เดวาส์ จับมือ NVIDIA ทำตลาดการ์ดจอรุ่นใหม่ พร้อมชูบริการคลาวด์ช่วยลูกค้าทำงานได้ทุกที่ ทุกเวลา ตั้งเป้าลูกค้ากลุ่มสถาปนิก วิศวกร หันมาใช้ 200-300 ราย เผยเดือน ก.พ.เปิดบริการคลาวด์บนมือถือ จับมือโอเปอเรเตอร์ทำตลาดร่วมกัน เชื่อแพกเกจ 4G กระตุ้นคนใช้งาน
นายศักรินทร์ ดวงจันทร์โชติ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดวาส์ เนเชอรัล จำกัด ผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายอุปกรณ์ไอที กล่าวว่า บริษัทได้จับมือกับ NVIDIA Corporation ผู้นำเทคโนโลยีกราฟิก และ LEADTEX Research ผู้ผลิตการ์ดจอ ในการทำตลาดการ์ดจอ NVIDIA Quadro M series 3 รุ่น ได้แก่ NVIDIA Quadro M4000 การ์ดจอสำหรับคนทำงาน ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Maxwell รุ่นใหม่ รองรับการแสดงผลความละเอียด 4K แบบ 4 ช่องทาง NVIDIA Quadro M5000 การ์ดจอสถาปัตยกรรม ให้ประสิทธิภาพในการประมวลผลกราฟิก รองรับการแสดงผล 5 ช่องทาง และรองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริม เช่น Quadro sync อุปกรณ์ 3D เหมาะสำหรับการทำงานหลายจอพร้อมกัน และ NVIDIA Quadro M6000 การ์ดจอเวิร์กสเตชัน รองรับการทำงานเวิร์กสเตชันทุกรูปแบบ พร้อมชุดระบายความร้อนแบบ Reference เทคโนโลยี Vapor Chamber รองรับการแสดงผลความละเอียดสูง 5 ช่องทาง
นอกจากการเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่แล้ว บริษัทยังได้เปิดตัวระบบ Deva’s Cloud Solution ซึ่งเป็นเทคโนโลยีคลาวด์ ที่มาพร้อมการ์ดจอ NVIDIA Quadro M series ที่ทำให้ผู้ใช้งานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และง่ายต่อการจัดการระบบ เนื่องจากสามารถทำงานจากคอมพิวเตอร์เครื่องใดก็ได้ เสมือนทำงานผ่านคอมพิวเตอร์ที่มีการ์ดจอที่มีประสิทธิภาพสูงอยู่ โดยองค์กรธุรกิจไม่จำเป็นต้องลงทุนติดตั้งคอมพิวเตอร์สเปกสูงทุกเครื่อง ทั้งนี้ คาดว่าจะมีกลุ่มลูกค้าทั้งที่เป็นกลุ่มสถาปนิก วิศวกร ซึ่งบริษัทมีฐานลูกค้าอยู่ประมาณ 5,000 ราย จะเปลี่ยนมาอัปเกรดเป็นการ์ดจอใหม่ประมาณ 200-300 ราย
สำหรับ Deva’s Cloud Solution มีบริการให้แก่ลูกค้า 3 กลุ่ม ได้แก่ บริการ Deva’s Home Cloud สำหรับลูกค้าที่ไม่ได้ต้องการประสิทธิภาพสูงในการใช้งานเพื่อทำโปรแกรมด้านกราฟิก แต่ต้องการใช้เพียงโปรแกรมทั่วไป บริการ Deva’s Professional Cloud สำหรับลูกค้าที่ต้องการใช้งานด้านกราฟิก เช่น กลุ่มวิศวกร สถาปนิก และบริการ Deva’s Enterprise Cloud สำหรับลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ โดยรูปแบบการให้บริการทั้ง 3 บริการนั้นบริษัทจะทำในรูปแบบไพรเวต คลาวด์ ซึ่งองค์กรต้องใช้เงินลงทุนขั้นต่ำประมาณ 5 ล้านบาทขึ้นไป
สำหรับจุดเด่นของบริษัท คือ การเป็นพันธมิตรกับผู้ผลิตการ์ดจอหลากหลาย โดยที่ผ่านมา ก็ได้จับมือกับเอเอ็มดี เพื่อทำการตลาดร่วมกันด้วย นอกจากนี้ ยังมีพันธมิตรครอบคลุมทุกด้านโดยเฉพาะเรื่องโปรแกรมซอฟต์แวร์ ซึ่งหากลูกค้าใช้บริการในรูปแบบคลาวด์ก็จะช่วยประหยัดต้นทุนในการจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย ขณะที่ดาต้า เซ็นเตอร์ของบริษัทที่ใช้อยู่กับบริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ จำกัด (มหาชน) ก็สามารถขยายได้หากมีลูกค้าเพิ่มขึ้น
นายศักรินทร์ กล่าวว่า ภายในเดือน ก.พ.2559 บริษัทจะเปิดบริการคลาวด์ในรูปแบบให้บริการผ่านโทรศัพท์มือถือด้วย ซึ่งบริการดังกล่าวจะแตกต่างจากการพัฒนาเป็นแอปพลิเคชัน เพราะผู้ใช้งานจะสามารถใช้งานทุกอย่างบนโทรศัพท์มือถือเสมือนการใช้งานจากคอมพิวเตอร์ของตนเองได้อย่างง่ายดาย ทุกที่ ทุกเวลา ขณะที่หากเป็นการใช้งานผ่านแอปพลิเคชันก็จะมีข้อจำกัดในการใช้งานได้ไม่เทียบเท่าการใช้ในคอมพิวเตอร์
โดยในระยะแรก บริษัทจะทำโปรโมชันให้ทดลองใช้ฟรี โดยจะจับมือกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ (โอเปอเรเตอร์) เพื่อทำให้แบรนด์ของบริการนี้เป็นที่รู้จักก่อน จากนั้นจึงจะเปิดบริการอย่างจริงจังด้วยการเน้นทำตลาดร่วมกับโอเปอเรเตอร์ เพราะเป็นผู้ที่มีงบในการทำการตลาด และระบบการเก็บเงินที่ดีอยู่แล้ว คาดว่าจะมีผู้ใช้งานทั้งที่เป็นองค์กรที่ใช้งานของบริษัทอยู่แล้ว และลูกค้าใหม่ โดยตั้งเป้าลูกค้าที่เป็นกลุ่มใช้งานด้านกราฟิกมาใช้บริการประมาณ 200-300 ราย ขณะที่กลุ่มลูกค้าทั่วไปซึ่งอาจเป็นลูกค้าใหม่ที่ใช้งานโปรแกรมทั่วไปประมาณ 700-1,000 ราย
“ผมว่าตอนนี้ประเทศไทยพร้อมแล้วที่จะใช้คลาวด์ เพราะเทคโนโลยี 4G เข้ามา ราคาแพกเกจต่อแบนด์วิธก็ถูกลง คนไม่กังวลเรื่องการดาวน์โหลดมาก หรือน้อยอีกต่อไป และไฟล์งานที่เรียกดูจากบริการของเรา เราก็จะบีบไฟล์ให้เล็กลงอยู่แล้ว เพื่อไม่ให้ลูกค้ากังวลว่าจะกินแบนด์วิธ ดังนั้น ในอนาคตหากรัฐบาลมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมให้ครอบคลุมทุกหมู่บ้าน ก็เป็นไปได้ว่าบริการของเราจะเข้าถึงคนทุกกลุ่มมากขึ้น”
Company Related Link :
Devas natural
