กสท โทรคมนาคม จับมือ MFEC สร้างแอปพลิเคชันพร้อมให้บริการแบบคลาวด์ คาดใช้เวลา 3-6 เดือน วางแผนการตลาดร่วมกัน เดินหน้าปั้นแอปพลิเคชันรุกลูกค้าเอสเอ็มอี มั่นใจภายใน 2 ปี บริการคลาวด์มีลูกค้าเกิน 50% มากกว่าบริการดาต้า เซ็นเตอร์
นายชัยยุทธ สันทนานุการ รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดและการขาย บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กสท โทรคมนาคม ได้ลงนามความร่วมมือ บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFEC ผู้ประกอบธุรกิจให้คำปรึกษา พัฒนาและวางระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่ายงานเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อให้บริการด้าน Software as a Service (SaaS) บนคลาวด์ โดยใช้ระบบ Infrastructure as a Service (IaaS) จาก IRIS Cloud ของ กสท โทรคมนาคม ซึ่งการจับมือครั้งนี้ต้องใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือนในการศึกษาและวางแผนการตลาดร่วมกัน จึงยังไม่สามารถเปิดเผยเป้าหมายในการสร้างรายได้จากการจับมือครั้งนี้ได้
ความร่วมกันนั้น ทำให้ กสท โทรคมนาคม มีแพกเกจให้เลือกใช้บริการเพื่อความเหมาะสมในการใช้งานของแต่ละบุคคล องค์กร หรือหน่วยงานต่างๆ เช่น 1.Early BIRD Monitoring as a Service คือ บริการซอฟต์แวร์สำหรับเฝ้าระวังเหตุเสียหายต่างๆ ภายในระบบไอทีของลูกค้า ที่มีความแม่นยำ รวดเร็ว 2.Social Insight Application เป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถวิเคราะห์ข้อมูลบน Social Network ด้วยฟังก์ชันที่สามารถจับอารมณ์ความรู้สึกจากข้อความนำมาประมวลผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้ว่ามีคนพูดถึงแบรนด์คุณอย่างไร รู้ความคิดเห็นของผู้บริโภคได้อย่างง่ายดาย 3.PolarSign Digital Signature แพลตฟอร์มสำหรับลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ตามเทคโนโลยีมาตรฐานความปลอดภัย ระดับสากล สามารถยืนยันตัวตน (Identity) ให้ความมั่นใจในความถูกต้องของเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (Integrity) และเจตนา (Intent) ในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ทุกที่ ทุกเวลา
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา กสท โทรคมนาคม ได้จับมือกับบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์มาก่อนหน้านี้แล้ว 2-3 ราย คาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นอีก 1-2 ราย ภายในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ บริษัทยังมีโครงการสร้างนักพัฒนาแอปพลิเคชั่น โดยร่วมมือกับหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้คาดว่าจะเริ่มโครงการภายในปีนี้ ขณะเดียวกันยังได้เตรียมสร้างมาร์เกตเพลสเพื่อนำแอปพลิเคชันที่บริษัทให้บริการมาให้กลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) สามารถเข้ามาเลือกใช้บริการในราคาไม่แพงได้
นายชัยยุทธ กล่าวว่า สำหรับบริการคลาวด์จะเป็นบริการที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องปีละ 30% ทุกปี โดยคาดว่าปีนี้จะมีรายได้อยู่ที่ 275 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 220 ล้านบาท ทั้งนี้ ปัจจุบันลูกค้าส่วนใหญ่ยังคงใช้บริการดาต้า เซ็นเตอร์อยู่ 60% บริการคลาวด์ 40% คาดว่าภายใน 2 ปีสัดส่วนลูกค้าใช้บริการคลาวด์จะเพิ่มขึ้นเกิน 50%
ด้าน นายธนกร ชาลี ประธานกรรมการฝ่ายปฏิบัติการ MFEC กล่าวว่า บริษัทใช้งบประมาณในการวิจัย และพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อสร้างแอปพลิเคชันประมาณ 10 ล้านบาท ทั้งนี้ ในการพัฒนาการให้บริการ IRIS Cloud Platform ซึ่งการผนึกกำลังของ 2 องค์กรใหญ่ในครั้งนี้ มีเป้าหมายสำคัญเพื่อนำเสนอบริการด้านไอทีที่จะเป็นประโยชน์ต่อองค์กรทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน
สำหรับ กสท โทรคมนาคม มีความแข็งแกร่งในด้านการให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมของประเทศ มุ่งพัฒนาศักยภาพบริการต่างๆ โดยเฉพาะมุ่งวางรากฐานด้านโครงสร้างพื้นฐานของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างต่อเนื่อง ทั้ง ดาต้า เซ็นเตอร์ ที่ครอบคลุมมากที่สุดในประเทศ และได้ผ่านการรับรองมาตรฐานการก่อสร้างระดับสากล และโครงสร้างพื้นฐานด้านคลาวด์ ที่มีความปลอดภัย และเสถียรภาพสูง ส่วนความแข็งแกร่งของ MFEC คือ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการเป็นผู้ให้บริการพัฒนา วางระบบคอมพิวเตอร์ และเครือข่ายงานเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยความร่วมมือกันในครั้งนี้จะทำให้สามารถนำเสนอบริการทางด้าน คลาวด์ คอมพิวติ้ง ที่มีคุณภาพ และครบถ้วนทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Infrastructure as a Service, Platform as a Service รวมถึงการนำผลิตภัณฑ์ทางซอฟต์แวร์ซึ่งเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของ MFEC เองขึ้นให้บริการเป็น Software as a Service ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ทางด้านบิ๊กดาต้า และระบบลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น ซึ่งเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ และบริการ รวมทั้งเป็นประโยชน์ สร้างทางเลือกที่คุ้มค่าให้แก่ลูกค้าของทั้ง 2 องค์กร
นอกจากนี้ MFEC ยังสามารถเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ กสท โทรคมนาคม ด้วยทีมงานวิศวกรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะผลิตภัณฑ์ย่อยที่นำมาใช้ในดาต้า เซ็นเตอร์ รวมถึงทีมงานในการบริหารจัดการระบบในศูนย์ปฏิบัติการดาต้า เซ็นเตอร์ ที่มีความรู้ และประสบการณ์ในการดูแลการปฏิบัติการในดาต้า เซ็นเตอร์ ของสถาบันการเงินชั้นนำของประเทศไทย ตลอดจนมีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐ และเอกชนด้วย