึงเวลาที่ต้องมีการลงทุนกันแล้วทั้งฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ ทำให้การลงทุนไอทีภาพรวมของไทยในปีหน้า น่าจะเติบโตเกิน 10% และจะมีการลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท โดยการประมูล 4G จะทำให้เกิดการลงทุนด้านโครงข่ายเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับกลุ่มธนาคารจะมีการนำโมบายแบงกิ้งและดิจิตอลแบงกิ้งเข้ามาใช้ รวมทั้งกลุ่มค้าปลีกจะมีการแข่งขันกัน และจะมีการนำอนาไลติกเข้ามาวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าแบบเจาะลึก มีการทำรอยัลตีของลูกค้ามากขึ้น และมีการทำออนไลน์เพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่สำหรับการลงทุนภาครัฐยังคงสวนทาง เนื่องจากนโยบายดิจิตอลแบงกิ้งยังไม่มีความชัดเจนมากนัก ทำให้การลงทุนในส่วนนี้ไม่ค่อยขยายตัว
ล่าสุด สถาบัน IMC ได้ทำการวิจัยเชิงสำรวจเรื่อง Cloud Computing in Thailand Readiness Survey พบว่า หน่วยงานในประเทศไทยมีความตื่นตัวในการใช้ คลาวด์ คอมพิวติง มากขึ้น หน่วยงานมากกว่าครึ่งหนึ่งมีการทำหรือมีแผนที่ใช้ไพรเวตคลาวด์ และก็มีหน่วยงานจำนวนมากสนใจที่จะใช้พับลิกคลาวด์ โดยเฉพาะในส่วนของ
SaaS แต่ทั้งนี้ คาดว่าจะเห็นการใช้งานเทคโนโลยีคลาวด์จะมาอย่างชัดเจนในปีหน้า
“ทุกองค์กรจะให้ความสนใจทั้งพับลิกคลาวด์ และไพรเวตคลาวด์ โดยเฉพาะบริการ SaaS ทั้งระบบอีเมล หรือระบบซอฟต์แวร์สร้างงานเอกสาร เช่น Office อินฟราสตรักเจอร์ คลาวด์ คอมพิวติง จะมีการใช้งานมากขึ้น และคาดว่าจะมีบริษัทจำนวน 55% ที่ใช้ คลาวด์ในรูปแบบต่างๆ อาทิ IaaS, PaaS หรือ SaaS”
ดร.ธนชาติ กล่าวว่า นอกจากนี้ บิ๊กดาต้า จะเข้ามามีบทบาทสูงในองค์กรธุรกิจ เนื่องจากธุรกิจทุกส่วนมีแนวโน้มประยุกต์ และลงทุนโครงข่ายข้อมูลขนาดใหญ่ ซึ่งไม่เพียงหน่วยงานโทรคมนาคม หรือธนาคาร แต่หลายภาคอุตสาหกรรมต่างเห็นความสำคัญและลงทุน เพื่อนำเทคโนโลยีบิ๊กดาต้ามาเสริมแกร่งทางธุรกิจ ดังนั้น ในปีหน้าการใช้งานเทคโนโลยี คลาวด์ คอมพิวติ้ง และ บิ๊กดาต้า จะยังเป็นเทรนด์ที่โดดเด่นในปี 2016 โดยเฉพาะองค์กรจะหันมาใช้ซอฟต์แวร์สร้างงานเอกสาร รวมถึงอินฟราสตรักเจอร์ คลาวด์ คอมพิวติง ในภาพรวมมากขึ้น
สำหรับในส่วนของการใช้ พับลิกคลาวด์ หน่วยงานส่วนใหญ่ยังใช้บริการของต่างประเทศ ซึ่งในแง่ของ SaaS จะเน้นการใช้บริการทางด้านอีเมล, Desktop/Office และ Storage จากการสัมภาษณ์ พบว่า หน่วยงานต่างๆ เห็นประโยชน์ของการนำคลาวด์ คอมพิวติง มาใช้ในแง่ของการลดค่าใช้จ่าย ทำงานได้อย่างต่อเนื่อง การขยายขนาดของการใช้งานได้รวดเร็ว รวมถึงความมีเสถียรภาพของระบบ แต่ยังห่วงในเรื่องของความปลอดภัย การขาดบุคลากร รวมถึงกฎระเบียบที่ไม่เอื้ออำนวย
ทั้งนี้ คาดว่าตลาดอุปกรณ์ไอทีพกพา หรือโมบายจะขยายตัวชัดเจนในปีหน้า โดยเฉพาะปริมาณการใช้งานสมาร์ทโฟนที่จะเพิ่มขึ้น ส่งให้การใช้แอปพลิเคชันจากสมาร์ทโฟนเพื่อสั่งการอุปกรณ์ต่างๆ (Internet of Things) มีตลาดที่ขยายตัวตามไปด้วย และ 4G จะเป็นปัจจัยเสริมที่ทำให้ปริมาณการใช้สมาร์ทโฟนของคนไทยเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่มี 30 กว่าล้านเครื่อง ซึ่งคาดว่าปีหน้าจะเติบโตประมาณ 45 ล้านเครื่อง และจะทำให้ภาพรวมการใช้งานเทคโนโลยีในองค์กรธุรกิจ และผู้บริโภคทั่วไปขยายตัวยิ่งขึ้นชัดเจนเมื่อเทียบกับปี 2015
