กลุ่มอินทัช พร้อมต่อยอดโครงการเพื่อสังคมรูปแบบใหม่ที่เน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มทั้งองค์กร และสังคม หรือ CSV (Creating Shared Value) ล่าสุด เพิ่มจำนวนพนักงาน Call Center 1188 ในทัณฑสถานบำบัดพิเศษหญิง คลอง 5 จ.ปทุมธานี จาก 20 คน เป็น 80 คน พร้อมเทเงินลงทุนขยายระบบรวม 3 ล้านบาท เผยปัจจุบันมีสัดส่วนในการทำ CSR ประมาณ 70% และ CSV ประมาณ 30%
นางวิไล เคียงประดู่ ประธานคณะกรรมการกลุ่มประชาสัมพันธ์ กลุ่มอินทัช กล่าวว่า กลุ่มอินทัชได้ดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมในรูปแบบใหม่ที่ช่วยสร้างคุณค่า และประโยชน์ร่วมกันระหว่างองค์กร และสังคม หรือที่เรียกว่า CSV-Creating Shared Value มาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด ได้ต่อยอดโครงการ Call Center 1188 ในทัณฑสถานบำบัดพิเศษหญิง คลอง 5 จ.ปทุมธานี โดยได้รับผู้ต้องขังเข้าเป็นพนักงานเพิ่มเป็นจำนวน 80 คน จากเดิม 20 คน เพื่อสร้างโอกาสให้แก่บุคคลเหล่านี้เพิ่มขึ้น
โดยโครงการ CSV ของกลุ่มอินทัชนั้นจะเน้นให้ความช่วยเหลือแก่บุคคล 2 กลุ่ม ประกอบด้วยกลุ่มบุคคลพิการ และบุคคลด้อยโอกาส ซึ่งที่ผ่านมา ได้ดำเนินการสร้างอาชีพให้แก่คนทั้ง 2 กลุ่มนี้มาอย่างต่อเนื่อง อย่างเช่น โครงการปลูกข้าวเพื่อสุขภาพโดยอินทัช ในพื้นที่เรือนจำชั่วคราวโคกตาบัน สังกัดเรือนจำกลาง จ.สุรินทร์ เพื่อให้ผู้ต้องขังมีรายได้ และอาชีพเลี้ยงตัวเองหลังพ้นโทษ และโครงการเอไอเอสคอลเซ็นเตอร์เพื่อผู้พิการ ซึ่งช่วยในการสร้างงาน และโอกาสให้แก่พวกเขาเหล่านี้
“CSV ถือเป็นหนึ่งในโครงการกิจกรรมเพื่อสังคมของกลุ่มอินทัช นอกเหนือไปจากการทำ CSR ในด้านอื่นๆ ซึ่งปัจจุบันกลุ่มอินทัชมีสัดส่วนในการทำ CSR ประมาณ 70% และ CSV ประมาณ 30% สำหรับโครงการ Call Center 1188 ในทัณฑสถานบำบัดพิเศษหญิงนี้ ได้ใช้งบประมาณการวางระบบประมาณ 3 ล้านบาท ซึ่งผู้ต้องขังที่เข้าร่วมเป็นพนักงานเมื่อพ้นโทษจะได้รับใบรับรองการทำงานเพื่อใช้ในการสมัครงานเพื่อสร้างโอกาสในสังคมต่อไป”
ด้าน นายอนันต์ แก้วร่วมวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการของบริษัท เทเลอินโฟมีเดีย ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของซีเอส ล็อกซอินโฟ ภายใต้กลุ่มอินทัช โดยได้ร่วมมือกับกรมราชทัณฑ์จัดตั้งโครงการตั้งแต่ปี 2555 เพื่อส่งเสริมการมีงานทำให้แก่ผู้ต้องขังหญิง ซึ่งเทเลอินโฟมีเดียเป็นผู้ฝึกอบรม วางระบบ เตรียมสถานที่ พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการทำงาน
ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา พบว่า ผู้ต้องขังมีศักยภาพในการทำงานที่ดี มีความตั้งใจทำงานไม่ได้ต่างไปจากพนักงานที่อยู่ภายนอก โดยมีรายได้ที่ชัดเจน และแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนหนึ่งผู้คุมจะนำมาใช้เป็นค่าใช้จ่ายเพื่อซื้อสิ่งของที่จำเป็นสำหรับผู้ต้องขัง และอีกส่วนหนึ่งทางกรมราชทัณฑ์จะทำการฝากเงินไว้ในบัญชีออมทรัพย์ให้แก่ผู้ต้องขังแต่ละคน เพื่อพ้นโทษแล้วจะได้มีเงินก้อนติดตัวไว้ใช้ นอกจากนี้ ผู้ต้องขังยังมีโอกาสเข้าทำงานกับบริษัทเทเลอินโฟมีเดีย ในตำแหน่ง Call Center อีกด้วย
Company Related Link :
อินทัช