ทรู บิสิเนส เผยรายได้ปีที่ผ่านมา มีรายได้ 1.2 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 28% จากรายได้รวมของกลุ่มทรูทั้งหมด ส่วนปีนี้ตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 10% มั่นใจตลาดองค์กรธุรกิจยังคงลงทุนด้านไอที เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน พร้อมจัดโซลูชันด้านบิ๊กดาต้า คลาวด์ และ IoT ตอบสนองความต้องการของเทรนด์เทคโนโลยี และตอบโจทย์ทุกความต้องการของทุกธุรกิจ
นายทรงธรรม เพียรพัฒนาวิทย์ ผู้อำนวยการบริหารด้านลูกค้าองค์กรธุรกิจและบริการระหว่างประเทศ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา ธุรกิจของทรู บิสิเนส มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถสร้างรายได้ประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 28% ของรายได้รวมธุรกิจกลุ่มทรูทั้งหมด ซึ่งในจำนวนนี้รายได้ 50% มาจากลูกค้าองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีอยู่ จำนวน 4,000 ราย ส่วนในปีนี้ทรู บิสิเนส คาดว่า จะสามารถสร้างรายได้ให้เติบโตขึ้นได้ประมาณ 10%
การตั้งเป้าการเติบโตดังกล่าวเป็นผลมาจากการที่ธุรกิจขนาดใหญ่ยังคงลงทุนด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพราะมองว่ามีความคุ้มค่า และต้องการตามกระแสเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้ทัน รวมไปถึงตลาดบริการสื่อสารโทรคมนาคมสำหรับลูกค้าองค์กรธุรกิจยังมีการขยายตัว เช่นเดียวกับแนวโน้มการใช้งานด้านโมบิลิตี และสมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ จะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น และที่สำคัญ คือ การผลักดันของภาครัฐในการสร้างระบบเศรษฐกิจก้าวไปสู่ความเป็นดิจิตอล และการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ทำให้องค์กรธุรกิจต้องสร้างความสามารถทางการแข่งขัน
“ในปีที่ผ่านมา ตลาดบริการสื่อสารโทรคมนาคมสำหรัลกลุ่มลูกค้าองค์กรธุรกิจมีมูลค่ารวมประมาณ 4.5 หมื่นล้านบาท ส่วนปีนี้คาดว่าจะเติบโตขึ้นประมาณ 10% โดยเทรนด์ในปีนี้บิ๊กดาต้ากลายเป็นเรื่องสำคัญที่ลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่จะให้ความสนใจมากขึ้น เพราะเริ่มมองเห็นความสำคัญของการจัดการข้อมูล เช่นเดียวกับคลาวด์ และ IoT หรือ Internet of Thing ที่ทรู มองว่า กำลังเป็นแนวโน้มของธุรกิจนับจากนี้ ซึ่งทรูก็สามารถให้บริการโซลูชันในด้านนี้แล้วเช่นกัน”
นายทรงธรรม กล่าวว่า สำหรับกลยุทธ์กาทำธุรกิจในปีนี้นั้น ทรู บิสิเนสจะยังคงใช้ยุทธศาสตร์คอนเวอร์เจนซ์ของกลุ่มทรู โดยใช้การลงทุนทางด้านอุปกรณ์กับเน็ตเวิร์กใช้รวมกับกลุ่มทรู เพื่อสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างครบวงจร รวมไปถึงการพัฒนาโซลูชันใหม่ๆ เพื่อรองรับต่อเทคโนโลยีใหม่ๆ เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีการซื้อซอฟต์แวร์ไปประมาณ 60 ล้านบาท แต่ในส่วนของการอิมพลีเมนต์ระบบต่างๆ กับลูกค้านั้น จะใช้งบประมาณปีละ 200 ล้านบาท
ด้าน น.ส.รัชนี ทีปประสาน ผู้อำนวยการด้านลูกค้าองค์กรธุรกิจ ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ทรูจะเข้าไปเป็นที่ปรึกษา และนำเทคโนโลยีของทรูเข้าไปผสมผสานกับความต้องการของลูกค้า เราไม่ได้จำกัดเฉพาะเทคโนโลยีว่าจะต้องเป็นของเจ้าใดเจ้าหนึ่ง แต่เราทำหน้าที่เป็นซิสเต็มอินทิเกรชัน ที่จะนำโซลูชัน และเทคโนโลยีจากหลายๆ เวนเดอร์ มาตอบสนองลูกค้าได้ตรงความต้องการ ซึ่งล่าสุด ทรูได้ซื้อแพลตฟอร์มเพื่อบริหารจัดการ M2M (Machine to Machine) โดยเฉพาะ เพื่อนำมาตอบสนองต่อตลาด IoT ที่กำลังเติบโต
นอกจากนี้ ที่ผ่านมา ยังได้เริ่มมีธุรกิจสนใจเข้ามาเป็นพาร์ตเนอร์ในลักษณะของความร่วมมือทางด้านเทคโนโลยี อย่างเช่น มิสทิน ได้ใช้มือถือ ซิมการ์ด และระบบต่างๆ เพื่อช่วยในการบริหารงานขาย ซึ่งทรูพร้อมที่จะเป็นพาร์ตเนอร์ในลักษณะนี้กับอีกหลายธุรกิจเช่นกัน เนื่องจากปัจจุบันมีบริการ และโซลูชันใหม่ที่หลากหลาย และสามารถตอบสนองทุกความต้องการของทุกธุรกิจได้อย่างเต็มรูปแบบ
Company Relate Link :
True
