เดลล์ มั่นใจครึ่งปีหลังเศรษฐกิจไทยเริ่มขยับหลังภาคธุรกิจต้องทำการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีเพื่อการแข่งขัน ส่วนภาครัฐเริ่มเห็นเม็ดเงินเข้าสู่ระบบมากขึ้น ตั้งเป้าการเติบโตปีนี้ 12% พร้อมรุกตลาดองค์กรด้วยกลยุทธ์ 4 ด้าน ชี้หลังปรับธุรกิจมาเป็นมาเป็นบิสิเนสโซลูชันส่งผลให้ยอดขายทั่วโลกโต 4% เช่นเดียวกับลูกค้าในเมืองไทยที่เริ่มเข้าใจช่องทางการขายผ่านพาร์ตเนอร์มากขึ้น
นายอโณทัย เวทยากร กรรมการผู้จัดการ เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจของไทยมีการชะลอตัวไปพอสมควร เช่นเดียวกับไตรมาสแรกของปีนี้ที่โครงการภาครัฐยังไม่เดินหน้าไปเท่าใดนัก แต่เดลล์มองว่า ครึ่งปีหลังจะดีขึ้นเพราะธุรกิจต่างๆ จะเริ่มลงทุนหลังจากที่หยุดมานาน ประกอบกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปทำให้ธุรกิจต้องปรับตัวตาม รวมไปถึงโครงการภาครัฐที่จะมีเงินอัดฉีดให้เดินหน้าโครงการได้ ซึ่งทั้งหมดก่อให้เกิดปัจจัยบวกที่จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจภาพรวม โดยเดลล์ได้วางเป้าหมายที่จะโต 12% ในปีนี้
ในปีนี้การทำตลาดขณะนี้เดลล์โฟกัสไปที่กลุ่มองค์กรเป็นหลัก เพราะเป็นยุคของการทรานฟอร์เมชันที่โมบาย คลาวด์ และบิ๊กดาต้า จะเข้ามาส่งผลให้เกิดเวิร์กโหลดแบบใหม่ และต้องอาศัยวิธีการด้านไอทีที่แตกต่างไปจากเดิม ทำให้องค์กรขนาดใหญ่ต้องการความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจให้สามารถปรับเปลี่ยน และรองรับการขยายงานได้อย่างราบรื่น
“ปัจจุบันลูกค้าของเดลล์กว่า 50% พร้อมที่จะเข้าสู่คลาวด์แล้ว ซึ่งเดลล์ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้อยู่ตลอดเวลา ส่วนอินเทอร์เน็ตออฟธิงค์ หรือ IoT ที่กำลังจะมานั้น ขณะนี้เริ่มมีการขับเคลื่อนในเรื่องนี้ไปบ้างแล้ว และเดลล์ก็พร้อมที่จะนำเสนอสิ่งเหล่านี้ให้แก่ลูกค้าที่สนใจ เช่นเดียวกับเทคโนโลยีของเซิร์ฟเวอร์ สตอเรจ เน็ตเวิร์กกิง ซึ่งทุกๆ 3-5 ปี จะมีฟอร์มแฟกเตอร์ใหม่ขึ้นมา เดลล์ก็พร้อมที่จะนำเสนอรุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาดเช่นกัน”
สำหรับการทำตลาดนั้น เดลล์มีกลยุทธ์ใน 4 ด้าน ประกอบด้วย 1.Tranform โดยทำอย่างไรที่จะปรับเปลี่ยนดาต้าเซ็นเตอร์แบบเดิมให้เป็นไอทียุคใหม่ ในรูปแบบของเวอร์ชวลไลเซชัน คลาวด์ ซึ่งเดลล์มีโซลูชันที่ครบครันในการช่วยให้ลูกค้าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ 2.Connect หรือการเชื่อมต่อไม่ว่าจะเป็นดีไวซ์ต่างๆ ซึ่งเดลล์มีพร้อมทุกอุปกรณ์ให้บริการแบบครบครัน รวมไปถึงโมบิลิตี และอินเทอร์เน็ตออฟธิงค์ ที่เริ่มเข้ามามีบทบาทเช่นกัน
3.Inform การจัดการตั้งแต่การเก็บข้อมูลผ่านซอฟต์แวร์ดีไฟน์สตอเรจ และนำข้อมูลมาวิเคราะห์ สังเคราะห์ และคาดการณ์เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ ซึ่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ข้อมูลมีการก้าวกระโดดไปอย่างรวดเร็วมาก และสุดท้ายคือ 4.Protect เรื่องการปกป้องความปลอดภัยซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้ เพราะเป็นการรักษาไม่ให้องค์กรได้รับผลกระทบจากการถูกโจมตี โดยเดลล์หวังว่าลูกค้าจะนำยุทธศาสตร์หลักของเดลล์ทั้ง 4 ข้อนี้ไปเป็นยุทธศาสตร์หลักของตนเองด้วย เพื่อสร้างควาพร้อมให้แก่ธุรกิจ
นายอโณทัย กล่าวว่า หลังจากเดลล์ได้ทำการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจมาเป็นบิสิเนสโซลูชัน ทำให้มีอัตราการเติบโตของเดลล์ทั่วโลกโตถึง 4% เช่นเดียวกับการปรับการขายผ่านพาร์ตเนอร์ จากเดิมที่ขายตรงเพียงอย่างเดียว ทำให้ในปีที่ผ่านมา ลูกค้าในเมืองไทยมีการซื้อผ่านช่องทางนี้กว่า 50% ส่วนในปีนี้เดลล์ตั้งเป้าให้ลูกค้าจะซื้อผ่านช่องทางดังกล่าวเพิ่มเป็น 70% และจะยังคงสร้างความแข็งแกร่งให้แก่พาร์ตเนอร์เพื่อให้เข้าใจธุรกิจของเดลล์มากขึ้น
Company Relate Link :
Dell
