xs
xsm
sm
md
lg

EMC เตรียมเพิ่ม Value Add พาร์ตเนอร์เจาะตลาดเฉพาะทาง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายนฐกร พจนสัจ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อีเอ็มซี อินฟอร์เมชั่น ซิสเท็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด
อีเอ็มซี เผยแม้เศรษฐกิจยังไม่สดใสแต่องค์กรใหญ่ยังต้องลงทุนเทคโนโลยีใหม่เพื่อรับมือต่อการแข่งขัน เผยต้องเร่งสร้างความรู้ความเข้าใจ และให้ใช้งานเทคโนโลยีใหม่แบบจริงจัง เพราะลูกค้าบางกลุ่มยังกลัวการเปลี่ยนผ่าน เผยซอฟต์แวร์จะมีอิทธิพลต่อโลกดิจิตอลมากขึ้น อีเอ็มซีจึงต้องเตรียมเพิ่มพาร์ตเนอร์เฉพาะด้านเพื่อเจาะตลาดเฉพาะทาง พร้อมเปิดตัวสตอเรจ และซอฟต์แวร์-ดีฟาย สตอเรจ รุ่นใหม่ลงตลาด

นายนฐกร พจนสัจ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อีเอ็มซี อินฟอร์เมชั่น ซิสเท็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แม้เศรษฐกิจภาพรวมจะยังดูไม่ค่อยดีนัก แต่ในครึ่งปีหลังตลาดองค์กรขนาดใหญ่มีความจำเป็นต้องลงทุนอยู่ เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรง และมีความจำเป็นต้องลงทุนต่อเทคโนโลยีใหม่ แต่ขณะนี้ธุรกิจยังกลัวที่จะเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี เนื่องจากเกรงว่าเมื่อลงทุนกับเทคโลยีที่ไม่เหมาะสมแล้วจะก่อให้เกิดการสูญเสียค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น ดังนั้น อีเอ็มซีจึงต้องให้ความรู้แก่ตลาด และนำเสนอเทคโลยีใหม่ที่ใช้งานได้จริง และเห็นผลได้อย่างชัดเจน

มีการคาดการณ์กันว่า ในปี 2563 ประชากรโลก 7,000 ล้านคน จะมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านอุปกรณ์ จำนวน 3 หมื่นล้านเครื่อง และทำให้ดิจิตอลเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทำให้ซอฟต์แวร์จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานต่างๆ ซึ่งอีเอ็มซีได้ลงทุนทางด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ประมาณ 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 11-13% ต่อปี เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น

ปัจจุบัน อีเอ็มซีอยู่ในลำดับที่ 6 ของบริษัทซอฟต์แวร์ระดับโลก มีซอฟต์แวร์ที่สามารถเข้าไปอินทริเกรตซอฟต์แวร์ของผู้ให้บริการรายอื่นได้อย่างหลากหลาย ทั้งจากการซื้อ และเข้าไปวิจัยและพัฒนาให้สามารถเชื่อมซอฟต์แวร์ต่างๆ ที่มีอยู่ในตลาดเข้าด้วยกัน ซึ่งการที่ซอฟต์แวร์โตขึ้นจะส่งผลให้การบริการของอีเอ็มซีเติบโตขึ้นตามไปด้วย และกำลังเตรียมการเพิ่มจำนวนพาร์ตเนอร์เพื่อรองรับการขยายตัวดังกล่าว

“อีเอ็มซีมีคอนเซ็ปต์ในเรื่องของ Value Add พาร์ตเนอร์ ซึ่งเป็นพาร์ตเนอร์ที่มีทักษะเฉพาะในส่วนของซอฟต์แวร์เฉพาะด้าน เช่น ไมโครซอฟท์ ออราเคิล เพื่อเข้ามาให้บริการแก่ลูกค้าที่ใช้ซอฟต์แวร์เหล่านี้ สำหรับตลาดในเมืองไทยหลังจากที่อีเอ็มซีเปลี่ยนบทบาทมาเป็นบริษัทที่นำเสนอโซลูชัน ทำให้ตลาดองค์กรภาครัฐเติบโตขึ้น เนื่องจากมีความเข้าใจ และต้องการจะเปลี่ยนเทคโนโลยีที่มีอยู่ไปสู่สิ่งที่ทันสมัยกว่า”

นายนฐกร กล่าวว่า สำหรับ เทรนด์เทคโนโลยีที่กำลังจะมาประกอบด้วย 1.As a Service โดยเฉพาะคลาวด์ และเวอร์ชวลไลเซชัน 2.บิ๊กดาต้า 3.ซิเคียวริตี โดยเฉพาะการมาของคลาวด์ที่ทำให้ความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากไม่สามารถรู้ได้เลยว่าคลาวด์เหล่านั้นมาจากที่ไหน และ 4.แบ็กอัป และดาต้าโพรเทคกชัน กลายเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน

สำหรับ 4 เทรนด์ดังกล่าวนั้น อีเอ็มซีมีตอบสนองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการบริการ As a Service ทั้งในส่วนของคลาวด์ และเวอร์ชวลไลเซชัน บิ๊กดาต้า ที่อีเอ็มซีมีบริษัทที่ตั้งขึ้นมาเฉพาะเพื่อทำเรื่องบิ๊กดาต้าเพียงอย่างเดียว เช่นเดียวกับในส่วนของซิเคียวริตี และดาต้าโพรเทกชัน ที่อีเอ็มซีพร้อมให้บริการแบบครบวงจรแล้ว นอกจากนี้ อีเอ็มซีได้เปิดให้ทดลองใช้บริการซอฟต์แวร์ของอีเอ็มซีฟรี เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ใช้งานได้จริง

ด้าน นายสุรักษ์ ธรรมรักษ์ ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสฝ่ายเทคโนโลยี อีเอ็มซี กล่าวว่า อีเอ็มซีเน้นการช่วยให้งานไอทีกลายเป็นเรื่องง่าย โดยล่าสุด ได้เปิดตัวเวอร์ชันอัปเดตของ XtremIO สตอเรจแบบออล-แฟลช อาเรย์ และ VMAX3 แพลตฟอร์มดาต้าเซอร์วิสสำหรับองค์กรธุรกิจ มีการทำงานแบบอัตโนมัติ และการจัดการข้อมูลที่ดีกว่าเดิม ลดความยุ่งยากในการบริหารทรัพยากรไอที ทั้งการย่นระยะเวลาในการปฏิบัติงานทั่วไปจากหลายชั่วโมงเหลือเพียงไม่กี่นาที หรือช่วยตัดขั้นตอนบางอย่างไปเลย

นอกจากนี้ วีซีอี บริษัทในเครืออีเอ็มซี ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ VxRack สตอเรจแบบไฮเปอร์คอนเวอร์จที่ควบรวมการทำงานของ หน่วยประมวลผลเน็ตเวิร์ก และสตอเรจ เข้าไว้ในเครื่องเดียว ช่วยทำให้การติดตั้งแอปพลิเคชัน เน็กซ์เจน สำหรับโทรศัพท์มือถือ คลาวด์ และเทียร์ 2 สะดวกรวดเร็วขึ้น

รวมไปถึงการวางจำหน่ายเวอร์ชวลไลซ์ซอฟต์แวร์สแต็ค EMC vVNX Community Edition ผลิตภัณฑ์รุ่นนี้จะเข้ามาตอบโจทย์ขององค์กรที่กำลังจะหันมาใช้ซอฟต์แวร์-ดีฟาย สตอเรจ เพื่อช่วยให้การพัฒนาซอฟต์แวร์มีความคล่องตัว และยืดหยุ่นมากขึ้น รวมไปถึงอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม VNX คือ แวเรียนท์ 3 TB VNXe3200 all-flash ซึ่งถือเป็นออล-แฟลช อาเรย์แบบรวมศูนย์
กำลังโหลดความคิดเห็น